ชี้ หาก กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จ ก็ยุบสภาได้

ทำเนียบ 16 มี.ค.- “วิษณุ” ชี้หาก กกต.ส่งเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งให้รัฐบาลวันนี้ ก็สามารถประกาศยุบสภาได้ เตรียมร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาพร้อมแล้ว ยันนายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ทันที โดยไม่ผ่าน ครม. แจง “นายกฯ” ลงพื้นที่ตรวจราชการทำได้ แต่หากมีหลักฐานชัดก็เอาผิดได้เช่นกัน


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.  ยื่นให้ กกต. ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ให้พรรคการเมือง เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่ตรวจราชการแฝงการหาเสียง ว่า  ไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้  และไม่ทราบภารกิจของนายกรัฐมนตรีว่าใช้เฮลิคอปเตอร์หรืออะไร แต่หลักการ คือ ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ บุคคลการของรัฐ เพื่อหาเสียงที่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้น เป็นหลักการที่กฎหมายเขียน ส่วนในทางปฏิบัติจะทำอย่างไรก็แล้ว

“ต้องเข้าใจว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี มีความแตกต่างจากผู้สมัครพรรคการเมืองคนอื่นๆ ที่ไม่มีตำแหน่งทางราชการ เมื่อใช้ก็จะเข้าข่ายใช้ทรัพยากรของรัฐ แต่อีกด้านนายกรัฐมนตรี ยังมีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี  เพราะยังไม่ยุบสภา และมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ไปตรวจราชการ อาจจะสร้างขึ้นมาว่าไม่มีราชการ แต่ท่านไปตรวจ ก็ถือว่าเป็นงานราชการ ก็เหมือนกับที่ พล.อ.ประวิตร ไปตรวจน้ำท่วม  และ รัฐมนตรีไปเปิด -ปิดงานต่างๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงาน เพราะฉะนั้นหากปฏิบัติอยู่ในกรอบนี้ แต่ทั้งนี้ ก็มีเส้นแบ่ง ขอให้อยู่ในหลักบริหารราชการแผ่นดิน” นายวิษณุ กล่าว


เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ถี่ขึ้น และให้เหตุผลว่าเป็นการลงเพื่อไม่ให้เกิดเกียร์ว่างช่วงรอยต่อการทำงาน  เป็นเหตุผลที่กล่าวอ้างได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ให้ตนตอบว่าได้หรือไม่ได้ ซึ่งขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอง ทั้งนี้ใครก็ตามที่มีศักยภาพและความตั้งใจว่าจะลงสมัครส.ส. ต้องมีความระมัดระวัง ไม่เหมือนตน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ชัดเจนจะไม่ได้ลงสมัครส.ส. ทั้งนี้ หลังยุบสภา ต้องระวังมากกว่านี้หลายเท่าแน่นอน แต่ก็จนกว่า กกต.จะกำหนดเกณฑ์ กติกา

เมื่อถามว่า หากผู้ร้องสามารถหาหลักฐาน เรื่องการเกณฑ์คนเข้ามารับฟัง พูดคุยในการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี จะเป็นหลักฐานที่นำไปสู่การมัดตัวในการใช้ทรัพยากรของรัฐได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถือเป็นหลักฐานหนึ่ง ถ้าพิสูจน์ได้อย่างนั้น แต่เรื่องจริงเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ไปกับเขาด้วย

ส่วนได้มีการกำชับนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องบอกนายกรัฐมนตรี เพราะได้อ่านเกณฑ์ กติกาต่างๆ ให้ ครม.รับทราบแล้ว ซึ่งหลังยุบสภาจะมีความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติมากขึ้น เพราะก่อนยุบสภา กกต.ก็สองจิตสองใจที่จะเตือน เพราะยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้สมัครบ้าง แต่กรณี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้แจ้งเตือนไปแล้ว


เมื่อถามถึงวันยุบสภา เหมือนจะชัดเจนเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้ นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้หารือ และ ตนไม่ทราบ แต่ก็หนีไม่พ้น เพราะถ้าเลยจากวันที่ 20 ก็เป็น 21 และ 22 มี.ค. ส่วน 23 มี.ค.ก็จะหมดเวลาแล้ว ก็จะพัวพันในช่วงเวลานี้  แม้กระทั่งวันนี้หากจะยุบก็ยุบได้ ทั้งนี้ยืนยันในวันอังคารที่ 21 มี.ค. ก็จะมีการประชุมครม. เพราะมีอีกหลายวาระ นายกรัฐมนตรีสามารถที่จะเซ็น และยังทำงานได้อยู่ ส่วนจะเป็นครม.รักษาการหรือไม่ เขาเรียกกันแบบนั้น แต่กฎหมายไม่ได้เรียก ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความไว้หลายปีแล้วว่าอย่าไปเรียก เพราะถ้าเรียกก็จะเกิดปัญหาขึ้น แต่ในภาษาพูดก็สามารถเรียกได้  ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพราะมีการตีความเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยุบสภาแล้วมีรัฐมนตรีบางคนไปวงเล็บว่ารักษาการ ซึ่งกฤษฎีกาตีกลับมาว่าไม่ถูก

เมื่อถามถึงพระราชกฤษฎีกายุบสภา ขั้นตอนเป็นอย่างไร  นายวิษณุ กล่าวว่า ก็จะมีการยกร่าง และนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย จากนั้นก็จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา จากนั้นก็จะประกาศ ส่วนจะมีผลวันไหนก็อยู่ที่พระราชกฤษฎีกาเขียนไว้ว่าอย่างไร อาจมีผลในวันประกาศก็ยุบสภาในวันนั้น หากเขียนว่ามีผลถัดจากวันประกาศก็จะยุบวันรุ่งขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ เองได้โดยไม่ต้องผ่านครม. ซึ่งเป็นพระราชกฤษฎีกาเดียวที่ไม่ต้องผ่านครม. แต่ต้องส่งให้ตนช่วยตรวจสอบ โดยนายวิษณุ ยอมรับว่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งให้ทำ แต่ร่างได้เตรียมไว้แล้ว

สำหรับรัฐมนตรีที่เตรียมเปิดตัวย้ายไปร่วมงานกับพรคคฝ่ายค้าน จะต้องลาออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็น แต่ถ้าคิดว่าเป็นมารยาท และอึดอัด มองหน้ากันไม่สนิทก็ลาออกได้ แต่หากไม่มีปัญหา พูดจากันได้ ในอดีตก็เคยมี

ส่วนการลาออกช่วงนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องสัดส่วนครม.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งจะออกหรือไม่ออก ก็ได้ หากออกตอนนี้ หรือสักพักค่อยออกก็ได้ ก็เคยมีมาแล้วในอดีตที่ทำทั้ง 2 อย่าง แต่ถ้าลาออกตอนนี้ก็ถือว่ามีมารยาทดี บางทียังไม่ออก อยู่ไปสักพักค่อยลาออกก็ได้

ขณะที่ กกต.ระบุว่าวันนี้(16 มี.ค.) จะมีการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จสิ้น นายวิษณุ ยอมรับว่า ที่ไม่สามารถยุบสภาได้ เพราะต้องรอวันนี้  ซึ่งเมื่อกกต.ส่งมาจะประกาศได้เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าส่งมาวันไหนก็สามารถประกาศได้  รวมถึงแม้จะเป็นวันหยุดก็สามาาถประกาศได้ และยุบสภาเมื่อไหร่ก็ได้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย