นายกฯ มอบ มท.1ติดตามไฟป่าเขาแหลม

สตช. 30 มี.ค.-นายกฯ มอบ มท1.ติดตามไฟป่าเขาแหลม ชี้ “พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่เป็นหน้าที่ ไม่ใช่ปาดหน้า ย้ำต้องดูแลประชาชนในนามรัฐบาล เลขาฯอาเซียน รับปากประชุมด่วนแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง สถานการณ์เหตุการณ์ไฟป่าที่เขาแหลม จังหวัดนครนายก ว่าในเรื่องนี้ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งท้องถิ่น ได้ระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งสาเหตุของไฟไหม้กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ หลายคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งได้ร้องขอและขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกับดับไฟแล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าได้สั่งการเพิ่มเติมไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านในการเข้าไปดูแลแล้ว


ขณะที่การหารือกับเลขาธิการอาเซียนเมื่อช่วงเช้า จะมีการนำปัญหาหมอกควันข้ามแดนเข้าหารือกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนโดยด่วน ซึ่งเลขาธิการอาเซียนได้ให้ความสำคัญ เพราะเกรงจะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว  และอีกส่วนได้ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานขอความร่วมมือ ซึ่งเรื่องนี้ไทยได้ทำมาโดยตลอด ย้ำว่าประเทศไทยดำเนินการทุกมาตรการอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของประชาชน  ในนามของรัฐบาลก็เข้าใจและเห็นใจ

ส่วนเรื่องของประเด็นการป้องกัน นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าในหนึ่งปีย่อมมีการเผาอยู่บ้าง ในบางพื้นที่ที่ยังไม่พร้อมก็ต้องให้เวลา แต่สิ่งที่ทำได้คือการวางแผนการเผาล่วงหน้าเป็นรายพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของควัน ซึ่งเป็นมาตรการที่ประกาศไปหมดแล้ว แต่ยังมีคนไม่เชื่อ ทำให้คนที่ปฏิบัติตามและทำดีอยู่แล้ว กลับไปทำแบบเดิมอีก ย้ำรัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ยังคงทำทุกมาตรการ แสวงหาความร่วมมือจากต่างประเทศ ในส่วนของประเทศไทยพบได้ในพื้นที่ภาคเหนือประกอบกับสภาพอากาศร้อนในขณะนี้ ยืนยันอากาศยานดับไฟป่าที่รัฐบาลจัดหาทำได้ดีและมีประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้เคยของบประมาณในรัฐสภา แต่ถูกตัดงบออกไป อยากจะขอร้องกัน หากไปตัดทั้งหมดจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานหายไป หากกังวลเรื่องการทุจริตจัดซื้อ ให้นำหลักฐานมาตรวจสอบฟ้องร้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยัน รับฟังทุกฝ่ายสื่อโซเซียลฯ ก็รับฟัง กำชับผ่านกลไกต่างๆ ทุกคนก็พร้อมทำงาน แต่ต้องยอมรับ ว่าเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด เช่นในพื้นที่อุทยาน มีพื้นที่กว้างใหญ่ ดูแลไม่ทั่วถึง จึงมีประชาชนลักลอบเข้าไปหาของป่า ล่าสัตว์  ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้มีกำหนดการลงพื้นที่ติดตามไฟป่าที่จังหวัดนครนายก ในช่วงเย็นวันนี้ (30 มี.ค.) เพราะยังมีงานที่จะต้องสะสางอีกจำนวนมาก


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่กรุงเทพฯ ก็มีศูนย์สั่งการเพื่อให้ในพื้นที่บริหารจัดการ ขณะเดียวกันพื้นที่ก็รายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งตนเองได้รับทราบรายงานมาตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่เมื่อเย็นวานนี้ (29 มี.ค.) ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าเข้าไปเพิ่มเติม รวมถึงในส่วนของยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ขณะเดียวกันดูสภาพอากาศความชื้นว่าเพียงพอที่จะทำฝนเทียมหรือไม่ ดังนั้นทุกคนต้องตระหนักรู้ว่าจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานี้อย่างไร

ส่วนการที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้(31 มี.ค.) สามารถไปดูพื้นที่ได้  เพราะไปทำงานในหน้าที่ แต่ในวันนี้ตนเองได้บริหารจัดการและได้พูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันระวังเพราะหน้าแล้งอาจเกิดไฟป่าได้ แต่การที่พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ในวันนี้(30 มี.ค.) นั้น ก็ไปในนามนายกรัฐมนตรีสั่งการ ซึ่งกระทรวงอื่นๆ ถ้ามีโอกาสก็ต้องเข้าไปดูแล ไม่เช่นนั้นก็วุ่นไปหมด 

“ขอให้ดูว่าบทบาทนายกรัฐมนตรีอยู่ตรงไหนด้วย แต่หากมีเวลาก็จะลงไปดูด้วยตนเอง แต่ถ้ามีภารกิจอื่นที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีก็ไม่จำเป็นต้องไป แต่ไม่ใช่ว่าใครไปแล้วใครได้ แต่ถือเป็นหน้าที่และความผิดชอบของรัฐบาล ซึ่งใครจะไปก็แล้วแต่ ซึ่งนายกก็จะต้องสั่งไปในนามนายกรัฐมนตรี คนอื่นจะไปก็แล้วแต่ท่าน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.-ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวต ให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็นเพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย เช่น […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]