“องอาจ” นำทีมช่วย “เกศกานดา” หาเสียงคลองสามวา

กทม. 1 เม.ย.-“องอาจ” นำทีม กทม. ลุยคลองสามวา ช่วย “เกศกานดา” ขอเสียงสนับสนุน ย้ำนโยบายแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5-น้ำท่วม

พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ตลาดเคซี 1 จัดกิจกรรม “รถโชว์ โพลิซี” (Roadshow Policy) นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร และ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตคลองสามวา รวมไปถึงยังมี นางสาวณัฐิดา ตาเฟ็ส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตหนองจอก-คลองสามวา และนายสุนันท์ มีนมณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตมีนบุรี-สะพานสูง


นายองอาจ กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าหากได้พูดคุยกับประชาชนให้เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไร คิดจะทำอะไร มีนโยบายอะไร พร้อมด้วยผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็จะให้การสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ และนี่คือเหตุผลที่ต้องจัดขบวนรถออกไปพบปะพี่น้องตามที่สถานที่ต่างๆทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะตลาดตอนเช้าหรือเย็น เพื่อขอโอกาสให้ผู้สนับสนุนผู้สมัครของพรรคเข้าไปทำงานช่วยเหลือประชาชน แต่การจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ในทางการเมืองก็ต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเราไม่สามารถที่จะเลือกตัวเองได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชนคือคนที่ให้โอกาสนักการเมือง ไปทำงาน

นายองอาจ กล่าวต่ออีกว่า ทุกคนคงจะทราบดีว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาชาวกรุงเทพมหานครตัดสินใจไม่ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกรุงเทพมานคร แต่แม้ว่าจะไม่มี ส.ส.เพียงคนเดียว แต่ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมเราได้พยายามทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร มีหลายคนสบประมาทพรรคประชาธิปัตย์ว่าเมื่อไม่มี ส.ส.แล้วจะได้ผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก.ได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าผลการเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนมาเป็นอันดับสอง และยังใดเก้าอี้ ส.ก.มาอีก9ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นน้ำใจที่ชาวกรุงเทพมานครมอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์


“หลายครั้งเราอาจทำงานถูกใจท่านบ้าง ไม่ถูกใจท่านบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้พี่น้องต้องกลับมาเลือกเราอีกเพราะเราคือลูกหลานที่มีความซื่อสัตย์กับพี่น้อง แม้บางครั้งอาจจะทำอะไรที่ไม่ถูกใจ ท่านก็ไม่สนับสนุนเรา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกใจ ท่านท่านก็ยังไม่ลืมลูกหลานของท่าน ที่ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็จะกลับมาให้การสนับสนุนเหมือนเดิม” นายองอาจ กล่าว

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี ส.ส.ในเขตคลองสามวา แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าถ้าประชาชนสนับสนุนผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะมาช่วยแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม รถติด หรือฝุ่นP.M. 2.5 ดังนั้นจึงขอโอกาสให้ตน และน.ส.เกศกานดาได้มีโอกาสในการเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับทุกท่าน

ดร.สุชัชวีร์ ยังระบุว่า วันนี้หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับชีวิตของครอบครัวคือ เรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะการเรียนจบระดับปริญญาตรี วันนี้ต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ตนมาดูแลกรุงเทพมหานคร และให้โอกาสทำนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศนโยบายสร้างคน โดนเด็กไทยทุกคนจะต้องเรียนปริญญาตรีฟรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์รู้ว่าการเรียนปริญญาตรีมีความสำคัญต่อชีวิต สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ปีแรกลูกคนไทยทุกคนจะได้เรียนฟรีไม่มีค่าหน่วยกิต โดยช่วงแรกจะเริ่มในสาขาที่ตลาดต้องการก่อน เพราะต้องการให้เด็กที่จบการศึกษาไปแล้วมีงานทำ มีเงิน จากนั้นทุกคนจะได้เรียนฟรี


ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำโครงการฟังคิดทำ ซึ่งเป็นการไปพบกับประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น จากนั้นนำมาคิด และก็นำมาทำเป็นนโยบาย ซึ่งปรากฏว่าประชาชนต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์และผู้บริหารบ้านเมืองแก้ปัญหาอันดับแรกของกรุงเทพมานคร คือ เรื่องของP.M. 2.5 ส่วนปัญหาถัดไป คือเรื่องของการทุจริต ความปลอดภัยเมือง พรรคประชาธิปัตย์จึงมีแนวคิดว่า “ไม่เอากัญชา ทำลายยาบ้า ยาเสพติด และการทุจริตคือวิกฤตชาติ” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดพรรคประชาธิปัตย์จะออกกฏหมายดำเนินการจะออกกฏหมายดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มโทษ โดยผู้สนับสนุนการช่วยเหลือจะต้องรับโทษเท่ากัน และจะต้องมีสถานบำบัดที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติด ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี รวมถึงยกสถานะของ ป.ป.ส.ให้มีอำนาจในการสอบสวนเอง โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปที่ตำรวจ เพื่อเป็นการคานอำนาจซึ่งกัน จะได้ทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง

น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้ตนจะมาบอกว่าทำไมวันนี้จะมาบอกว่าทำไมชาวคลองสามวาจะต้องเปลี่ยน ส.ส.คนเดิมเป็นน.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมาช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 น.ส.เกศกานดาได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็ตาม ซึ่งคลองสามวามีปัญหามากมาย แล้วที่ผ่านมาเมื่อมีปัญหา ส.ส.ที่เลือกไปได้มาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนบ้างหรือไม่ การเลือก ส.ส.นั้น เพื่อต้องการให้เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในสภา ไปผลักดันโครงการต่างๆที่มีประโยชน์ ไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไปผลักดันการแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อกระจายโอกาสมาสู่พี่น้องประชาชน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคเดียวที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนครอบงำชี้นำพรรค ที่ต้องพูดแบบนี้ซ้ำซ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเมื่อพรรคการเมืองมีกลุ่มทุนครอบงำพรรค เมื่อเราเลือก ส.ส.เข้าไปในสภา เขาก็จะฟังเจ้าของพรรคมากกว่าประชาชน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์เป็นเพียงพักเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุน ไม่มีครอบครัวชี้นำ จึงทำให้พี่น้องชาวคลองสามวามั่นใจได้จริงๆว่าเทื่อเลือก น.ส.เกศกานดา อินช่วย เข้าไปในสภา เขาจะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องได้อย่างดีที่สุด

น.ส.วทันยา ยังย้ำอีกว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดแบบลดแลกแจกแถม แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่คนไทยมา 77 ปี ดังนั้นทุกนโยบายที่จัดทำต้องรับผิดชอบ เพราะพรรคจะต้องอยู่กับสังคมไทยไปอีกยาวนาน เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ที่ไม่รู้ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังคงอยู่หรือไม่ เราจึงต้องทำนโยบายที่นำเสนอมาโดยต้องปฏิบัติได้จริงและจะทิ้งภาระไว้ให้ลูกหลาน อย่างเช่น นโยบายธนาคารชุมชน 2 ล้านบาท เพื่อต้องการให้ทุกคนได้เข้าถึงเงินทุนอย่างเท่าเทียมกัน หรือจะเป็นนโยบายเงินอุดหนุนชมรมผู้สูงอายุ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มองว่าผู้สูงอายุ คือ คนสำคัญของประเทศ เราจึงมีนโยบายอุดหนุนเงินให้ผู้สูงอายุได้ไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะเราไม่ได้มองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ แต่มองว่าเป็นผู้มีบุญคุณ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ขณะที่ น.ส.เกศกานดา กล่าวขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนตนเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา ตนพิสูจน์แล้วว่า 1 คะแนนของทุกคน มีค่าสำหรับตนในการทำงานในพื้นที่ โดย 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร จะเห็นทีมงานของตนลงไปดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ในเขตคลองสามวาอย่างตลอด และแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้การแบ่งเขตจะทำให้คลองสามวาเหลือเพียง 3 เขต แต่ขอยืนยันว่าจะดูแลพี่น้องประชาชนทั่ง 5 เขตเหมือนเดิม

น.ส.เกศกานดา ยังได้กล่าวถึงนโยบาย ว่า ทุกวันนี้ปัญหาฝุ่น P.M.2.5 มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายประกาศสงครามกับฝุ่น P.M.2.5 และจะผลักดันให้มีกฎหมายอากาศสะอาด และพรรคประชาธิปัตย์เรายังจะจัดแนวป้องกันน้ำท่วม ประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะดูแลขาว กทม. เป็นอย่างดี และตนยืนยันว่าจะดูแลชาวคลองสามวา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยนโยบาย Delta Works Thailand ของพรรคประชาธิปัตย์ทำได้แน่นอน และจะทำให้ดูถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาล

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังห่วงใยสุขภาพของทุกคน ทั้งกลุ่มเปราะบาง เด็ก ผู้สูงอายุ เพราะบางคนเข้าถึงการรักษาได้ช้า ดังนั้นการที่เราจะรู้ว่าเราป่วยเป็นอะไรบ้าง จะต้องได้รับการตรวจสุขภาพ พรรคประชาธิปัตย์จึงยืนยันที่จะดูแลสุขภาพของทุกคน โดยจะจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีทุกปี ทุกคน เพราะเราเป็นห่วงสุขภาพของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี และจะไม่มีวันสนับสนุนเรื่องนี้ให้มาทำลายอนาคตลูกหลานเรา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]