เลขาฯ พรรค รทสช. ลงพื้นที่ขอคะแนนให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ

กทม. 19 มี.ค.-เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ขอคะแนนให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พร้อมรับฟังปัญหา ย้ำผู้สมัครล้วนเป็นคนมีความรู้ ประสบความสำเร็จในหลายอาชีพ จ่อลงเปิดเวทีใหญ่หาเสียงทุกภาค เตรียมเปิดตัวแคนดิเดต นายกฯ ของพรรค 25 มี.ค.นี้ ปลื้มผลโพลดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วยนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดช่วย 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ หาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ใต้ ประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ เขตบางนา-พระโขนง, นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เขตสวนหลวง-ประเวศ และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ เขตวัฒนา-คลองเตย


นายเอกนัฏ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ว่า วันนี้มาช่วยผู้สมัครหาเสียงใน 3 พื้นที่ด้วยกัน เป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ใต้ มั่นใจว่าผู้สมัครแต่ละคนเป็นผู้ที่มีความสามารถ และมีคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจอาสาเข้ามาทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศชาติ โดยพรรคมีความตั้งใจที่จะรวบรวมคนทุกสาขาอาชีพที่มีความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงาน ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เห็นว่าเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้คนรุ่นใหม่ หลายคนประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเมืองเข้ามาทำงานโดยจะมี อดีต ส.ส ผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำชี้แนะ สนับสนุน เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในต่างจังหวัดถนนทุกสายอาจจะมุ่งเป้าไปที่นักเลือกตั้ง แต่สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ จะได้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน อย่างเช่นพื้นที่บางนา พระโขนง มี ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ ที่เป็นอาจารย์ แต่ได้ลาออกจากราชการเพื่อมาทำงานด้านการเมืองให้กับส่วนรวม นอกจากนี้ยังมีนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ startup ที่ประสบความสำเร็จ อาสาเข้ามาทำงาน และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ที่เป็น ส.สในพื้นที่อยู่เดิม ทุกคนล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราก็มี อดีต ส.ส., อดีตนักการเมืองที่มีประสบการณ์ หลายคนมาช่วยกันวางแผนในเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการทำงานหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีความสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ที่จะร่วมทำงานด้วยกัน


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีโอกาสเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกของพรรคลงพื้นที่ช่วย ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หาเสียงหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ได้เห็นอย่างแน่นอน แต่วันนี้ “ลุงตู่” ไป จ.ภูเก็ต และมีภารกิจค่อนข้างมาก ดังนั้นทางพรรคจึงต้องแบ่งสายกันไปทำงาน และเนื่องจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และตนเองก็เคยเป็น ส.ส. กทม.มาก่อน ทำให้มีประสบการณ์ในการหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นจึงจะเป็นคนที่ลงมาช่วยว่าที่ผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่มากเป็นพิเศษ หลังการยุบสภาฯ พรรคก็มีแผนที่จะ เปิดเวทีหาเสียงใหญ่ในทุกภาคของประเทศพร้อมเปิดตัวผู้สมัครในทุกพื้นที่ รวมถึงเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในเร็ววันนี้ โดยคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 มีนาคมนี้

“พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคถือเป็นแรก ทีได้จัดตั้งสาขาและตัวแทนครบ 77 จังหวัด จึงมีความพร้อมที่จะประกาศตัวผู้สมัครทุกเขตครบ 400 เขต หลังจากยุบสภาฯ ไปเราก็จะประชุมกรรมการสรรหาคัดเลือกตัวผู้สมัคร และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายส่วนแคนดิเดตนายกฯจะเป็นใครบ้างนั้นอยากให้รอดูกันต่อไป” นายเอกนัฏ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลคะแนนนิด้าโพล ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนนิยมในภาพรวมมาเป็นอันดับ 3 นายเอกนัฏ กล่าวว่า หากดูโพลตั้งแต่เริ่มต้นมา ในวันที่ตนรับเข้าตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นครั้งแรก ที่โดนสบประมาทปรามาสมาตลอด แต่มาถึงวันนี้ก็เห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากต่ำกว่า 1% ขึ้นมาเป็น 7% เป็น 13-14% โดยเฉพาะคะแนนนิยมในภาคใต้ ของพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นอันดับ 1 และพรรคเองก็มีคะแนนนิยมที่ดีขณะที่ในกรุงเทพฯ หากดูจากผลโพล ก็จะพบว่าเป็นการต่อสู้ที่สูสี ระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลและพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนภาคกลางเห็นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ใน Rating ที่น่าจะสู้ได้ เพราะมีทีมงานที่ดีและมี ส.ส. เดิมที่แข็งแรง ในขณะที่ภาคเหนือและอีสานต้องยอมรับว่า พรรคจะต้องทำงานหนักมากขึ้น แต่มั่นใจว่าสามารถสู้กับพรรคอื่นได้อย่างแน่นอน


สำหรับภารกิจของนายเอกนัฏ ช่วงเช้าได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธิเปิด ศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ เขตบางนา-พระโขนง ซึ่งเป็นพื้นที่ ลงสมัครของว่าที่ ร.ต อ.หญิงอัยรดา โดยร่วมพิธิสงฆ์ก่อนพบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรค

จากนั้นได้เดินทางไปยังวัดปากบ่อ ซ.อ่อนนุช 35 เขตสวนหลวง ช่วยนายพงษ์พล ยอดเมืองเจริญ หาเสียงในพื้นที่ และจุดที่ 3 ที่ซอย สุขุมวิท 21 เพื่อช่วยนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์หาเสียงในพื้นที่

ทั้งนี้ นายเอกนัฏ ได้รับฟังข้อร้องเรียนและปัญหาต่างๆ ของประชาชนในพื้นที่ อาทิ การเพิ่มรายได้ค่าตอบแทนของครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การเพิ่มสวัสดิการให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า โดยนายเอกนัฏได้รับข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อนำไปหาแนวทางในการทำงานตามนโยบายของพรรคซึ่งหลายประเด็น ตรงกับแนวคิดและนโยบายของพรรคอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมที่รัฐบาลทำอยู่ และพรรคเองก็หวังที่ทำต่อและทำให้เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย