รทสช. สัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ก่อนเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ

อิมแพ็คเมืองทองธานี 25 มี.ค. – รทสช. สัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต ทำความเข้าใจข้อกฎหมาย ก่อนเปิดตัว “พล.อ.ประยุทธ์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีบ่ายนี้


พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดสัมมนาว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 400 เขต โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต้อนรับและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 400 เขต ขณะที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช. ได้กล่าวแสดงความยินดีกับว่าที่ผู้สมัคร ด้วยระบุว่า ยินดีกับทุกท่านที่เป็นหนึ่งใน 400 คน โชคดีได้สมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ต่อสู้กับเรื่องต่างๆ เพื่อประชาชน

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ได้ย้ำกับว่าที่ผู้สมัคร ว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้มีกฎเกณฑ์กติกาเพิ่มขึ้นแม้ว่าหลายคนจะเคยผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว แต่ในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนกติกาในหลายเรื่องถ้าไม่เรียนรู้ แม้ชนะการเลือกตั้ง อาจถูกปรับแพ้ได้ เพราะกติกาก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังได้กำชับว่าที่ผู้สมัคร ต้องไม่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและต้องดูคู่แข่ง ระวังการกลั่นแกล้ง


ขณะที่ในช่วงบ่าย​จะมีการเปิดตัวว่าที่แคนดิเดตนายก​รัฐมนตรี​ของพรรค​ คือ​ พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ในฐานะประธาน​คณะกรรมกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์​พรรค​ และ​นายพีระพันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ หัวหน้า​พรรค

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ การเปิดตัวว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ของพรรคในวันนี้​ ถือเป็นวันดีวันแข็ง​ วันมงคล​ วันเสาร์​ 5 เดือน​ 5 เป็นวันที่มีพลังแรงมากเป็นพิเศษ คนส่วนใหญ่มีความเชื่อและจะใช้วันดังกล่าวในการทำพิธีกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความสำเร็จ​ และมีความขลัง ถือเป็นวันธงชัยและวันอธิบดี

ด้านเอกนัฏ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีภาพปรากฏ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำของพรรค ร่วมรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ​5 จังหวัด ซึ่งมีรายงานข่าวว่ามีการพูดคุยถึงการจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้า ว่า ทุกอย่างที่พูดกันเองว่าอาจจะอย่างนั้น​อย่างนี้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดตนเองมองว่าควรเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเดี๋ยวก็รู้เอง ที่บอกว่าอาจจะได้เท่านั้นเท่านี้​ ในที่สุดได้เท่าใด เพราะการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคใหม่ที่ต้องทำงานสู้กับเวลารวมไปถึงสู้กับตนเอง​ ภารกิจสำคัญไม่ใช่การไปร่วมวงรับประทานอาหารและสนทนากับพรรคการเมืองอื่น​ แต่การพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า คือพรรคที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นสถาบันพรรคการเมือง และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนและประเทศชาติบ้านเมืองได้


ส่วนมองอย่างไรถึงกรณีที่นายทักษิณชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ​ ว่าอยากจะกลับมารับโทษที่ประเทศไทย​ เพราะอยากอยู่กับครอบครัว​ เลขาธิการพรรค​ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของนายทักษิณ​ ที่จะตอบกลับประชาชนและสาธารณะเองว่าการที่พูดออกมาแล้วประชาชนเชื่อหรือไม่ ซึ่งประวัติศาสตร์​ก็สอนเราอะไรบางอย่าง แต่สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ​ ประธานยุทธศาสตร์และหัวหน้าพรรคกำชับกับผู้บริหารและว่าที่ผู้สมัครให้หนักแน่นและมั่นคงในภารกิจ ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่น​ จะทำอะไร วันนี้ต้องเดินหน้าหาเสียงนำเสนอนโยบายแนวทางการแก้ไขปัญหา​ นี่คืออุดมการณ์และปณิธานของพรรค

โดยนายเอกนัฏ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคว่า​ ขณะนี้พรรคมีนโยบายอยู่ 60-70 นโยบาย​ หากสื่อสารออกมาพร้อมกันทั้งหมดอาจเกิดความสับสน​ ซึ่งจะค่อยๆเปิดภายใต้สโลแกนสำคัญ​ ทำแล้วทำอยู่​ ทำต่อ เพราะเราเชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ์​ ที่เป็นคนทำงาน​ สามารถจับต้องได้​ในช่วงที่เป็นรัฐบาล และจะสานต่องานของพลเอกประยุทธ์​ รวมไปถึงมีการเปิดทีมเศรษฐกิจไปแล้ว การออกนโยบายไม่ใช่ออกมาเพื่อใช้เงินของประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นทีมที่สามารถบริหารกลไกทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เก็บเกี่ยวโอกาสใหม่ๆรวมไปถึงหาเงินซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ขณะที่การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีหลังจากนี้​ เลขาธิการพรรคระบุว่า เป็นเรื่องรายละเอียด ซึ่งมีมาตรฐานการปฏิบัติอยู่แล้ว ต้องมีการแบ่งเวลาบริหารจัดการเวลาราชการ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนหลังวันที่ 25 จะเห็นนายกฯ ลงพื้นเต็มตัวหรือไม่​ นายเอกณัฏกล่าวว่า ก็จะเห็นภาพของพลเอกประยุทธ์ลงพื้นที่หาเสียงเต็มตัวสลับกับการลงพื้นที่ตรวจราชการ และหลังจากนี้จะมีการวางแผนอีกครั้ง โดยทางพรรครวมไทยสร้างชาติจะเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 เมษายน ส่วนจะเป็นที่ใดนั้นขณะนี้ยังไม่สรุป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่