นิด้า 13 มี.ค.-นักวิชาการชี้โพลคนอุดรเลือก “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกอันดับ 1 สะท้อน”ภูมิใจไทย-ไทยสร้างไทย”เจาะอีสานไม่ง่าย เชื่อ เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ในอีสาน แต่ไม่ทั่วประเทศ และไม่ถึงเป้าที่ตั้ง
ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นคนอุดรธานีที่ต้องการเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่งถึงร้อยละ 48 เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศว่า เหตุผลที่เลือกทำโพลที่อุดรธานี ซึ่งเป็นถิ่นคนเสื้อแดง เพราะต้องการทดสอบว่า การที่พรรคภูมิใจไทยโหมลงพื้นที่อีสานอย่างหนักและพรรคไทยสร้างไทยได้คนเสื้อแดงกลับใจมาสนับสนุนและอีกทั้ง 2 พรรคได้คนในตระกูลไชยสาสน์ ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของพื้นที่ จึงอยากทราบว่าทั้ง 2 พรรคนี้จะบุกพื้นที่อีสานได้หรือไม่ และผลโพลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่าเป็นเรื่องยากที่โอกาส 2 พรรคนี้จะบุกพื้นที่อีสานได้แบบเป็นก้อนเป็นเนื้อเป็นหนังคงยาก แต่ถามว่าพอได้บ้างหรือไม่ ก็คิดว่าน่าจะได้ส.ส. แต่ไม่ถึงกับสามารถทะลวงจนเป็นรูพรุนได้ เพราะผลโพลเริ่มเห็นภาพแล้ว ดังนั้นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะแลนสไลด์ในพื้นที่อีสานมีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นภาพรวมทั่วประเทศก็ยังมองว่า ไม่ได้ 310 เสียงขึ้นไปตามที่พรรคเพื่อไทยคาดหวังไว้ และส่วนตัวคาดว่า น่าจะอยู่ที่ 260 เสียง รวมทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ
“ถ้า 310 เสียงเกิดขึ้นได้ ต้องทำยังไงรู้ไหมต้องขโมยเพื่อนมาหมดเลย คือขโมยคนของก้าวไกลมาให้หมด เราเห็นว่า ที่ทำโพลที่อุดรเพราะเขาพยายามไปเจาะฐานที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยคืออุดรธานี เราก็เลยอยากรู้ว่าจะไหวไหม ผมเลยทดสอบ แต่ดูแล้วผลโพลออกมา ท่าจะยาก”ผศ.ดร.สุวิชา กล่าว
ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวด้วยว่า สำหรับสัปดาห์นี้จะเปิดผลสำรวจความเห็นของคนทั่วประเทศ ซึ่งเรียกว่า สิ่งเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1 ทำให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าพรรคเพื่อไทยจะถึงขั้นแลนสไลด์แล้วหรือยัง แล้วพรรคอื่นเป็นอย่างไรบ้าง ขึ้นมามากน้อยแค่ไหนและจะมีพรรคไหนสาบสูญหรือไม่
ส่วนที่เริ่มมีภาพของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยจะทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่นั้น ต้องติดตามดูเพราะก่อนหน้านี้ก็มีชื่อของทุกคนที่มีสิทธิ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ ประชาชนไม่ได้เลือก
ด้านรศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การที่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเปิดตัว นายเศรษฐา ถือเป็นการมาเสริมกันเพราะนายเศรษฐาจะดึงดูดคนวัยทำงานและนักธุรกิจ ขณะที่ น.ส.แพทองธารเป็นภาพของคนรุ่นใหม่ โดย 2 ส่วนนี้จะมาเสริมกันในแง่ของการหาเสียง อย่างไรก็ตาม หากเป็นในแง่จะให้คนเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าคะแนนนิยมในตัวนายเศรษฐาไม่น่าจะตามทัน น.ส.แพทองธาร
ขณะที่รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) กล่าวว่าการที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเศรษฐามา จะเป็นการช่วยเสริมคะแนนให้พรรคเพื่อไทย เพราะน.ส.แพทองธาร ได้กลุ่มคนรุ่นใหม่แต่นายเศรษฐา ซึ่งถือเป็นคู่แข่งของพลเอกประยุทธ์ที่มีจุดขายที่ประกาศนโยบายว่า ทำมาแล้วและจะทำต่อ จึงต้องนำนายเศรษฐามาประกบเพื่อเสริมให้กับพรรค อย่างไรก็ตาม คิดว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาคุยกันว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะวันนี้ต้องเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ก่อน พร้อมทั้งเห็นว่าการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ยังแบ่งเขตไม่ชัดเจนจะมีผลต่อการจัดตัวบุคคลและมีผลต่อการเลือกตั้งเป็นอย่างมาก เพราะเขตไม่นิ่งระบบจัดการเลือกตั้งทั้งหมดก็ไม่นิ่งเช่นกัน ดังนั้นช่วง 3 วันนี้ต้องจับตาดูเรื่องของเขตการเลือกตั้งให้ดี.-สำนักข่าวไทย