พรรคประชาธิปัตย์ 28 มี.ค.-“ประชาธิปัตย์” เปิดตัวผู้สมัครส.ส.ภาคกลาง 106 เขต มี 3 อดีต รมต. ผนึกอดีต ส.ส. และคนรุ่นใหม่ ขณะที่ “สาธิต” เผยปรับยุทธศาสตร์หาเสียง รุกโซเชียลมีเดีย กระจายนโยบายถึงประชาชน หวังกวาดส.ส.เพิ่มให้ได้มากที่สุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายสาธิต ปิตุเตชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคกลาง ร่วมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ภาคกลาง รวม 26 จังหวัด 106 เขต 106 คน โดยช่วงเช้า(28 มี.ค.) ได้เชิญกกต. มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้งและกฎระเบียบต่าง ๆ ของ กกต.ให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและเป็นเจตจำนงสำคัญของพรรคที่ต้องการให้ผู้สมัครทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของกกต.โดยเคร่งครัด ซักซ้อมยุทธศาสตร์ นโยบายพรรค เพื่อให้นำไปใช้หาเสียงและสื่อสารกับประชาชน ทำหน้าที่ “ลำโพงประชาธิปัตย์” ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งรับเอกสารรับรองการเป็นผู้สมัคร สำหรับนำไปยื่นสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 3 เมษายนนี้
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่น่าสนใจ มีทั้งรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. อาทิ นายสาธิต ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดระยอง เขต 2 นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรมช.พาณิชย์ เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเพชรบุรี เขต 1 นายธีระ สลักเพชร อดีตรมต.วัฒนธรรม ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดตราด นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ จังหวัดนครนายก และนายปรพล อดิเรกสาร จังหวัดสระบุรี
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง 106 เขตดังกล่าว ล้วนเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ และพรรคคัดสรรมาแล้วอย่างดี หากประชาชนให้โอกาสก็พร้อมจะทำหน้าที่ ส.ส.ที่ดีต่อไป ซึ่งผู้สมัครดังกล่าวประกอบไปด้วยคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ ผู้นำเกษตรกร นักวิชาการ สื่อสารมวลชน รวมทั้งผู้นำสตรี
นายสาธิต กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นทัพหน้าของประชาธิปัตย์ ที่จะลงพื้นที่บุกเขตเลือกตั้ง เพื่อนำชัยชนะมาสู่พรรคในพื้นที่ภาคกลางในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ผมขอฝากไว้กับพี่น้องภาคกลางทุกจังหวัด ขอให้ช่วยสนับสนุนประชาธิปัตย์ ทั้งคนทั้งพรรคในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ยืนยันความพร้อม โดยเฉพาะตัวผู้สมัครที่มีโปรไฟล์ดี มีความสามารถ เป็นอดีตส.ส. ผู้นำสตรี และจุดหลักจะเน้นในพื้นที่เขตเมือง รวมถึงยังมีว่าที่ผู้สมัคร ที่เป็นตัวแทนกลุ่ม LGBTQ
ส่วนจะปรับยุทธศาสตร์ในพื้นที่ภาคกลางอย่างไร นายสาธิต กล่าวว่า การหาเสียงจะใช้วิธีเดิม ๆ คงไม่ได้ ต้องปรับยุทธศาสตร์ โดยใช้กราวด์วอร์และแอร์วอร์ สำหรับกราวด์วอร์ คือ ต้องมีเครือข่ายทุกพื้นที่ เพื่อนำเสนอผลงานของพรรค และตัวผู้สมัครให้เขเาถึงประชาชนมากที่สุด ส่วนแอร์วอร์ คือการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อกระจายนำเสนอข้อมูลให้เข้าถึงประชาชน ซึ่งเป็นระบบที่พรรคได้วางไว้ให้ผู้สมัครทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าส.ส.ในพื้นที่ภาคกลางเท่าใด นายสาธิต กล่าวว่า เดิมพรรคมีส.ส.8 คน จึงตั้งเป้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งการประเมินขณะนี้ยังทำได้ยาก เพราะยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังไม่ตัดสินใจ จึงมั่นใจว่าความขยันลงพื้นที่บวกกับการใช้เทคโนโลยีจะจูงใจกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจได้ ขอย้ำกับว่าที่ผู้สมัครภาคกลาง ว่า ใครมาเป็นผู้สมัครส.ส.ภาคกลาง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เรื่องเล่น ต้องเอาจริง เข้ามาก็ต้องทำงาน
นายสาธิต กล่าวถึงการกำหนดเวทีปราศรัยของพรรค ว่า รูปแบบใหม่ไม่จำเป็น ว่าการปราศรัยต้องมีคนจำนวนมาก เพราะสามารถไลฟ์ได้ และทุกอย่างแจกแจงค่าใช้จ่ายได้ แต่หลักของผู้สมัครทุกคน คือ ต้องเดินไปหาประชาชน ไปให้เห็นหน้า เพื่อแสดงความมั่นใจว่าจะเป็นผู้แทนของประชาชน อันนี้เป็นแนวนโยบายหลัก ส่วนการปราศรัยอาจไม่ไก้ทุกเขต แต่เลือกในจังหวัดใหญ่ ๆ ไม่ต้องเกณฑ์คนมา และใช้ระบบถ่ายทอดออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุดในเขตเลือกตั้ง เมื่อถามว่าจะสู้กลุ่มบ้านใหญ่อย่างไร โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี นายสาธิต กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่ตนเป็นคนเสนอแก้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เป็น 2 ใบ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ตนย้ำว่าบัตร 2 ใบเพิ่มสิทธิ์ให้กับประชาชน แทนที่จะไปเลือกทั้งพรรค และบุคคล แต่วันนี้ประชาชนหากไม่พอใจพรรค ก็สามารถเลือกตัวบุคคลได้ แต่ถ้าพอใจทั้งพรรคทั้งคนก็สามารถเลือกทั้ง 2 ใบ ดังนั้นการที่ผู้สมัครจะแสดงความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง และเดินหน้าตามระบบของพรรค เชื่อว่าจะมีคะแนนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้ดีกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย