“ไทยสร้างไทย” จะไม่ทำให้ใครเป็นขอทาน

สยามสแควร์วัน 26 มี.ค.-“คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่น “ไทยสร้างไทย” จะไม่ทำให้ใครเป็นขอทาน ยันประสบการณ์ 30 ปี พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่หวั่นโพลตามมาที่ 4 ชี้ยังต้องแข่งทำงาน ซัด “บิ๊กตู่” อยู่มา 8 ปีเพิ่งคิดก้าวข้ามความขัดแย้งได้ สะท้อนไม่จริงใจ ย้ำไม่หนุนนักการเมืองผสมพันธุ์ข้ามขั้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงความพร้อมในการสู้เลือกตั้ง ส.ส. ว่าพรรคไทยสร้างไทยมีความพร้อมทั้งประเทศ แต่ยอมรับว่ามีจุดที่ต้องเน้นย้ำในหลายพื้นที่ พรรคไทยสร้างไทยมีทั้งจุดที่แข็งแรงและไม่แข็งแรง แต่ก็ก็ถือว่ามีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งแล้ว ขณะนี้กำลังเร่งทำ Primary vote ซึ่งมีความพร้อมแล้วกว่า 300 เขต ส่วนบัญชีรายชื่อของพรรคคาดว่าไม่น่ามีปัญหา ตอนนี้ต้องลงพื้นที่ภาคใต้ให้มากขึ้น เพราะพรรคมีนโยบายที่ดีสำหรับภาคใต้ พร้อมเป็นทางรอดของประเทศอย่างแท้จริง


“วันนี้เรามาเพื่อทำให้ประชาชนชนะ การเมืองที่ติดหล่มสงครามความขัดแย้งสองขั้ว มายาวนานกว่า 17 ปี รุนแรงมากขึ้นหลังจากการรัฐประหารปี 2549 และตอนนี้ติดหล่มอย่างที่เราเห็น แต่หากเลือกอีกฝั่งหนึ่งก็ติดล็อค ได้ทำงานไม่กี่ปีก็ถูกรัฐประหารอีก 8 ปี ฉะนั้นคนที่แพ้คือประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคไทยสร้างไทยจะไม่ทำให้คนไทยเป็นขอทาน แต่ต้องการสร้างโอกาสและให้พลังกับคนตัวเล็กทั้งหมด ได้ลุกขึ้นยืนอยู่ได้ เปลี่ยนพีระมิดสามเหลี่ยมรวยกระจุกจนกระจาย เป็นลูกรักบี้ ให้มีคนจนและคนรวยนิดเดียว และให้คนที่อยู่ตรงกลางไม่มีหนี้สิน ยืนยันว่าเลือกพรรคไทยสร้างไทยจะไม่ทำให้คะแนนตกน้ำ เพราะเราประกาศชัดเจนว่าจะไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับเผด็จการ รวมถึงไม่สนับสนุนให้มีการผสมข้ามสายพันธุ์ เพราะเท่ากับเป็นการหลอกประชาชนก่อนเลือกตั้ง ท้ายที่สุดพวกคุณก็ไปผสมพันธุ์กัน จึงขอเรียกร้องขอความชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชนโดนหลอก


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นทางรอดให้ประชาชน คือ 1.เราไม่พาประเทศไปสู่การเมือง 2 ขั้ว 2.ถ้ากลัวลุงต้องยิ่งเลือกเรา 3.เรามีประสบการณ์ คนมีความรู้ความสามารถ

“ไม่ใช่บางคนเป็นข้าราชการมาตลอดชีวิต พอจะมาเป็นนายกฯ บอกว่าบริหารประเทศง่ายมาก แล้วผลเป็นอย่างไร และก็ไม่ใช่ว่าคนที่มาจากภาคธุรกิจแล้วจะทำได้ เพราะกลไกของรัฐราชการมันซับซ้อน เราเห็นตัวอย่างจำนวนมากที่เข้าไปแล้ว งานไม่ออกมา โดนระบบรัฐราชการกลืน แต่พวกเราหากพูดภาษาชาวบ้าน ทำงานมาขนาดนี้แล้วเราเป็นผู้ประสบความสำเร็จตั้งแต่สมัยพรรคพลังธรรม สู่พรรคไทยรักไทย เราเขี้ยวพอที่จะผลักดันนโยบายโดยรัฐราชการขวางกั้นเราไม่ได้”

เมื่อถามว่านิดาโพล เปิดเผยผลคน กทม. โหวตเลือกคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นอันดับ 4 มองอย่างไรบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เรายังต้องทำงานแข่งกับตัวเองต่อ ทุกโพลอาจสะท้อนเหมือนหรือแตกต่างกันบ้าง เรารับฟังและต้องเรียนว่า วันนี้หากใครเห็นด้วยกับพรรคไทยสร้างไทยที่ถึงแม้จะเป็นพรรคใหม่ หากเลือกอย่างถล่มทลาย ประชาชนจะไม่แพ้ในแบบ 17 ปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าวถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า หากพรรคมีมติให้ตนเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี ตนพร้อมเป็นผู้นำประเทศ พร้อมนำประสบการณ์ในการทำงานการเมืองตลอด 30 ปีที่ผ่านมา อยู่ในหลายกระทรวง รู้ระบบราชการ และทำงานเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายเสมอ มองว่าหากพรรคไทยสร้างไทยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย จะเป็นชัยชนะที่แท้จริงของประชาชน

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมวลีก้าวข้ามความขัดแย้ง เหมือนกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ต้องถามกลับไปว่าเหตุผลในการยึดอำนาจอ้างว่าต้องการสร้างความสมานฉันท์ แต่อยู่มา 8 ปี เพิ่งมาทำเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจ เพียงแค่หวังคะแนนเสียงเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจจริง เพราะฉะนั้นหากเลือกพรรคไทยสร้างไทย การันตีได้ว่าจะไม่มีลุงคนไหนมาทำร้ายประเทศได้

ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ยังไม่ได้คิดสมการจับขั้วกับพรรคการเมืองใด แต่ได้ประกาศหลายครั้งว่าไม่จับมือร่วมงานกับเผด็จการ ย้ำว่าเราไม่สนับสนุนการผสมพันธ์ุข้ามขั้ว เพราะถือว่าต้มประชาชน วันนี้ตนไม่กล้าจับมือพรรคไหน เพราะไม่รู้ว่าท้ายที่สุดเขาเป็นอย่างไร ตนขอจับมือกับประชาชน เพื่อก้าวข้ามสิ่งชั่วร้าย

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะจับมือกับ พล.อ.ประวิตร แต่ขอเป็นตัวเลือกสุดท้าย มองอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สำหรับเราปฏิเสธชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยในการจับมือข้ามขั้ว ส่วนใครที่จำเป็นต้องจับมือข้ามขั้ว ก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น ตนคิดว่าการทำเมืองในวันนี้ ตนคิดแบบคนเป็นแม่ ไม่ได้คิดว่าจะได้กี่เก้าอี้ เพื่อแลกเป็นรัฐมนตรี เข้าไปโกง เข้าไปซื้อเสียง ถ้าแบบนั้นตนไม่ทำ ตนไม่ได้กระหายอำนาจ หากต้องขวนขวายไปรับตำแหน่งและเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ได้ เสียเวลาไปพายเรือให้โจรนั่ง และขอย้ำทิ้งท้ายว่าตนพร้อมดีเบตทุกเวทีหลังจากนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

คณะทูตออตตาวา ลงพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค.-รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ถึง จ.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่สำรวจและตรวจการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บริเวณภูมะเขือ ใกล้ปราสาทพระวิหาร หวังให้ประชาคมโลกเข้าใจถึงปัญหา และช่วยกดดันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ เมื่อช่วงใกล้เที่ยงที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตจากประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ องค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวม 36 คน จาก 33 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เข้าฟังการบรรยายสรุปภาพรวมจังหวัดชายแดน ณ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีตัวแทนชาวบ้าน 5 คน ที่ได้รับผลกระทบมาร่วมให้การต้อนรับด้วย บริเวณด้านหน้าห้องประชุมได้ติดตั้งป้ายตัวอย่างความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุปะทะ โดยเสียหายหนักและเสียหายทั้งหลัง 36 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 320 หลังคาเรือน พลเรือนเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สถานที่ราชการ เสียหาย 14 แห่ง ตามกำหนดการเดิม 13.00 น.คณะทูตจะขึ้นไปยังภูมะเขือเพื่อสำรวจพื้นที่ทุ่นระเบิด […]

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย