“วิษณุ” คาดศุกร์นี้ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.

ทำเนียบรัฐบาล 20 มี.ค.- “วิษณุ”คาดวันศุกร์นี้ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. เชื่อแบ่งเขตไม่มีปัญหา กำชับข้าราชการห้ามยุ่งเกี่ยวกับการหาเสียง เผยงบเลือกตั้ง ส.ส.เขตคนละ 1.9 ล้านบาท บัญชีรายชื่อ รวม 100 คน 44 ล้านบาท ย้ำ แต่งตั้งโยกย้าย ผู้บริหารระดับสูง-ของบกลาง ต้องเข้า กกต.


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากได้พูดคุยกับ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต.ว่า ได้แจ้งให้ทราบว่า กกต.จะออกประกาศภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันที่ยุบสภา เช่น หากยุบวันนี้ นับไปอีก 5 วันก็จะมีการประกาศ ซึ่งจะมีรายละเอียดประกอบไปด้วยวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร สถานที่รับสมัคร ทั้งส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาอื่นใด เป็นการออกประกาศเท่านั้นที่กฎหมายระบุว่าให้มีการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ให้กกต.ถือว่าพระราชกฤษฎีกายุบสภาคือพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งในตัวเอง เพราะในพระราชกฤษฎีกายุบสภาจะบอกว่า 1.ให้ยุบสภา 2.ให้มีการเลือกตั้ง ที่ประกาศให้มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเอาไว้ใช้ในการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งหลังจาก มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาก็จะเริ่มนับหนึ่ง ตั้งแต่จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินวันศุกร์นี้ จะมีการประกาศรายละเอียดกำหนดต่างๆจากกกต. ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งมีการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองแล้ว มีการตกลงว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีค่าใช้จ่ายรวมกันทั้งหมด 100 ชื่อ ต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท ส่วนส.ส.เขต แต่ละคน ต้องไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท ส่วนวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ในระหว่างนี้เป็นไปตามมาตรา 78 กฎหมายเลือกตั้ง เลขาฯกกต.ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า มีการเขียนเรื่องการวางตัวของข้าราชการ 2 ที่ คือ 1. ในกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน และ 2. ในกฎหมายเลือกตั้ง บางอย่างอาจไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ไปผิดในกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือนก็เป็นได้ เช่น ข้าราชการไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ผิดกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน ซึ่งถือว่าจะมีความผิดทางวินัย และจะไปช่วยงานในเวลาไหนก็ไม่ได้ทั้งสิ้น ก็จะถือว่าผิดวินัย หากพบความผิดนี้ไม่ต้องร้องเรียนกับ กกต. เพราะจะไม่รับ แต่ในกรณีของนักการเมือง เช่น เป็นรัฐมนตรีและลงสมัครรับเลือกตั้งก็จะไม่ได้ใช้กฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือนแต่ไปใช้กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งในงานจะมีการระบุว่าห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฏหมายเพื่อกระทำการใดอันให้คุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง สำคัญคือคำว่าตำแหน่งหน้าที่เพราะหลายเรื่องที่ร้องกับกกต. ไม่เข้าข่าย เพราะจะมีการทำหน้าที่โดยชอบ ซึ่งสามารถทำได้ แม้ผลจะเกิดว่าเป็นการหาเสียง ยกเว้นเป็นการหาเสียงที่โจ่งแจ้ง เช่น ไปแจกโฉนดชุมชน ถือเป็นการปฏิบัติราชการ แต่ระหว่างอยู่บนเวทีแนะนำตัวผู้สมัครไม่สามารถทำได้ แต่หากเสร็จกิจกรรมจะไปขึ้นเวทีเดินตลาดหาเสียงไม่เป็นไร การเดินทางไปกลับใช้เฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินหลวง สามารถทำได้เพราะไปแล้วต้องกลับ เพราะถือว่าไปด้วยราชการ ก็ต้องแยกกันให้ออก ไม่ได้ก่อให้เกิดภาระ เปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า การใช้เงินในการหาเสียงเริ่มนับหนึ่งหลังยุบสภาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากป้ายหาเสียงยังอยู่ในช่วงนี้ แม้จะติดก่อนหน้านี้ก็ให้นับ เป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียง


เมื่อถามว่า คุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. หากจะสมัครหลังวันที่ 5 เมษายน 2566 ต้องมีคุณสมบัติสังกัดพรรคการเมือง 30 วันก่อนหน้านี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ให้นับ 30 วันถอยหลังก่อนจะมีการเลือกตั้ง เมื่อตอนสมัครอาจจะยังไม่ครบ 30 วันก็ได้ แต่หากนับจากวันเลือกตั้งย้อนขึ้นไปต้องครบ 30 วัน

เมื่อถามว่า กรณีที่นักการเมืองร้องศาลปกครองสูงสุดให้ไต่สวน ชั่วคราวกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งจะมีผลให้ระยะเวลาหยุดชะงักหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ศาลปกครองจะสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ หากศาลไม่สั่งคุ้มครองชั่วคราวก็จะไม่มีผลอะไร ซึ่งระหว่างนี้ก็เดินหน้าไปตามกฏหมาย เพราะกกต.ต้องทำเพื่อส่วนรวม ซึ่งแนวโน้มน่าจะไม่มีปัญหาเพราะกกต. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตแล้วจนกว่าศาลจะสั่ง

เมื่อถามว่า หากมีการตัดสินหลังจากนี้ จะส่งผลให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น


เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องวันเลือกตั้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากยุบสภาวันนี้ก็จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม หากยุบวันพรุ่งนี้ก็ยังคงเลือกวันที่ 14 พฤษภาคมได้ แต่หลังจากนั้นไม่ได้ พร้อมระบุว่า ทั้งวันที่ 7 และวันที่ 14 พฤษภาคม ไม่มีนัยยะใดๆ เพราะไม่เกิดความแตกต่าง

เมื่อถามว่า มีความกังวลในการหาเสียงช่วงเทศกาลหรือไม่ เช่น สงกรานต์ที่จะมีการรดน้ำดำหัวขอพร นายวิษณุ กล่าวว่า มีคู่มือของกกต.อยู่แล้วที่ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่ระบุไว้ชัดว่า ในช่วงยุบสภาจะต้องไม่มีการประชุมครม.สัญจร ไม่จัดกิจกรรมที่มีคนมาชุมนุมจำนวนมาก เว้นแต่วันที่กำหนดอยู่ในปฏิทินประจำปี เช่น เทศกาลสงกรานต์ดังนั้นสามารถจัดได้ แต่การจัดของต่างๆกกต.มีคำเตือนอยู่แล้ว ในทุกเทศกาล ทั้งตรุษจีนเช็งเม้งคริสต์มาสปีใหม่ ที่ไม่ให้ผู้สมัครแจกของ แต่ไปงานแต่งงานได้ ให้ของขวัญได้แต่ไม่ให้ปรากฏตัว แสดงตัว หรือขึ้นเวที ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีจะจัดงานรดน้ำดำหัวก็สามารถทำได้ รวมถึงทุกคนสามารถจัดได้ทั่วประเทศ

เมื่อถามว่า หากปฏิบัติตามมาตรา 169 การของบประมาณงบกลาง ต้องขอ กกต.ด้วยหรือไม่ นายวิษณุระบุว่า งบกลางนั้น ต้องของกกต. แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เข้าครม.ต้องถามกกต. แต่งตั้งนายพลทหารไม่ต้องถามกกต.เพราะไม่เข้าครม. แต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ไม่ต้องขอ กกต. แต่หากตั้งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องขอกกต. ซึ่งได้มีการซักซ้อมสิ่งเหล่านี้กันแล้วด้วยในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) โดยในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) ตนจะอธิบายด้วยวาจาให้ที่ประชุมครม.ได้เข้าใจ ข้าราชการประจำ เช่น ปลัดกระทรวงจะเข้าใจดีเพราะยุบสภามาแล้วหลายครั้ง แต่รัฐมนตรีใหม่อาจจะยังไม่คุ้น จะถือโอกาสอธิบายให้ทราบ ซึ่งรัฐมนตรีที่ลาออกไปไม่กระทบต่อการทำงานของครม. โดยในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีน่าจะมีการแต่งตั้งผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่แทน รัฐมนตรีที่ลาออกไป

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า หากพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยจะถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 แต่หากเป็นคนใหม่จะถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ยกตัวอย่าง จอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี 4-5 หน ก็จะนับเป็นหนึ่งครั้ง แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ต่อเนื่องก็จะนับแค่ครั้งเดียว หากเป็นคนเดิม ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน 29 คน ซึ่งมีทั้งหมด 62 รัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีบางคนอยู่หลายรัฐบาลทั้งต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง ให้นับเป็นหนึ่งคน ตัวเลขรัฐบาลเพิ่มแต่เลขนายกรัฐมนตรีไม่เพิ่ม

เมื่อสอบถามถึงกรณีที่นักวิชาการระบุว่า หากยุบสภาโดยไม่มีเหตุผลเพื่อให้เกิดการย้ายพรรคจะยุบสภาไม่ได้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่จริง เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกไว้ว่า การยุบสภาต้องใช้เหตุผลอะไร ดังนั้นจะยุบได้ทันที

เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากศาลปกครองออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะที่การเลือกตั้งยังคงเดินหน้าไป จะทำให้การเลือกตั้งโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดออกมาก็โมฆะ ก็ต้องฟังศาลเป็นหลัก หากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลจะต้องรักษาการต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่ามีคนตั้งข้อสงสัยว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ อย่าไปคิดอะไรมาก ขอให้มุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง พวกที่คิดแบบนี้คือพวกที่ต้องการให้เกิดความวอกแวก อะไรจะเกิดก็ช่าง แต่หน้าที่เวลานี้ คือ เมื่อยุบสภาแล้ว ก็ต้องนำไปสู่การเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้กลัวการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “กลัวไม่กลัวไม่รู้ ต้องไปถามท่าน แต่ผมไม่กลัว แต่ที่ผมกลัวคือประเภทอยู่กันยาว”

เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้น อำนาจการปกครองจะอยู่ที่ใคร นายวิษณุ กล่าวว่า หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ถูกต้อง เขตที่แบ่งไม่ชอบก็ประกาศให้มีการแบ่งใหม่ ซึ่งจะไม่กระทบต่อกรอบเวลา แต่จากกระทบต่อเวลาหาเสียงที่สั้นลงมาก ซึ่งไม่กระทบต่อวันเลือกตั้งที่กำหนดไว้ และหากจำเป็นรัฐธรรมนูญก็ให้เลื่อนวันเลือกตั้งได้

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รักษาการก็จะไม่ยาวไปกว่าในกรอบรัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ถูกต้อง

นายวิษณุ กล่าวย้ำว่า “อย่าไปทำอะไรให้มันตุกติก ให้มันเลือกตั้งกันไปให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยกันไปเลย”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]