“อนุดิษฐ์” จี้ กสทช. แจงประมูลวงโคจรดาวเทียม

ไทยสร้างไทย 12 มี.ค. – “อนุดิษฐ์” กระตุก กสทช. ต้องแจงประมูลวงโคจรดาวเทียมให้เคลียร์ เหตุพิรุธเพียบ


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม. ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง (ผอ.สปก.) พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวตั้งข้อสังเกตถึงการประมูลวงโคจรดาวเทียมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีข้อพิรุธ และข้อสงสัยหลายประการว่าก่อนหน้านี้ ตนได้ซักถามคำถามหลายข้อไปยังคณะกรรมการ กสทช. และ ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการที่ กสทช. เลือกวิธีการประมูลวงโคจรดาวเทียม แทนที่จะออกใบอนุญาตให้กับหน่วยงานของรัฐเพื่อใช้ประโยชน์โดยตรง แล้วจากนั้นจึงค่อยให้สัมปทานกับเอกชนเพื่อยิงดาวเทียมขึ้นไปประกอบธุรกิจต่อไป ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิส่วนใหญ่เห็นว่าวิธีการนี้สามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศได้มากกว่า แต่ถึงขณะนี้ กสทช. ยังไม่เคยชี้แจงเหตุผลใดๆ เลย รวมทั้งไม่เคยเปรียบเทียบว่า ทำไมถึงเลือกใช้ประมูล และวิธีการประมูลเป็นวิธีที่ดีที่สุดได้อย่างไร โดยเฉพาะการประมูลที่ผ่านมา มีบริษัทเพียง 3 บริษัท ที่เข้าประมูล และหนึ่งในนั้นถูกครหาว่าเป็นเพียงคู่เทียบเพื่อให้ครบองค์ประกอบเท่านั้น

“ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ วงโคจรที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจถูกประมูลไปในมูลค่าที่สูงกว่าราคาขั้นต่ำเพียง 5% เศษเท่านั้น ซึ่งบุคคลในวงการย่อมทราบดีว่า บริษัทที่ประมูลวงโคจรได้วงโคจรที่มีศักยภาพไปในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าทางการค้าที่เอกชนสามารถนำไปแสวงกำไรได้ต่อไป ซึ่งต่างจากการที่รัฐให้เอกชนนำวงโจรดาวเทียมไปใช้งานภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งรัฐและประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า ทั้งรายได้จากสัมปทานและการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมโดยตรง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว


น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ยกตัวอย่างเรื่องวงโคจรดาวเทียมของไทยคม 7 และไทยคม 8 ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยขณะที่ตนดำรงตำแหน่งรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เสนอเรื่องให้ คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ เพื่อมอบหมายให้ บริษัท ไทยคม ไปทำหน้าที่แทนกระทรวงไอซีทีในการจองตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศเท่านั้น ซึ่งตำแหน่งวงโคจรของดาวเทียมไทยคม 7 และ ไทยคม 8 ดังกล่าวยังอยู่ภายใต้สัมปทานรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ กสทช. ออกให้บริษัทไทยคมโดยกำหนดว่า “ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่กระทรวงไอซีทีกำหนด” โดยกระทรวงไอซีทีได้มีหนังสือแจ้งบริษัทไทยคมมาตลอดว่า ดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ยังอยู่ภายในสัญญาสัมปทาน และขอให้ไทยคมจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับรัฐบาลตามที่เคยจ่ายด้วย แต่สุดท้ายบริษัทไม่ยอมจ่ายและทำหนังสือโต้แย้งไม่ยอมอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานโดยนำเรื่องนี้ไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งขณะนี้คดีเรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สุด

“ผมเชื่อว่าศาลปกครอง ย่อมพิจารณาคดีนี้โดยคำนึงถึงความถูกต้อง และประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามก็จะเห็นได้ว่า การที่วงโคจรดาวเทียมอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานของรัฐ ย่อมสามารถเก็บรายได้และผลประโยชน์ได้มากกว่าการประมูลอย่างแน่นอน และเอกชนย่อมหลีกเลี่ยง และไม่อยากอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทาน ดังนั้นจึงต้องถามกลับไปที่ กสทช. อีกครั้งว่า ทำไมท่านจึงเลือกวิธีการประมูล” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า การที่ตนออกมาตรวจสอบเรื่องวงโคจรดาวเทียมครั้งนี้ เพราะวงโคจรดาวเทียมเป็นทรัพย์สมบัติของคนไทยทุกคน จึงอยากเรียกร้องให้ กสทช. ออกมาชี้แจงในประเด็นนี้ให้ชัดเจนเพื่อความโปร่งใส และอยากเรียกร้องไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่แสวงประโยชน์กับ ดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ทุกฝ่าย ขอให้ท่านได้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และเงื่อนไขของ กสทช. ที่กำหนดให้การใช้ประโยชน์วงโคจรดาวเทียมยังต้องอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานของรัฐต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย