พรรคเสรีรวมไทย 15 มี.ค.-“เสรีรวมไทย” เปิดนโยบายปฏิรูปกองทัพ ลดขนาดเพิ่มประสิทธิภาพ ชี้งบประมาณต้องตรวจสอบได้ ลั่นไม่ใช่เกณฑ์ทหารไปเฝ้าบ้าน-รับใช้นายพล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย แถลงนโยบายด้านการเมือง เรื่องการปฏิรูปทหาร โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าบ้านเมืองมีปัญหาเพราะระบบราชการมีปัญหาสะสมมานาน ซึ่งจะต้องมีการปฏิรูปทั้งระบบ เพราะทุกกระทรวง ทบวง กรม บริหารภาษีประชาชนบกพร่อง ใช้งบประมาณสูงเกินจนต้องกู้เงิน การบริหารประเทศรัฐบาลจะต้องประหยัด ขยัน ซื่อสัตย์ เสียสละ แต่รัฐบาลนี้กลับฟุ่มเฟือยจนมีปัญหา กองทัพต้องไม่ยุ่งกับการเมือง ต้องโปร่งใส ไม่ใช่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยไม่ดูสถานการณ์ประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีเงินทอน และการขึ้นตำแหน่งพลเอกจำนวนมาก ทำให้ต้องขยายหน่วยและกำลังพล นอกจากนี้ ต้องย้ายกองทัพออกนอกพื้นที่กรุงเทพ งดการเกณท์ทหารแล้วใช้วิธีรับสมัครแทน
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2023/03/15/1134443/1678864972_829534-tnamcot-1024x768.jpg)
ด้านนายสมชัย กล่าวถึงนโยบายปฎิรูปกองทัพว่า ที่ผ่านมา 91 ปีมีรัฐประหาร 13 ครั้ง เป็นการเสียโอกาสประเทศชาติ ที่มีการฉีกรัฐธรรมนูญแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้วเลือกตั้ง ซึ่งวนเวียนอยู่อย่างนี้ ดังนั้นพรรคจะขอเสนอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 113 เพิ่มข้อความการทำรัฐประหารถือเป็นความผิดที่ไม่มีอายุความ ขอนิรโทษกรรมไม่ได้ และการปฏิรูปกองทัพ คือ ต้องมีความโปร่งใสในการบริหารเงินทั้งในและนอกงบประมาณ จากปัจจุบันงบฯซื้ออาวุธ ถูกตีตราว่าเป็นเอกสารลับ ทั้งที่หลายรายการไม่เป็นเรื่องของความมั่นคง เอาเงินไปใช้ไม่เป็นประโยชน์ และหลายรายการสูงเกินจริง มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ โดยเฉพาะการนำ ไปซื้อรถควบคุมสั่งการ ที่กลายเป็นรถเบนซ์สำหรับนายพล ซึ่งสภาไม่สามารถขอรายละเอียดได้
นายสมชัย ยังกล่าวว่า เงินนอกงบประมาณ จากรายได้ของสถานีโทรทัศน์และวิทยุ สนามมวย สนามกอล์ฟ รายได้จากสิ่งเหล่านี้อยู่ที่ไหน ซึ่งต้องถูกตรวจสอบจากสภา ทั้งนี้กองทัพต้องมีขนาดเล็กลง ในลักษณะจิ๋วแต่แจ๋ว เพิ่มเทคโนโลยีให้ทันสมัย มีสมรรถนะ ต้องพิจารณาว่าตำแหน่งต่างๆมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด นายพลมีงานทำ หรืออยู่บ้าน ไม่ได้คุมกำลังพลอะไร การเกณฑ์ทหารต้องยกเลิก เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะนำคนไปประจำการหรือไปรับใช้ที่บ้าน แต่มาใช้การสมัครแทน และจำเป็นต้องย้ายหน่วยงานของทหารออกไปนอกกรุงเทพ ทำให้ประชาชนมีพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น นำพื้นที่มาพัฒนาและหารายได้เข้าสู่รัฐ .-สำนักข่าวไทย