กทม. 1 เม.ย.-“องอาจ” นำทีม กทม. ลุยคลองสามวา ช่วย “เกศกานดา” ขอเสียงสนับสนุน ย้ำนโยบายแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5-น้ำท่วม
พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ตลาดเคซี 1 จัดกิจกรรม “รถโชว์ โพลิซี” (Roadshow Policy) นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร และ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตคลองสามวา รวมไปถึงยังมี นางสาวณัฐิดา ตาเฟ็ส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตหนองจอก-คลองสามวา และนายสุนันท์ มีนมณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตมีนบุรี-สะพานสูง
นายองอาจ กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าหากได้พูดคุยกับประชาชนให้เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไร คิดจะทำอะไร มีนโยบายอะไร พร้อมด้วยผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็จะให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ และนี่คือเหตุผลที่ต้องจัดขบวนรถออกไปพบปะพี่น้องตามที่สถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะตลาดตอนเช้าหรือเย็น เพื่อขอโอกาสให้ผู้สนับสนุนผู้สมัครของพรรคเข้าไปทำงานช่วยเหลือประชาชน แต่การจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ในทางการเมืองก็ต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเราไม่สามารถที่จะเลือกตัวเองได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชนคือคนที่ให้โอกาสนักการเมือง ไปทำงาน
นายองอาจ กล่าวต่ออีกว่า ทุกคนคงจะทราบดีว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาชาวกรุงเทพมหานครตัดสินใจไม่ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกรุงเทพมานคร แต่แม้ว่าจะไม่มี ส.ส.เพียงคนเดียว แต่ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมเราได้พยายามทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร มีหลายคนสบประมาทพรรคประชาธิปัตย์ว่าเมื่อไม่มี ส.ส.แล้วจะได้ผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก.ได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าผลการเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง และยังใดเก้าอี้ ส.ก.มาอีก9ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นน้ำใจที่ชาวกรุงเทพมานครมอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์
“หลายครั้งเราอาจทำงานถูกใจท่านบ้าง ไม่ถูกใจท่านบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้พี่น้องต้องกลับมาเลือกเราอีกเพราะเราคือลูกหลานที่มีความซื่อสัตย์กับพี่น้อง แม้บางครั้งอาจจะทำอะไรที่ไม่ถูกใจ ท่านก็ไม่สนับสนุนเรา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกใจ ท่านท่านก็ยังไม่ลืมลูกหลานของท่าน ที่ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็จะกลับมาให้การสนับสนุนเหมือนเดิม” นายองอาจ กล่าว
ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.ในเขตคลองสามวา แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าถ้าประชาชนสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะมาช่วยแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม รถติด หรือฝุ่นP.M. 2.5 ดังนั้นจึงขอโอกาสให้ตน และน.ส.เกศกานดาได้มีโอกาสในการเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับทุกท่าน
ดร.สุชัชวีร์ ยังระบุว่า วันนี้หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับชีวิตของครอบครัวคือ เรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะการเรียนจบระดับปริญญาตรี วันนี้ต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ตนมาดูแลกรุงเทพมหานคร และให้โอกาสทำนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศนโยบายสร้างคน โดนเด็กไทยทุกคนจะต้องเรียนปริญญาตรีฟรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์รู้ว่าการเรียนปริญญาตรีมีความสำคัญต่อชีวิต สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ปีแรกลูกคนไทยทุกคนจะได้เรียนฟรีไม่มีค่าหน่วยกิต โดยช่วงแรกจะเริ่มในสาขาที่ตลาดต้องการก่อน เพราะต้องการให้เด็กที่จบการศึกษาไปแล้วมีงานทำ มีเงิน จากนั้นทุกคนจะได้เรียนฟรี
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำโครงการฟังคิดทำ ซึ่งเป็นการไปพบกับประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น จากนั้นนำมาคิด และก็นำมาทำเป็นนโยบาย ซึ่งปรากฏว่าประชาชนต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์และผู้บริหารบ้านเมืองแก้ปัญหาอันดับแรกของกรุงเทพมานคร คือ เรื่องของP.M. 2.5 ส่วนปัญหาถัดไป คือเรื่องของการทุจริต ความปลอดภัยเมือง พรรคประชาธิปัตย์จึงมีแนวคิดว่า “ไม่เอากัญชา ทำลายยาบ้า ยาเสพติด และการทุจริตคือวิกฤตชาติ” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดพรรคประชาธิปัตย์จะออกกฏหมายดำเนินการจะออกกฏหมายดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มโทษ โดยผู้สนับสนุนการช่วยเหลือจะต้องรับโทษเท่ากัน และจะต้องมีสถานบำบัดที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติด ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี รวมถึงยกสถานะของ ป.ป.ส.ให้มีอำนาจในการสอบสวนเอง โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปที่ตำรวจ เพื่อเป็นการคานอำนาจซึ่งกัน จะได้ทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง
น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาบอกว่าทำไมวันนี้จะมาบอกว่าทำไมชาวคลองสามวาจะต้องเปลี่ยน ส.ส.คนเดิมเป็นน.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมาช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 น.ส.เกศกานดาได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็ตาม ซึ่งคลองสามวามีปัญหามากมาย แล้วที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหา ส.ส.ที่เลือกไปได้มาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนบ้างหรือไม่ การเลือก ส.ส.นั้น เพื่อต้องการให้เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในสภา ไปผลักดันโครงการต่างๆที่มีประโยชน์ ไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไปผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อกระจายโอกาสมาสู่พี่น้องประชาชน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเดียวที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนครอบงำชี้นำพรรค ที่ต้องพูดแบบนี้ซ้ำซ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเมื่อพรรคการเมืองมีกลุ่มทุนครอบงำพรรค เมื่อเราเลือก ส.ส.เข้าไปในสภา เขาก็จะฟังเจ้าของพรรคมากกว่าประชาชน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงพักเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุน ไม่มีครอบครัวชี้นำ จึงทำให้พี่น้องชาวคลองสามวามั่นใจได้จริงๆว่าเทื่อเลือก น.ส.เกศกานดา อินช่วย เข้าไปในสภา เขาจะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องได้อย่างดีที่สุด
น.ส.วทันยา ยังย้ำอีกว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดแบบลดแลกแจกแถม แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่คนไทยมา 77 ปี ดังนั้นทุกนโยบายที่จัดทำต้องรับผิดชอบ เพราะพรรคจะต้องอยู่กับสังคมไทยไปอีกยาวนาน เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ไม่รู้ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังคงอยู่หรือไม่ เราจึงต้องทำนโยบายที่นำเสนอมาโดยต้องปฏิบัติได้จริงและจะทิ้งภาระไว้ให้ลูกหลาน อย่างเช่น นโยบายธนาคารชุมชน 2 ล้านบาท เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เข้าถึงเงินทุนอย่างเท่าเทียมกัน หรือจะเป็นนโยบายเงินอุดหนุนชมรมผู้สูงอายุ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มองว่าผู้สูงอายุ คือ คนสำคัญของประเทศ เราจึงมีนโยบายอุดหนุนเงินให้ผู้สูงอายุได้ไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะเราไม่ได้มองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ แต่มองว่าเป็นผู้มีบุญคุณ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ขณะที่ น.ส.เกศกานดา กล่าวขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนตนเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา ตนพิสูจน์แล้วว่า 1 คะแนนของทุกคน มีค่าสำหรับตนในการทำงานในพื้นที่ โดย 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร จะเห็นทีมงานของตนลงไปดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ในเขตคลองสามวาอย่างตลอด และแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้การแบ่งเขตจะทำให้คลองสามวาเหลือเพียง 3 เขต แต่ขอยืนยันว่าจะดูแลพี่น้องประชาชนทั่ง 5 เขตเหมือนเดิม
น.ส.เกศกานดา ยังได้กล่าวถึงนโยบาย ว่า ทุกวันนี้ปัญหาฝุ่น P.M.2.5 มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายประกาศสงครามกับฝุ่น P.M.2.5 และจะผลักดันให้มีกฎหมายอากาศสะอาด และพรรคประชาธิปัตย์เรายังจะจัดแนวป้องกันน้ำท่วม ประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะดูแลขาว กทม. เป็นอย่างดี และตนยืนยันว่าจะดูแลชาวคลองสามวา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยนโยบาย Delta Works Thailand ของพรรคประชาธิปัตย์ทำได้แน่นอน และจะทำให้ดูถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล
นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังห่วงใยสุขภาพของทุกคน ทั้งกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ เพราะบางคนเข้าถึงการรักษาได้ช้า ดังนั้นการที่เราจะรู้ว่าเราป่วยเป็นอะไรบ้าง จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพ พรรคประชาธิปัตย์จึงยืนยันที่จะดูแลสุขภาพของทุกคน โดยจะจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีทุกปี ทุกคน เพราะเราเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี และจะไม่มีวันสนับสนุนเรื่องนี้ให้มาทำลายอนาคตลูกหลานเรา.-สำนักข่าวไทย