รวมไทยสร้างขาติ 23 มี.ค.- “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค รทสช. เปรียบตัวเองเป็นผู้บริหารคณะพระเอก ปชช.เป็นหุ้นส่วนบริหารปท. ออกตัวไม่อยากหาเสียงเหมือนใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แนะนำทีมเศรษฐกิจของพรรค และว่าที่ผู้สมัครส.ส.เสร็จสิ้นแล้ว ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ สวมเสื้อให้ทีมเศรษฐกิจและว่าที่ผู้สมัครส.ส. โดยระหว่างเดินขึ้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ก้าวเท้าสะดุดพรมจนเสียหลักขณะขึ้นบนเวที
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมเสื้อพรรคให้ทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3. ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค รทสช. 5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชฑูตหลายประเทศ 6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ8. นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรครทสช. และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ ด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนทุกด้าน โดย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง ,นายสุพัฒนพงษ์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน , นายจุติ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย,นายอนุชา นาคาศัย ดูแลนโยบายภาคเกษตร และนายสุชาติ ชมกลิ่น ดูแลนโยบายด้านแรงงาน อีกทั้งมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่จะมาดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและได้สวมเสื้อพรรคในวันเดียวกันนี้ด้วย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ให้เกียรติพรรค รทสช.ในการเดินหน้าประเทศในระยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นกลางและรุ่นเด็ก ซึ่งมีหลายช่วงวัยในการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนไทยคนหนึ่ง ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจ ประเทศไทยประชาชนมีส่วนร่วม ถือเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือทำให้ทุกคนมีความสุข พึงพอใจพร้อมกันกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีคุณภาพหลายส่วน ที่ผ่านมาหลายคนมีประสบการณ์ยอดเยี่ยมในการทำงาน ซึ่งได้ทำงานกับตนมาตลอดในรัฐบาลที่ผ่านมา ยืนยันว่าเป็นพรรคที่ต้องการทำให้ประเทศชาติดีที่สุด
พร้อมขอให้ทบทวนการบริหารราชการแผ่นดินในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรบ้าง โดย 8 ปีที่ผ่านมาพยายามทำอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาดูแลประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าในเชิงธุรกิจ ประชาชนคือหุ้นส่วนของประเทศ ทำอย่างไรจะให้เดินไปข้างหน้า และไม่ทอดทิ้งกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จะสานต่อในวันข้างหน้า สิ่งสำคัญ คือความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน ตนไม่สามารถทำคนเดียวได้ สำหรับประเทศชาติไม่มีพระเอก มีแต่คณะพระเอกเข้าใจหรือไม่ คือทุกคนเป็นพระเอกหมด ตนมีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้ และขอความไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไรนั่นคืออนาคต และนี่คือสิ่งที่ทุกคนจะได้แสดงศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศ
“ผมไม่อยากหาเสียงแบบที่เขาหากันมากนัก เพราะเป็นคนแบบนี้ อยู่ในการบริหารราชการ ทั้งในส่วนของกองทัพและส่วนตรงนี้ อย่าระแวงผม ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องคำนึงถึงความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทุกอย่างอยู่ในก้อนเดียวกันในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูว่าประเทศไทยมีคนจำนวนเท่าใด รายได้และการประกอบอาชีพจะแก้ปัญหาอย่างไร จังหวัดที่มีจีดีพีต่ำ จะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่เหล่านั้นมีรายได้สูงขึ้น ทั้งหมดต้องขับเคลื่อนด้วยทีมเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์มีความรอบรู้ และมีความระมัดระวังอย่างที่สุด แต่ต้องปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยที่มีผลกระทบต่อประชาชน
“ผมไม่สามารถจะหาเสียงแบบที่เขาพูด เพราะวันนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นคือประเทศไทยอยู่ตรงนี้ได้ ตามที่เราทำมา สถานะทางการเงิน การคลังเราทำได้ดี การต่างประเทศเราทำได้ดี ทุกประเทศยอมรับ ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเราทุกคน ไม่อยากให้มองในแง่รายบุคคล และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวข้ามไปให้ได้ พร้อมกับรับประโยชน์กับสิ่งใหม่ เมื่อใส่เสื้อตัวนี้ต้องพูดว่า ผมรู้สึกลำบากใจเหมือนกันเพราะพูดอย่างนี้มาหลายปี ถ้าติดคำว่านายกฯไป ก็ขอโทษ ไม่ได้เจตนาบางเวลาผมก็เครียดหงุดหงิดหน่อย ก็ต้องให้อภัยกัน ผมไม่เคยติดค้างกับใคร ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร แต่ความเป็นมนุษย์สัญชาตญาณของผมมีสูง เราจะเดินเส้นทางนี้ไปถึงจุดที่ประเทศไทยต้องการ ประชาชนต้องการ ฉะนั้นเราต้องเดินอย่างมียุทธศาสตร์ ถ้าไม่เดินตามยุทธศาสตร์ ก็ทำไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยัน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการบริหารบ้านเมือง ไปสู่วันข้างหน้าที่สดใสที่มีอนาคตกว้างไกล วันนี้ถือว่าพอสมควรแล้วในสถานการณ์เช่นนี้
“อย่าลืมก่อน 8 ปี อย่าลืม 8 ปีเกิดอะไรขึ้น สิ่งสำคัญตนขออย่างเดียวความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาเราประคองมาถึงขนาดนี้แล้ว โดยกฎหมายกระบวนการยุติธรรมก็จำเป็นต้องมีอยู่ ดังนั้นเราจะต้องเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าอิสระทั้งหมด โดยไม่ใช้กฎหมาย แต่คำว่าประชาธิปไตย มีขีดจำกัดอยู่ตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งต้องเคารพกฎหมายดูอย่างต่างประเทศเขาแรงไหม และตนจะทำอย่างนั้นได้ไหม เพราะนี่คือคนไทยด้วยกัน ฉะนั้นทำอย่างไรให้เขาเข้าใจ ซึ่งไม่ต้องรักตนหรอก ขอให้รักประเทศชาติ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะต้องดำรงอยู่คู่คนไทยตลอดไปชั่วกาลนาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย