พรรครวมไทยสร้างชาติ 24 มี.ค. – “เอกนัฎ”ยืนยันรวมไทยสร้างชาติพร้อมเกินร้อย พรุ่งนี้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบ 400 เขต ประกาศ”ลุงตู่”แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองเต็มตัว ปัดยังไม่เดินสายกินข้าวหรือจับขั้ว และไม่กลัวตกขบวน เน้นสื่อสารประชาชนที่เป็นเจ้าของเสียงโหวตตัวจริง พร้อมฝากขอโทษคนซอยอารีย์ที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานพรรค
นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันพรรคมีความพร้อมเกิน 100%ที่จะลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคจะปลุกระดมว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 400คน ปล่อยแถวออกไปสู้ศึกเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ส่วนพลงอ.ประยุทธ์จะลงสมัครรับเลือกตั้งในบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามไม่กังวลว่าจะมีข้อครหาว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะครั้งนี้ต้องถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ลงมาการเมืองเต็มตัว โดยสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเป็นประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค มีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์ของพรรค ดังนั้นถือว่าได้ลงมาสู่สนามเลือกตั้งอย่างเต็มตัวแล้ว
“ท่านตัดสินใจลงสู่สนามการเมืองเต็มตัว ก็ตรงไปตรงมา สมัครเป็นสมาชิกพรรค มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ร่วมขับเคลื่อนพรรค ส่วนเรื่องบัญชีรายชื่อ หรือตำแหน่งอะไรที่จะมีในอนาคต เป็นเรื่องของความเหมาะสม และเป็นสิ่งที่พรรคจะต้องพิจารณา เพราะวันนี้ท่านมาเป็นคนของพรรคแล้ว ไม่ใช่พรรคของท่าน แต่ท่านเป็นคนของพรรค”นายเอกนัฎ กล่าว
สำหรับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเดินสายรับประทานอาหารกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัญญาณจับขั้วหรือไม่นั้น นายเอกนัฎ กล่าวว่าการรับประทานอาหารกัน หรือการสื่อสารกันระหว่างพรรคการเมืองนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับตน พล.อ.ประยุทธ์ และหัวหน้าพรรคเห็นว่าการจะไปรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคอื่นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่วาระสำคัญวันนี้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งคือการสื่อสารกับประชาชน โดยการพูดคุย รับฟังปัญหา และหาเสียงกับประชาชนซึ่ งเป็นเจ้าของคะแนนโหวต และไม่กังวลว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะตกขบวน เพราะเมื่อวานนายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วว่า ใครจะคุยอะไร ใครจะทิ้งก็ช่าง ขอแค่ว่าพี่น้องประชาชนอย่าทิ้งพล.อ.ประยุทธ์ และอย่าทิ้งพรรครวมไทยสร้างชาติก็พอ และย้ำว่าเรื่องเกมส์การเจรจาต่อรองทางการเมืองไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญคือการนำเสนอนโยบาย การเสนอผู้สมัครส.ส.ที่จะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในพื้นที่และเดินหน้าทำให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง ส่วนเรื่องอื่นยังไม่ใช่วาระที่สำคัญที่สุด
“ที่คุยกันอยู่นี้ ผมไม่รู้ว่าตัวจริงที่อ้างว่ามีคะแนนโน้น คะแนนนี่ ของจริงมีกี่คะแนน ไม่รู้ แต่ของจริงคือคะแนนอยู่กับพี่น้องประชาชน 1สิทธิ์ 1 เสียง ทุกคนมีเท่ากันหมด และวันนี้คิดแต่เรื่องการทำงานอย่างเดียว ”นายเอกนัฎ กล่าว
เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีชาวบ้านที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติมาร้องว่ามีการจอดรถขวางทาง ทำให้ไม่สะดวกว่า ขอน้อมรับฟังไว้และขออนุญาตเป็นตัวแทนผู้บริหารพรรคทุกคนขออภัยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของพรรค ซึ่งถือเป็นเหตุสุดวิสัยโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีผู้สนใจมาร่วมงานกับพรรคกันมาก
ส่วนจะถึงขั้นย้ายที่ทำการพรรคหรือไม่นั้น นายเอกนัฎหัวเราะพร้อมกล่าวว่าขอไว้พิจารณาหลังการเลือกตั้งแล้วกัน. สำนักข่าวไทย