ยะลา 11 มี.ค. – นายกฯ พบปะผู้นำศาสนาอิสลามภาคใต้ ย้ำประเทศไทยต้องอยู่ด้วยกันอย่างไม่แตกแยก ช่วยกันทำให้เกิดความมั่นคง เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ว่าชาติใดศาสนาใดขอให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดยะลา พบปะผู้นำศาสนา กลุ่มดะวะห์ อูลามะห์ (ผู้รู้ทางศาสนา) นักเผยแผ่ศาสนา ที่มาร่วมประกอบพิธีโยร์ กิจกรรมประกอบศาสนกิจ การขัดกล่อมจิตใจ ความศรัทธา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม โดยมีผู้เดินทางมาร่วมงานกว่า 10,000 คน ณ ศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย มัสยิดอิล – นูร (มัรกัสยะลา) ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับผู้นำศาสนาว่า ตนกับผู้นำศาสนา พี่น้องดาวะห์ มีความคุ้นเคยกันมายาวนานตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งได้ดูแลกันมาตลอด วันนี้ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้สั่งการไปยังกองทัพ กอ.รมน. และ ศอ.บต. ให้การดูแลผู้ดาวะห์ทั้งหมดเพื่อเราจะได้เดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนสิ่งสำคัญ คือการเคารพซึ่งกันและกัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ด้วยกันอย่างพหุสังคม มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นศาสนูปถัมน์ภกทุกศาสนา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกศาสนาต่างสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้สังคมและประเทศชาติเกิดความสงบสุขได้นอกจากเราทุกฝ่ายทุกคนต่องร่วมมือ ช่วยกันทำ เราไปอยู่ที่ใดก็ต้องเคารพกฎและกติกาของกันและกัน และช่วยกันส่งเสริมพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ตนมาที่นี่ไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกหรือแตกต่าง เพราะทุกคนคือคนไทยเหมือนกัน วิกฤติที่เราเผชิญมาด้วยกันไม่ว่าจะเป็น โควิด หรือเศรษฐกิจ เราต่างช่วยกันมาจนผ่านพ้นมาได้ เราต้องช่วยกันทำให้ประเทศของเราอยู่ด้วยตนเองได้ มั่นคงด้วยตนเอง ให้ประเทศเดินหน้า ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งสำคัญเราต้องอยู่ร่วมกันด้วยความรัก สามัคคี และรักในแผ่นดินที่เราเกิด ไม่ว่าชาติใด ศาสนาใด ขอให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมในหลักคำสอนและข้อปฏิบัติของศูนย์ดาวะห์ โดยเฉพาะการไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย. – สำนักข่าวไทย