กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – “มาดามเดียร์” การันตี “แจ๊ค จักรวี” ตั้งใจทำงาน ย้ำ ปชป. คิดนโยบายคำถึงถึงอนาคตลูกหลาน ไม่เอากัญชาเสรี “ดร.เอ้” พร้อมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อ้อนขอคะแนนให้ทั้งคนทั้งพรรค
16 มี.ค. 2566 ที่ศูนย์ยีชา บ้านปากเหล็ง พรรคประชาธิปัตย์จัดปราศรัยและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตประเวศ เขตสวนหลวง นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี (มาดามเดียร์) ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมด้วยนายจักรวี วิสุทธิผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวง ประเวศ (หนองบอน) และนายกิตพล เชิดชูกิจกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตประเวศ สะพานสูง
น.ส.วทันยา กล่าวปราศรัยแนะนำนายจักรวี วิสุทธิผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสวนหลวง-ประเวศ (หนองบอน) ว่าเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน ลงพื้นที่มาตลอด 4 ปี ซึ่งครั้งหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยได้คะแนนสูงถึง 50,000 คะแนน จากเขตสวนหลวง แต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแม้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้ ส.ส. ในเขตกรุงเทพมหานครเลย แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยทิ้งพี่น้องในเขตกรุงเทพมหานคร ในทางกลับกันเป็นแรงผลักดันให้เราทำงานมากขึ้น ซึ่งวันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังดำเนินนโยบายในการเลือกตั้งที่จะถึง โดยนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่ถูกคิดด้วยความรอบคอบ ทำงานไม่ฉาบฉวย เพราะเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ
ดังนั้น นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของอนาคตของลูกหลาน ทั้งนโยบายการศึกษา นโยบายเศรษฐกิจปากทอง และนโยบายที่อยากให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน คือธนาคารชุมชน ชุมชนละ 2 ล้านบาท และนโยบายกองทุนไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อให้ประชาชนที่มีอัตลักษณ์อย่างคนสวนหลวงสามารถนำความคิดสร้างสรรค์มาเงินทุนเพื่อเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์มาเป็นเงินเป็นธุรกิจได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องสังคมสูงวัย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมองข้ามกลุ่มคนสูงวัย และเล็งเห็นความสำคัญของคนสูงวัยที่เป็นฐานกำลังหลักของประเทศ จึงมีนโยบายสนับสนุนเงินให้ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมละ 30,000 บาทต่อปี
“เราไม่ได้ทำนโยบายที่ลด แลก แจก แถม ทำประชานิยม เพียงหวังจะเข้าสู่อำนาจโดยที่ไม่สนอนาคตของประเทศชาติ เราไม่ทำนโยบายแบบกัญชาเสรีที่ไม่คิดถึงอนาคตของลูกหลานแบบนี้ นโยบายที่เกี่ยวกับยาเสพติดโดยไม่คำนึงถึงอนาคตของลูกหลานเราไม่ทำ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ คือ สถาบันทางการเมือง ทุกนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอออกมาเราทำและคำนึงถึงอนาคต เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่คู่กับคนสวนหลวงไปอีกนานแสนนาน” น.ส.วทันยา กล่าว
พร้อมตั้งคำถามกับประชาชนถึงประมูลราคาตัว ส.ส. สูงถึงหลักล้านว่า ถ้าคนแบบนี้เข้าไปสภาฯ จะเห็นหัวเราหรือไม่ ถ้าเห็นผลประโยชน์สำคัญลำดับที่ 1 เมื่อเข้าไปในสภาฯ จะเลือกผลประโยชน์ของตนเองหรือผลประโยชน์ของประชาชนก่อน นี่คือต้นตอของปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เวลา ส.ส. เข้าไปสู่อำนาจ เข้าไปสู่ตำแหน่ง เขาย่อมจะกลับไปเอาเงินทองเขาคืน ดังนั้น ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันคือศัตรูตัวร้ายที่สำคัญที่สุด และฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศ เราไม่อยากให้มีการทำรัฐประหาร แต่การทำรัฐประหารแต่ละครั้งมาจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันทั้งสิ้น
ตนเชื่อว่าพี่น้องชาวสวนหลวงที่ฟังปราศรัยในวันนี้เชื่อว่าเรามีสายเลือดประชาธิปัตย์ มีหัวใจอันเดียวกัน นั่นคือหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีศรัทธาของพี่น้องชาวสวนหลวงเป็นพึ่งพิงมาตลอด
ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวปราศรัยถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่าอากาศในกรุงเทพฯ ปัจจุบันแย่ลงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา อากาศหายใจไม่ได้ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมที่หนักขึ้นทุกวัน จุดเปลี่ยนคือการเลือกตั้งผู้แทนฯ ที่ต้องไปทำงานแทนประชาชน
“วันนี้มีคนอาจจะเสนออะไรท่าน แต่อยากให้ฉุกคิดหันไปมองลูกหลาน ว่า 1 คะแนนมีผลต่อลูกต่อหลาน วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ที่มากันเต็มที่ มาเพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าขอเป็นตัวแทนของประชาชนไปทำงานดูแลปกป้องลูกหลาน และพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ประกาศสงครามกับฝุ่น PM 2.5 เพื่อขอเป็นตัวแทนประชาชน ดูแลปกป้องลูกหลานของคนไทยและคนกรุงเทพฯ ทุกคน”
ทั้งนี้ ตนอยากปลุกทุกคนให้ต่อสู้กับปัญหาที่เจอ ขนาด 4 ปีที่ผ่านมายังเป็นอย่างนี้ ถ้ารออีก 4 ปี ลูกหลานจะเป็นอย่างไร ประชาธิปัตย์อยากสร้างความเปลี่ยนแปลง อยากดูแลพี่น้องคนกรุงเทพฯ และนี่คือคำมั่นสัญญา จึงอยากขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งคนทั้งพรรค
ขณะที่นายองอาจ กล่าวปราศรัยปิดท้ายว่า วันนี้ไม่ได้มาเพื่อขอคะแนนให้นายจักรวี เพราะตนเชื่อว่าคนที่นั่งอยู่ที่นี่เกือบทุกคน เลือกนายจักรวีแน่นอน แต่ตนมาที่นี่เพื่อมาขอบคุณพี่น้องชาวสวนหลวง-ประเวศ ว่าทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พี่น้องไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ และให้กำลังใจประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ถึงแม้ทุกคนจะตั้งใจเลือกนายจักรวี แต่ตนอยากจะบอกเหตุผลที่ต้องเลือกนายจักรวีว่า
1.ต้องพิจารณาเรื่องพรรคการเมืองที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด ที่สำคัญต้องเป็นพรรคที่อยู่คู่กับประชาชนมายาวนานอย่างพรรคประชาธิปัตย์ หลายครั้งที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ก็เริ่มต้นทำงานใหม่ให้ประชาชน
2.นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนโยบายที่นึกถึงประชาชนทุกคน และ 3.เขตสวนหลวง-ประเวศ มีนายจักรวีเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่ทำงานรับใช้ประชาชน.-สำนักข่าวไทย