“องอาจ” นำทีมช่วย “เกศกานดา” หาเสียงคลองสามวา

กทม. 1 เม.ย.-“องอาจ” นำทีม กทม. ลุยคลองสามวา ช่วย “เกศกานดา” ขอเสียงสนับสนุน ย้ำนโยบายแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5-น้ำท่วม

พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ตลาดเคซี 1 จัดกิจกรรม “รถโชว์ โพลิซี” (Roadshow Policy) นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร และ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตคลองสามวา รวมไปถึงยังมี นางสาวณัฐิดา ตาเฟ็ส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตหนองจอก-คลองสามวา และนายสุนันท์ มีนมณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตมีนบุรี-สะพานสูง


นายองอาจ กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าหากได้พูดคุยกับประชาชนให้เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไร คิดจะทำอะไร มีนโยบายอะไร พร้อมด้วยผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็จะให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ และนี่คือเหตุผลที่ต้องจัดขบวนรถออกไปพบปะพี่น้องตามที่สถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะตลาดตอนเช้าหรือเย็น เพื่อขอโอกาสให้ผู้สนับสนุนผู้สมัครของพรรคเข้าไปทำงานช่วยเหลือประชาชน แต่การจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ในทางการเมืองก็ต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเราไม่สามารถที่จะเลือกตัวเองได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชนคือคนที่ให้โอกาสนักการเมือง ไปทำงาน

นายองอาจ กล่าวต่ออีกว่า ทุกคนคงจะทราบดีว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาชาวกรุงเทพมหานครตัดสินใจไม่ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกรุงเทพมานคร แต่แม้ว่าจะไม่มี ส.ส.เพียงคนเดียว แต่ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมเราได้พยายามทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร มีหลายคนสบประมาทพรรคประชาธิปัตย์ว่าเมื่อไม่มี ส.ส.แล้วจะได้ผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก.ได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าผลการเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง และยังใดเก้าอี้ ส.ก.มาอีก9ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นน้ำใจที่ชาวกรุงเทพมานครมอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์


“หลายครั้งเราอาจทำงานถูกใจท่านบ้าง ไม่ถูกใจท่านบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้พี่น้องต้องกลับมาเลือกเราอีกเพราะเราคือลูกหลานที่มีความซื่อสัตย์กับพี่น้อง แม้บางครั้งอาจจะทำอะไรที่ไม่ถูกใจ ท่านก็ไม่สนับสนุนเรา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกใจ ท่านท่านก็ยังไม่ลืมลูกหลานของท่าน ที่ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็จะกลับมาให้การสนับสนุนเหมือนเดิม” นายองอาจ กล่าว

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.ในเขตคลองสามวา แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าถ้าประชาชนสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะมาช่วยแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม รถติด หรือฝุ่นP.M. 2.5 ดังนั้นจึงขอโอกาสให้ตน และน.ส.เกศกานดาได้มีโอกาสในการเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับทุกท่าน

ดร.สุชัชวีร์ ยังระบุว่า วันนี้หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับชีวิตของครอบครัวคือ เรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะการเรียนจบระดับปริญญาตรี วันนี้ต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ตนมาดูแลกรุงเทพมหานคร และให้โอกาสทำนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศนโยบายสร้างคน โดนเด็กไทยทุกคนจะต้องเรียนปริญญาตรีฟรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์รู้ว่าการเรียนปริญญาตรีมีความสำคัญต่อชีวิต สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ปีแรกลูกคนไทยทุกคนจะได้เรียนฟรีไม่มีค่าหน่วยกิต โดยช่วงแรกจะเริ่มในสาขาที่ตลาดต้องการก่อน เพราะต้องการให้เด็กที่จบการศึกษาไปแล้วมีงานทำ มีเงิน จากนั้นทุกคนจะได้เรียนฟรี


ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำโครงการฟังคิดทำ ซึ่งเป็นการไปพบกับประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น จากนั้นนำมาคิด และก็นำมาทำเป็นนโยบาย ซึ่งปรากฏว่าประชาชนต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์และผู้บริหารบ้านเมืองแก้ปัญหาอันดับแรกของกรุงเทพมานคร คือ เรื่องของP.M. 2.5 ส่วนปัญหาถัดไป คือเรื่องของการทุจริต ความปลอดภัยเมือง พรรคประชาธิปัตย์จึงมีแนวคิดว่า “ไม่เอากัญชา ทำลายยาบ้า ยาเสพติด และการทุจริตคือวิกฤตชาติ” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดพรรคประชาธิปัตย์จะออกกฏหมายดำเนินการจะออกกฏหมายดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มโทษ โดยผู้สนับสนุนการช่วยเหลือจะต้องรับโทษเท่ากัน และจะต้องมีสถานบำบัดที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติด ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี รวมถึงยกสถานะของ ป.ป.ส.ให้มีอำนาจในการสอบสวนเอง โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปที่ตำรวจ เพื่อเป็นการคานอำนาจซึ่งกัน จะได้ทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง

น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาบอกว่าทำไมวันนี้จะมาบอกว่าทำไมชาวคลองสามวาจะต้องเปลี่ยน ส.ส.คนเดิมเป็นน.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมาช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 น.ส.เกศกานดาได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็ตาม ซึ่งคลองสามวามีปัญหามากมาย แล้วที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหา ส.ส.ที่เลือกไปได้มาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนบ้างหรือไม่ การเลือก ส.ส.นั้น เพื่อต้องการให้เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในสภา ไปผลักดันโครงการต่างๆที่มีประโยชน์ ไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไปผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อกระจายโอกาสมาสู่พี่น้องประชาชน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเดียวที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนครอบงำชี้นำพรรค ที่ต้องพูดแบบนี้ซ้ำซ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเมื่อพรรคการเมืองมีกลุ่มทุนครอบงำพรรค เมื่อเราเลือก ส.ส.เข้าไปในสภา เขาก็จะฟังเจ้าของพรรคมากกว่าประชาชน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงพักเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุน ไม่มีครอบครัวชี้นำ จึงทำให้พี่น้องชาวคลองสามวามั่นใจได้จริงๆว่าเทื่อเลือก น.ส.เกศกานดา อินช่วย เข้าไปในสภา เขาจะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องได้อย่างดีที่สุด

น.ส.วทันยา ยังย้ำอีกว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดแบบลดแลกแจกแถม แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่คนไทยมา 77 ปี ดังนั้นทุกนโยบายที่จัดทำต้องรับผิดชอบ เพราะพรรคจะต้องอยู่กับสังคมไทยไปอีกยาวนาน เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ไม่รู้ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังคงอยู่หรือไม่ เราจึงต้องทำนโยบายที่นำเสนอมาโดยต้องปฏิบัติได้จริงและจะทิ้งภาระไว้ให้ลูกหลาน อย่างเช่น นโยบายธนาคารชุมชน 2 ล้านบาท เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เข้าถึงเงินทุนอย่างเท่าเทียมกัน หรือจะเป็นนโยบายเงินอุดหนุนชมรมผู้สูงอายุ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มองว่าผู้สูงอายุ คือ คนสำคัญของประเทศ เราจึงมีนโยบายอุดหนุนเงินให้ผู้สูงอายุได้ไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะเราไม่ได้มองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ แต่มองว่าเป็นผู้มีบุญคุณ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ขณะที่ น.ส.เกศกานดา กล่าวขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนตนเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา ตนพิสูจน์แล้วว่า 1 คะแนนของทุกคน มีค่าสำหรับตนในการทำงานในพื้นที่ โดย 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร จะเห็นทีมงานของตนลงไปดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ในเขตคลองสามวาอย่างตลอด และแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้การแบ่งเขตจะทำให้คลองสามวาเหลือเพียง 3 เขต แต่ขอยืนยันว่าจะดูแลพี่น้องประชาชนทั่ง 5 เขตเหมือนเดิม

น.ส.เกศกานดา ยังได้กล่าวถึงนโยบาย ว่า ทุกวันนี้ปัญหาฝุ่น P.M.2.5 มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายประกาศสงครามกับฝุ่น P.M.2.5 และจะผลักดันให้มีกฎหมายอากาศสะอาด และพรรคประชาธิปัตย์เรายังจะจัดแนวป้องกันน้ำท่วม ประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะดูแลขาว กทม. เป็นอย่างดี และตนยืนยันว่าจะดูแลชาวคลองสามวา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยนโยบาย Delta Works Thailand ของพรรคประชาธิปัตย์ทำได้แน่นอน และจะทำให้ดูถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังห่วงใยสุขภาพของทุกคน ทั้งกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ เพราะบางคนเข้าถึงการรักษาได้ช้า ดังนั้นการที่เราจะรู้ว่าเราป่วยเป็นอะไรบ้าง จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพ พรรคประชาธิปัตย์จึงยืนยันที่จะดูแลสุขภาพของทุกคน โดยจะจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีทุกปี ทุกคน เพราะเราเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี และจะไม่มีวันสนับสนุนเรื่องนี้ให้มาทำลายอนาคตลูกหลานเรา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย