นายกฯ ชี้จะแก้ฝุ่นได้อยู่ที่ความคิดและรับผิดชอบร่วมกัน

ทำเนียบรัฐบาล 29 มี.ค.-นายกฯ ระบุการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ต้องแก้ที่ความคิดและความรับผิดชอบร่วมกัน เน้นย้ำการบังคับใช้ กม. ระบุขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านมาตลอด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ในภูมิภาคทั้งอาเซียน พบจุด Hotspot จำนวนมาก ซึ่งพบในพื้นที่ภาคเหนือมากกว่าพื้นที่อื่น ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดจากการเผาวัชพืช มีการแก้ปัญหา โดยจัดเวลาการเผา เพราะจะไม่ให้เผาเลย คงไม่สามารถทำได้ เพราะเกษตรกรรายย่อยไม่มีเครื่องมือ จึงสั่งการให้คำนวณว่าควรจะเผาช่วงเวลาใด แต่ส่วนใหญ่ยังเผาพร้อมกัน

“วันนี้จึงอยากขอร้องว่าอย่าเผาพร้อมกัน เพราะจะทำให้เกิดฝุ่นควันจำนวนมาก ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐได้ขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ เมื่อห้ามแล้วแต่ยังเผา ซึ่งผมไม่โทษใคร เพราะการจะแก้ปัญหาได้ต้องแก้ที่ความคิดของคน และต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนปัญหาฝุ่นที่เกิดจากยานพาหนะในช่วงนี้ อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรามีแผนอยู่แล้วว่าในปี 2030 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 30% แต่ทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลา ไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วจะดำเนินการได้ในทันที ขณะที่ปัญหาการจราจรติดขัด ยังมีรถที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเกินมาตรฐาน จึงสั่งการให้กระทรวงคมนาคม กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการตรวจสอบ และให้หยุดวิ่ง

“ส่วนปัญหาฝุ่นควันที่เกิดจากไฟป่า จะเกิดขึ้นเป็นจุด ๆ เท่านั้น และไม่ได้เกิดจากความร้อนที่จะทำให้ไฟสามารถลุกไหม้ขึ้นเองได้ แต่เกิดจากคนที่เข้าไปในป่า ทั้งหาของป่าและล่าสัตว์ เมื่อเข้าไปก็อาจจะทิ้งบุหรี่ ที่ยังไม่ดับ จนทำให้เกิดไฟไหม้ นี่คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่า ขณะที่ปัญหาฝุ่นที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้หารือมาโดยตลอด แต่ทุกประเทศก็มีปัญหาภายในประเทศเช่นเดียวกัน ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เป็นเอกภาพ ทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือขอความร่วมมือไปหลายครั้งแล้ว ก็ได้รับปากว่าจะร่วมมือกัน แต่ก็ยังทำได้ไม่มากนัก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมาย ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทาง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่ว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือหรือไม่.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ