นายกฯ ไม่คุย “มายด์ ราษฎร“

ทำเนียบ 24 มี.ค.-พล.อ.ประยุทธ์ บอกไม่จำเป็นต้องคุย “มายด์ ราษฎร“ หากเป็นการพบเรื่องการเมือง ชี้บ้านเมืองขณะนี้มีความสุขดี ปัญหาเก่าต้องแก้ด้วยความเข้าใจ ถ้าทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะได้รับความยุติธรรมตอบกลับ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.)  พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ    ได้พบกับ น้องมายด์ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563   ว่า ก็ไม่เป็นไร    ส่วนจะมีโอกาสเห็นภาพเช่นนี้กับพลเอกประยุทธ์บ้างหรือไม่    พลเอกประยุทธ์ ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า  “คือการพบนั้น ต้องดูว่าพบแล้วมันได้อะไร เข้าใจหรือไม่   ถ้าพบกันแล้วเพื่อการเมืองอย่างเดียว   ผมไม่จำเป็นต้องพบใคร เพราะผมพบทุกวันอยู่แล้ว ผมไม่ได้มุ่งหวังทางการเมือง”


พลเอกประยุทธ์   กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศชาติ  ต้องมีกฎหมาย  เพราะฉะนั้นถ้าเราระมัดระวังตัว  ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือล่อแหลม ก็ไม่มีปัญหาอะไร  ไม่ต้องไปวุ่นวายเรื่องการนิรโทษกรรมหรือการอะไรต่างๆ   เราไม่ใช่รัฐบาลเหมือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้   วันนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยแล้ว   ทุกอย่างประชาชนก็เห็นแล้วว่าเราพยายามบริหารให้ดีที่สุด  การบังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายๆ คนพูด

“เราระมัดระวังผ่อนผัน ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ เยาวชน   อีกฝ่ายก็ออกมาบอกว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย  ทำไมไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย  มีข้อขัดแย้งจากสองส่วนนี้   แล้วตนบริหารงานมา 8 ปี  หรือ 4 ปีหลัง  ตนทำให้สองฝ่ายเบาๆ ลง   นี่คือสิ่งที่ทุกคนอาจจะลืมไป  ไม่มีใครทำให้มันหยุดได้หรอก ถ้าประชาชนไม่หยุดตัวเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พลเอกประยุทธ์​ กล่าวว่า พยายามประคับประคองทั้งสองข้างให้เกิดความสมดุลขึ้นมา ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ด้วย  ซึ่งตนบอกแล้วว่า คนไทยประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนของประเทศเราทุกคน  ถ้าเปรียบเทียบประเทศไทย การบริหารของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นบริษัทห้างร้านวิสาหกิจ ผู้ถือหุ้นของรัฐบาลก็คือประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนเราต้องบริหารให้เขา  ให้ประเทศและประชาชนของเรา นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลและหน้าที่ของผู้นำรัฐบาล  หน้าที่ของ ครม.และทุกกระทรวง  ตนจึงไม่อยากให้หลายๆ อย่างพังทลายไปทั้งหมดที่เราสร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา  แน่นอนว่ายิ่งทำเยอะปัญหาก็เยอะ  แต่ต้องไปดูว่าสิ่งที่ทำมาแล้วนั้น เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติและประชาชน แน่นอนว่าถ้าตนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรมากนัก ก็คงไม่โดนหรือเจอปัญหาเหล่านี้ ตนก็ไม่ปวดหัวด้วย  ปล่อยไป  ใครอยากจะทำอะไรก็ทำก็ทำไปเช่นที่เคยผ่านมา ซึ่งไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมมากนัก

“ผมจำเป็นต้องพูด   ไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่เข้าใจ   ก็ฝากสื่อด้วยแล้วกัน  ถ้าอยากจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า  ประชาชนมีอนาคต   ผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาชอบหรือรักผม ไม่ใช่  ประชาชนเป็นกลไกหลักในการที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า  นายกฯและ ครม.เป็นแต่เพียงผู้รับสิ่งต่างๆ มาพิจารณาและดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน   เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ   วันนี้ไม่ใช่ที่จะไปแตกแยกกันอีก ไม่มีความขัดแย้งอะไรขนาดนั้น   เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาหาเสียงกันมากนักในขณะนี้   นั่นคือปัญหาแล้ว   เพราะมันเป็นการจุดชนวนขึ้นมา เพราะหลายคนก็มีความสุขดี  ประชาชนเขาไม่ได้เดือดร้อน   และเขาอยากให้บังคับใช้กฎหมายด้วยไม่ใช่หรือ ใช่ไหม   ถ้าสมมุติว่าเราอย่างนี้อย่างนั้น ปัญหามันก็เกิดขึ้นมาใหม่  เพราะฉะนั้นอย่าไปสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้นมาอีก   ปัญหาเก่าต้องแก้ด้วยความเข้าใจ   แก้ด้วยความยุติธรรมให้กับเขา  ไม่มีใครแกล้งหรอกถ้าทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จะได้รับความยุติธรรม”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย