กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – ไม่ถอย! “อนุทิน” ลงพื้นที่ กทม. ช่วย “ประเดิมชัย” มุ่งใช้ One Day Pass ลดค่าครองชีพ พร้อมลุยแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ยกระดับชุมชนเมืองหลวง ชูสารพัดผลงาน ตอกย้ำสโลแกน “พูดแล้วทำ”
16 มีนาคม 2566 บริเวณลานกีฬาชุมชนบึงพระราม 9 พัฒนา เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนางสาวภาดา วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และ ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ลงพื้นที่ช่วยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต กทม. ในพื้นที่หาเสียงมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยอาสามาทำงานรับใช้ประชาชน หลายคนอาจจะมองว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีประสบการณ์ในพื้นที่ กทม. ทว่าในความเป็นจริง ผู้สมัครของพรรคที่ยืนอยู่ข้างตน อย่างนายประเดิมชัย เป็นถึงอดีต ส.ส. ทำงานรับใช้พี่น้องมาหลายสิบปี ในตำแหน่งหน้าที่ต่างกันไป หรืออย่างนายพุทธิพงษ์ก็เช่นกัน ถือว่าเป็นคนที่รู้จัก กทม. ไม่แพ้ใคร
สำหรับการลงพื้นที่เพื่อมาช่วยนายประเดิมชัย ตนลงมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งเมืองหลวง พรรคภูมิใจไทยเอาจริง ไม่มีคำว่าถอย ที่ผ่านมาเราทำงานหนัก สิ่งหนึ่งที่ยืนยันความสามารถของเราได้คือผลงาน อาทิ เรื่องการขึ้นค่าตอบแทน อสม. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็มีส่วนสำคัญในการผลักดัน
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการฟอกไตฟรี ที่ตนเคยพูดไว้แล้วว่าต้องทำได้ ที่สุดก็ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับเรื่องมะเร็งรักษาทุกที่ ที่ตอนนี้ได้เดินหน้าแล้ว ขณะที่นโยบาย กยศ. เราพยายามทำให้เป็นเรื่องของเงินยืม ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีผู้ค้ำ พรรคภูมิใจไทยเดินหน้าเต็มที่ เราทำให้ดอกเบี้ยเหลือประมาณ 1% ขณะที่ผู้ค้ำไม่มีแล้ว นี่คือผลงาน เป็นสิ่งยืนยันว่าเราพูดแล้วทำ
“สิ่งที่ผ่านมาคือหลักฐานการทำงาน จากนี้เราจะทำอะไร คำตอบคือมันต้องลดเรื่องค่าครองชีพของคนกรุงเทพฯ ค่ารถโดยสาร รถไฟ รถเมล์ ต้องลด เรามีนโยบายตั๋ว One Day Pass การกำหนดค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท, ส่วนรถไฟฟ้าเริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท, ส่วนในเรื่องของคุณภาพชีวิต ที่ดินของคนกรุงเทพฯ จำนวนมาก ทับซ้อนกับพื้นที่ของรัฐ มันต้องเข้าไปแก้ไขได้แล้ว ต้องทำให้ชัดเจน ตนมองในเรื่องของการให้สัญญาเช่า ทำให้มันถูกต้อง อย่าปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง ทุกครัวเรือนต้องมีทะเบียนบ้าน ขอน้ำ ขอไฟได้เอง ไม่ต้องไปต่อเอากับคนอื่น แล้วต้องเสียเงินมากขึ้น ชุมชนแออัด อยู่กันอย่างหวาดกลัว หลบซ่อน มันต้องดีขึ้น คุณภาพชีวิตต้องดีขึ้น”
นอกจากนั้นนายอนุทินยังเน้นย้ำนโยบายกรมธรรม์ผู้สูงอายุ หรือเมื่อประชาชนมีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้สิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ได้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเองและประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ จำนวน 20,000 บาท เมื่อจากไปลูกหลานจะได้รับเงิน 100,000 บาท.-สำนักข่าวไทย