พม.จับมือ 3 หน่วยงานเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุฉุกเฉิน

ทำเนียบรัฐบาล 14 มี.ค.- นายกฯ ชื่นชมกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมมือภาคีเครือข่าย เพิ่มช่องทางรับแจ้งเหตุ 24 ชม. ผ่านระบบ ESS ช่วยผู้ประสบเหตุฉุกเฉินทางสังคมทั่วประเทศ ขอประชาชนอย่าแจ้งเท็จ อย่าโทรก่อกวน


ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการพัฒนาระบบการแจ้งเหตุ ช่วยเหลือ และส่งต่อเด็กเยาวชนด้อยโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและสังคม (ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม Emergency Social Services : ESS Thailand) ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รับฟังการนำเสนอระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม (Emergency Social Services : ESS Thailand) และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบการดูแล ช่วยเหลือเด็กเยาวชนด้อยโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและสังคม (ระบบการขอรับการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ : อพม. Smart) ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มและทุกช่วงวัยให้เข้าถึงบริการและระบบต่าง ๆ ของภาครัฐอย่างทั่วถึง เท่าเทียม ประชาชนอยู่รอด ปลอดภัย มีความสุข และมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี รับชมการนำเสนอการเปิดใช้ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม Emergency Social Services : ESS Thailand ในประเด็น “เขตพัฒนาพิเศษระเบียงสังคม (Social Capital Corridor)” และ “ผู้เสียสละทางสังคม” โดยชื่นชมการพัฒนาระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม Emergency Social Services : ESS Thailand ของ พม. ที่ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่พัฒนาระบบการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินทางสังคมและเหตุร้ายต่าง ๆ ที่เป็นผลกระทบต่อประชาชนและสังคมโดยรวม ทำให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนไปสู่รัฐบาลดิจิทัล และขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่และดิจิทัลไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรับเรื่องแจ้งเหตุต่าง ๆ เข้ามาจากประชาชนแล้ว ต้องเตรียมและบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง รองรับให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถคลี่คลายเหตุได้ทันและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างปลอดภัย พร้อมย้ำ พม. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ระบบแจ้งเหตุฯ ต่อเนื่อง และอธิบายถึงวิธีการใช้งานระบบแจ้งเหตุฯ ให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง ทำให้การแจ้งเหตุฯ และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนให้แจ้งข้อมูลที่เป็นจริง และอย่าเข้ามาก่อกวน แจ้งข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพราะเจ้าหน้าที่ต้องไปดูแลช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจริง หากทุกคนในสังคมช่วยกัน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือและคลี่คลายเหตุร้ายที่เกิดขึ้น พร้อมขอให้ทุกคนทำงานด้วยความระมัดระวัง สุจริต เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาภายหลัง และให้คำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญในการที่จะให้บ้านเมืองสงบสุขปลอดภัย

“ความรุนแรงที่เกิดขึ้นวันนี้ มีทั้งความรุนแรงในสังคม ในครอบครัว รวมถึงความรุนแรงจากยาเสพติด ทำให้สังคมมีปัญหา ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนลดลง ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแล เพราะนี่คือประเทศของเรา รัฐบาลนี้มุ่งหวังจะทำให้สังคมเราสงบสุข ปลอดภัย และให้ความสำคัญกับคนทุกช่วงวัย โดยรัฐบาลได้หาแนวทางและมาตรการต่าง ๆ มาดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนี้ที่เป็นช่วงแห่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีบทบาทและมีความสำคัญในสังคม รัฐบาลให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล สิ่งใดที่รัฐบาลทำ ขอให้ประชาชนทุกคนเข้ามาใช้ประโยชน์ เพื่อให้เราเป็นสังคมที่ปลอดภัย และขอให้ทุกหน่วยงานและทุกคนช่วยกันทำสิ่งดี ๆ เหล่านี้ต่อไป เพื่อประเทศชาติและประชาชนของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว


สำหรับระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม หรือ ESS เป็นความร่วมมือระหว่าง พม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และภาคีเครือข่าย เพื่อเป็นช่องทางในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคมในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งให้บริการเฉพาะกรณีปัญหาเร่งด่วนจาก 5 สาเหตุ ประกอบด้วย 1) ข่มขู่ว่าจะทำร้ายหรือทำร้าย 2) กักขังหน่วงเหนี่ยว 3) เสี่ยงถูกล่วงละเมิดทางเพศ 4) ผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และ 5) มั่วสุมจนก่อให้เกิดเหตุร้าย โดยทำงานผ่าน Line OA 24 ชม. ด้วยการค้นหาชื่อคำว่า ESS Help Me ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ เป็นการช่วยลดการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตได้ โดย พม. จะเริ่มเปิดใช้ระบบแจ้งเหตุ ESS ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 เมษายน 2566 ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ภายในงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2566.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.