“อนุทิน” ขอโอกาสให้ “เอกภพ” เป็น ส.ส. ชมมีจิตสาธารณะ

กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – “อนุทิน” นำปราศรัยช่วย “เอกภพ” หาเสียง ลั่นไม่เคยมองเป็นศัตรู ต้องขอบคุณช่วยทำให้ตาสว่าง ชื่นชมมีจิตสาธารณะ เหมือนเป็นบุพเพสันนิวาสได้สวมเสื้อตัวเดียวกัน พร้อมขอโอกาสให้ “เอกภพ” ได้เป็น ส.ส. ชี้ “สายไหม-กทม.-ประเทศ” ต้องรอด-ต้องรวย หวัง “พุทธิพงษ์” ช่วยทำคลอดแฝด 10 คน ในพื้นที่ กทม.


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. จัดเวทีปราศรัยหาเสียง ที่หอประชุมโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 เพื่อช่วยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสายไหม (ยกเว้นแขวงออเงิน) หาเสียง และพบปะประชาชนชาวสายไหม

นายพุทธิพงษ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เขตนี้มีคนจองตั้งแต่ไก่โห่ ตนเป็นคนทาบทามนายเอกภพ มาทำงานกับพรรคภูมิใจไทย พอมาถึงก็หักปากกาเซียน เพราะเจอนายเอกภพ ช่วงโควิด-19 ออกทีวีตลอด จากเพจสายไหมต้องรอด วันนั้นเขาทำด้วยจิตอาสา อยากช่วยประชาชน ตอนแรกก็เฉพาะที่เขตสายไหม แต่ปรากฏว่าช่วยไปช่วยมาก็ไปช่วยเขตอื่นๆ และช่วยคนทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ กทม. วันนี้นายเอกภพ ดังระดับประเทศ เพราะช่วยเหลือคน ซึ่งตนมั่นใจว่าเป็นคนทำงาน มีผลงาน ทั้งนี้ ปัญหาเขตสายไหม ที่สำคัญคือ โรงพยาบาลรัฐมีแห่งเดียว คือ โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งไม่เพียงพอ ควรมีโรงพยาบาลเพิ่ม ส่วนรถเมล์ก็มีเพียงสายเดียวเท่านั้น วันนี้เรารู้ปัญหาและพร้อมแก้ปัญหา ซึ่งถ้าไม่มั่นใจนโยบายว่าเราทำได้ หรือมีงบประมาณ ถ้าทำไม่ได้คงโดนกระทืบแน่นอน


“ผมถามว่า มีหัวหน้าพรรคอื่นๆ มาที่เขตสายไหมหรือไม่ และที่บอกว่านอนมาๆ ถามว่าพระนำมาหรือเปล่า ผมขอกราบเรียนว่า ดูจากโพลต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มออกสตาร์ท วันนี้ภูมิใจไทยทั้งประเทศมาอันดับ 2 แล้ว ถ้านโยบายดี บุคคลดี แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องรอไปอีก 4 ปี แต่วันนี้โพลบอกว่าเราอยู่อันดับ 2 เมื่อถึงใกล้เลือกตั้ง แซงอันดับ 1 แน่ และก็จะได้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน วันนี้ยังไม่เริ่มสตาร์ทก็บอกว่าเราได้ ส.ส. 70 คนแล้ว ดังนั้น ขอให้พี่น้องเลือกเรา และไม่ใช่เลือกแล้วไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่เช่นนั้นนโยบายต่างๆ 3-4 ปี ก็ไม่สำเร็จ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ในพื้นที่ภาคใต้ พรรคจะได้ ส.ส. 10 คนขึ้นไป เพราะคนใต้เห็นผลงานการพัฒนาที่ก้าวหน้าของพรรคภูมิใจไทย ที่พูดแล้วทำ

ขณะที่นายสรอรรถ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เขตสายไหม บางพรรคตัวจริงไม่ลง เอาตัวสำรองมาลง มีการมาพูดยืนยันกันว่า เขตนี้เป็นของพรรคการเมืองหนึ่งแน่นอน แต่เขาคงลืมว่า เขตนี้มีผู้สมัครชื่อเอกภพ ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในเขตนี้อยากได้เอกภพเป็นผู้แทนของท่าน ส่วนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลายท่านคงสงสัยว่า มีดีอะไรจะเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านลองเอาชื่อทุกคนมาเทียบดู จะพบว่าไม่มีใครเทียบได้ คนปัจจุบันก็ทำมานานแล้ว วันนี้ขอให้โอกาสคนรุ่นใหม่อย่างนายอนุทินได้ทำหน้าที่บ้าง ประเทศไทยไม่มีเวลามาทดลองผู้นำ เพราะเราสูญเสียเวลาไปมากแล้ว ซึ่งนายอนุทิน ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ เป็นคนที่มีความสามารถ และมีความคิดเด็ดเดี่ยว


จากนั้น นายอนุทิน กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคมีประสบการณ์ทำงานในการบริหารบ้านเมืองมา 10 กว่าปีแล้ว เราไม่ใช่พรรคตั้งใหม่ เราทำงานโดยเชื่อว่าประชาชนเป็นกำแพงอันเข้มแข็งหนุนหลังเราอยู่ จึงกล้าประกาศว่าเป็นพรรคพูดแล้วทำ เมื่อได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เราสามารถผลักดันนโยบายทุกนโยบายได้สำเร็จ ทุกนโยบายไม่ยุ่งยาก สามารถปฏิบัติได้เลย และทุกนโยบายแก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง ส่วนเขตสายไหม พรรคขอโอกาสพี่น้องให้เลือกนายเอกภพ ได้เข้าไปทำงานให้พี่น้องประชาชนทุกคน

“ผมกับนายเอกภพ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมทำงานอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข มีลูกน้องมาบอกผมว่า เพจสายไหมต้องรอด โพสต์บอกว่าผมทำงานไม่เป็น ทอดทิ้งประชาชน ถ้าเป็นคนอื่นคงโกรธ และสวนไปแล้ว แต่อนุทินรับฟังทั้งหมด ที่จริงแล้ว กทม. กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ดูแล เพราะ กทม. มีสำนักการแพทย์ ถ้าเราเข้าไปก้าวก่าย แต่พอเกิดโควิด-19 เราขีดเส้นแบบนั้นไม่ได้ ต่อให้มีกฎอะไร แต่ในช่วงฉุกเฉิน สาธารณสุขต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วค่อยไปเถียงกับเขาทีหลัง ถ้าเป็นคนอื่นๆ นายเอกภพต้องโดนอวตาร โดนไอโอ มาอัดเอกภพ อัดสายไหมต้องรอด และแก้ตัวให้กระทรวงสาธารณสุข แต่ส่วนตัวผมเมื่อได้อ่านข้อความเหล่านั้น ผมสั่งให้ตระเวนหา และเร่งแก้ไขปัญหา ผมมองว่าเอกภพคอยดึงผม ดุด่าว่าผม ผมไม่มองเป็นศัตรู แต่ต้องขอบคุณที่ทำให้ผมตาสว่างขึ้น แบบนี้เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาส ผมรักเอกภพในการเป็นคนมีจิตใจเพื่อสาธารณะ” นายอนุทิน กล่าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้าไปเยอะๆ ตนจะทำให้เกิดปรากฏการณ์เอกภพ-อนุทิน ตนไม่นิยมการทะเลาะกันโดยที่ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกันมาก่อน มาด่าพ่อล่อแม่ ชกกันก่อนเหตุผลว่ากันทีหลัง แบบนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้แล้ว วันนี้เราสวมเสื้อตัวเดียวกันได้ คือแนวโน้มที่ดี ในเมื่อเอกภพมาได้ คนอื่นก็สมานฉันท์ได้ ประชาชนก็สบายใจ วิธีเดียวคือต่างถอยกันคนละก้าว และชื่นชมสิ่งที่เป็นประโยชน์ของคนคนนั้น เราไม่ทะเลาะ ไม่ขัดแย้ง แต่จะพยายามเชื่อมความสัมพันธ์ให้ได้ สายไหมต้องรอด กรุงเทพฯ ก็ต้องรอด ประเทศไทยก็ต้องรอด รอดอย่างเดียวไม่พอ ต้องรวย ต้องสุขภาพดี และต้องรักกันด้วย” นายอนุทิน กล่าว

“หวังว่านายพุทธิพงษ์ จะคลอดแฝด 10 ให้พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ กทม. คนโตขอให้เป็นนายเอกภพ และนอกจากชื่อภูมิใจไทยแล้ว ขอเป็นภูมิใจกรุงเทพฯ ด้วย” นายอนุทิน กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]