เพื่อไทยยันการแบ่งเขตเลือกตั้งกทม.บางแบบขัดกม.

พรรคเพื่อไทย 14 มี.ค.- “เพื่อไทย” ยันการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.บางแบบ ขัด กม. ยันเพื่อไทยพร้อมสู่ทุกกติกาเพื่อประชาชน


นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทยพร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ในเขตพื้นที่ กทม.

นายวิชาญ กล่าวว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 33 เขต เป็นที่จับจ้องของทุกพรรคการเมือง ดังนั้นพื้นที่การแบ่งเขตต้องคำนึงถึงกฎหมาย ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 มาตรา 29 ที่ต้องคำนึงถึงการยึดเขตปกครองเป็นหลัก ต้องยึดโยงในการเดินทางให้ความสะดวกกับประชาชนมากที่สุด รวมถึงต้องแบ่งเขต ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  จะต้องไม่สร้างความสับสนให้กับประชาชน แบบที่ 1เป็นแบบที่เหมาะสม  ซึ่งครั้งที่แล้วเพื่อไทยได้ท้วงติง กกต.ไปแล้ว โดยยืนยันว่าแบบที่ 1 และ 2 จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่  เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้เป็นเขตเลือกตั้งร่วมอำเภอต่างๆเป็นเขตเลือกตั้ง  ไม่ได้คำนึงถึงประชากร ยกตัวอย่างกรณีเขตมีนบุรี เขตฝั่งธนบุรี ทำให้เกณฑ์ประชากรการเลือกตั้งมีความสับสนวุ่นวาย  เขตเดียวแต่มีการแบ่งแขวง  ส.ส. แต่ประชาชนไม่ได้อะไร ซึ่ งจะสร้างความสับสนให้กับผู้อำนวยการเขต ข้าราชการ ที่จะต้องไปดูแลในพื้นที่การเลือกตั้งด้วย


“การจัดแบบนี้จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้บัตรเสียเยอะที่สุด การแบ่งเขตแบบที่ 1-2 หากมีคนไปร้องเรียนแล้วประกาศผลการเลือกตั้งไม่ได้ การเลือกตั้งอาจจะกลายเป็นโมฆะ ถ้าเกิดเช่นนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจะรับผิดชอบอย่างไร” นายวิชาญ กล่าว

ด้านนายจิรายุ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ “ตีตนไปก่อนไข้” แต่เป็นการให้ข้อสังเกตต่อ กกต. ที่จะออกกฎระเบียบหลังจากนี้ ตนยกตัวอย่างเขตคลองสามวามี 5 แขวง วันนี้ 2 แขวงถูกผลักไปที่เขตหนองจอก  ทั้งนี้การคิดคำนวณหน่วยเลือกตั้ง และการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้ง กกต. ต้องทำให้ชัดเจนว่าจะนับคะแนนที่ใด และหากเกิดกรณีบัตรเสียจะเกิดปัญหาอย่างมาก จะเป็นการตัดสิทธิ์พี่น้องประชาชน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมลงในสนาม แม้เคยโดนความไม่สะดวกในกติการการเลือกตั้งมาตลอด 15 ปี ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้  จึงขอฝากไปถึง กกต. หากประกาศเป็นเช่นนั้นจริง ขอให้ได้ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน และเน้นย้ำข้าราชการ ตำรวจ หรือส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน

“พรรคเพื่อไทยพร้อม ไม่ว่าท่านจะมัดมือ มัดแขน ปิดหู ปิดตา ล่ามโซ่เอาไว้ เราจะไปยืนในที่สว่าง ให้กับพี่น้องประชาชนใน กทม.เลือกทั้ง 33 เขต” นายจิรายุ กล่าว


ขณะที่น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า เป็นความกังวลใจของผู้ที่ทำงานทางการเมืองส่งไปถึง กกต. กทม. ที่มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งของกรุงเทพ 4 แบบ โดย กกต. เลือกแบบที่ 1  จาก 6 แบบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้แสดงความคิดเห็นและพรรคการเมืองอื่นได้ส่งความคิดเห็นไป กกต. ให้เลือกแบบที่เหมาะสม และเป็นธรรมมากที่สุด  ล่าสุด กกต. ได้ออกแบบมาใหม่อีก 4 แบบ ถือเป็นกระบวนการที่อาจไม่ชอบมาพากล  เป็นการแบ่งเขตแบบพิลึกพิลั่น  หลักการแบ่งเขตควรจะเป็นไปตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 ตามมาตรา 29 ที่การแบ่งเขต จะต้องเป็นการรวมเขตที่เป็นเขตใหญ่ๆ เข้าด้วยกัน ยึดหลักการมีพื้นที่ติดต่อกัน เพื่อที่จะให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและในการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย  ไม่ใช่การรวมแขวงเข้าด้วยกัน  มิเช่นนั้น ส.ส. จะกลายเป็น ส.ส.แขวงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อน ความลำบาก ความสับสนให้กับประชาชนที่จะต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นอย่างมาก   และขอตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นช่องทางที่ผู้ที่ไม่มีความโปร่งใส หรือตั้งใจทุจริตการเลือกตั้งจะเกิดช่องโหว่ในการกระทำการนั้นๆได้   อย่างล่าสุดที่มีข่าวบัตรประชาชนใบเดียว แต่มีหลายรายชื่อ ซึ่งน่าสงสัยว่าเหตุใดเกิดขึ้นในช่วงนี้  ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า การแบ่งเขตของ กกต. เข้าทางกลุ่มผู้มีอำนาจเป็นหลักหรือไม่  ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น กกต. ยังกลับหลังทันที ที่จะทำประโยชน์ให้คิดถึงส่วนรวมของประชาชนส่วนใหญ่ให้มากกว่าคิดถึงประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง กกต.เป็นองค์กรอิสระที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อำนาจใดๆ วันนี้ศักดิ์ศรีของการกระทำของท่านจะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า พี่น้องประชาชนจะให้ความเคารพ และยอมรับ อยู่ที่ตัวท่านเอง การแบ่งเขตจะต้องเป็นไปโดยหลักของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้