“เศรษฐา” ปราศรัยครั้งแรก อ้อนชาวพิจิตรเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค

พิจิตร 11 มี.ค. – ชาวพิจิตรแห่ฟังปราศรัยใหญ่ “เพื่อไทย” ล้นหลามนับหมื่น “เศรษฐา” ปราศรัยครั้งแรก ประกาศอาสาทำเพื่อบ้านเมือง อ้อนชาวพิจิตรเลือก “เพื่อไทย” ทั้งคนทั้งพรรค “ณัฐวุฒิ” เผย 17 มี.ค.นี้ ประกาศนโยบายชุดใหญ่


(11 มีนาคม 2566) พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นเกือบ 20,000 คน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นายภูดิท อินสุวรรณ์ และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ และอดีต ส.ส.เพื่อไทย นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมไว้ว่า ชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียงขึ้นไป ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าไปกาในคูหาให้เกิดขึ้นมาจริงๆ หากเพื่อไทยไม่ได้ 310 เสียง ชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอีก 4 ปี เอาหรือไม่ ก่อนหน้านี้ไม่กล้าประกาศ ขอเพียงได้ 250 เสียง เพื่อเอาชนะ ส.ว. 250 คนเท่านั้น แต่จากการรณรงค์พบปะพี่น้องประชาชนและการสำรวจของหลายสำนัก เพื่อไทยอาจได้ถึง 270 เสียงขึ้นไป อยากขอให้พี่น้องช่วยกันขยับเป้าหมายไปที่ 310 เสียง เพื่อปิดกั้นการกลับมาของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สิ้นซาก ช่วยกันจัดตั้งรัฐบาลของชาวพิจิตรและชาวไทยทุกคน


พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจและภูมิใจกับผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 3 เขตของพิจิตร ว่าเป็นคนที่อยู่กับพี่น้องประชาชน ทำงานกับพี่น้อง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 คือ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 2 อดีต ส.ส.ภูดิท อินสุวรรณ์ และเขตเลือกตั้งที่ 3 อดีต ส.จ.วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ ทั้ง 3 คน คือโอกาสและความหวังของพี่น้องชาวพิจิตรยกจังหวัด เชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิน 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้กา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต และกาบัญชีรายชื่อเพื่อไทย โดยจำสัญลักษณ์ให้ดี เจอสัญลักษณ์นี้กาทันที

“พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องจับมือกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่า เราไม่ยอมจับมือกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อไทยพรรคเดียว ขอให้พี่น้องมั่นใจกับคนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่ได้ 310 เสียง เราจะไม่มีอำนาจ ถ้าทำได้จะได้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่วิกฤติ ถ้าไม่เปลี่ยนรัฐบาล ไม่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีคนนี้ออกไป ประเทศจะตกต่ำจนยากแก้ไข ซึ่งตัวชี้วัดวิกฤติ 3 ประการสำคัญ คือ


  1. วิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศตกต่ำลงต่อเนื่องทุกปี รายได้พี่น้องลดลง ราคาพืชผลการเกษตรลดลง แต่ค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า ที่เป็นต้นทุนการผลิตทั้งในภาคอุตสาหกรรมและสิ่งจำเป็นในชีวิตพื้นฐาน กลับมีราคาสูงขึ้น
  2. วิกฤติยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ในโรงเรียนพบเห็นลูกหลานพี้กัญชา ยาบ้า นำไปสู่อาชญากรรมรุนแรง มีการก่ออาชญากรรมในที่สาธารณะอย่างอุกอาจ
  3. วิกฤติทุจริตคอร์รัปชัน ในระบบราชการทุกวันนี้เต็มไปด้วยทุจริตประพฤติมิชอบและตรวจสอบไม่ได้ และที่น่ารังเกียจที่สุด คือ การซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการอย่างเอิกเกริก จะเป็นผู้บริหารหน่วยงานรัฐต้องเสียเงินซื้อขาย คนได้ตำแหน่งเสียเงินไปก็ต้องมีรีดไถเอาจากผู้ใต้บังคับบัญชาและพี่น้องประชาชน

วิกฤติทุจริตคอร์รัปชัน ลุกลามเข้ามาถึงในสภาผู้แทนราษฎร เพราะทุกวันนี้ลิงมากินกล้วยในสภาฯ ลิงไม่กินข้าวแล้ว รอกินกล้วยกันเป็นล่ำเป็นสัน ตอนฤดูอภิปรายไม่ไว้วางใจ และที่น่าเกลียดที่สุดคือเรื่อง ส.ส. วันนี้เป็น ส.ส.พรรคนี้ แต่วันดีคืนดีไปนั่งกับอีกพรรคหนึ่ง โดยเป็น ส.ส.เหมือนเดิม เราเองอยากจะขับไล่ เขาก็อยากให้ขับไล่ไวๆ เพราะหากขับไล่แล้ว เขาก็จะได้ไปกินกล้วยเครือใหญ่ๆ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติยาเสพติด ตลอดจนทุจริตคอร์รัปชันที่ลุกลามไปทั่วประเทศเข้ามายังในสภาผู้แทนฯ เป็นความเลวร้ายที่เราทุกคนต้องร่วมมือช่วยกันเปลี่ยน คือ เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เราเห็นแล้วว่า นายกฯ คนเดิมยึดอำนาจมา สร้างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ตั้ง ส.ว. มาสืบทอดอำนาจตัวเอง เราต้องร่วมมือกันเอาระบอบประยุทธ์นี้ออกไปเสียที

“เราต้องการผู้นำที่ก้าวทันโลก มีความรู้ความสามารถ และวันนี้เราก็เห็นกันอยู่แล้วว่า คุณสมบัติผู้นำรัฐบาลที่ถึงพร้อมมีอยู่ในบุคลากรของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น พี่น้องชาวพิจิตรต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพื่อป้องกัน ส.ว. และพรรคเสียงข้างน้อยไปตั้งรัฐบาลแบบหน้าด้านแข่งกับเรา เราจึงต้องแลนด์สไลด์ เพื่อไทย 2 ใบ 310 เสียงขึ้นไปเท่านั้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าพี่น้องเจอปัญหามากมาย เพื่อไทยจะแก้ปัญหาให้เกษตรกร เรามีนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ผ่าน 3 ดี ได้แก่ ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี เพื่อให้ราคารสินค้าเกษตรดีถ้วนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นยกแผง และจากปัญหาที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4 ขั้นตอนที่จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ คือ

  1. นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิอย่างเป็นธรรม
  2. จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
  3. แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
  4. ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า เกษตรกรต้องมีลดต้นทุนลง ราคาสินค้าเกษตรต้องดียกแผง ข้าวราคาดี ปุ๋ยราคาถูก พรรคเพื่อไทยมีนโยบายนำนวัตกรรมมาเสริม เวลานาล่มก็ไม่ต้องเสียเงิน มีทุนมาให้ทำเกษตรกรรมต่อเนื่อง เราเล็งเห็นปัญหาและพร้อมแล้วที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกช่วงอายุ ช่วงวัย ช่วงอาชีพ จึงขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของพิจิตร ให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดพิจิตร

“คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุคคลท่านนี้เรามั่นใจได้เลยว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะขึ้นอย่างแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยครั้งแรกที่เวทีพิจิตร “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ในวันนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นความภูมิใจ มีความซึ้งใจเป็นอย่างมาก วันนี้ตนมีหัวใจที่รักพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนในฐานะนักธุรกิจที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปี ต้องก้าวออกมาจากวงการธุรกิจ และมาทำเพื่อบ้านเมือง

ทั้งนี้ ในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ยาวนานมาก สูญเสียโอกาส รายได้ลดลง รายจ่ายสูงขึ้น ยาเสพติดระบาดทั่วทุกระแหง ลูกหลานไม่เห็นอนาคตประเทศ คนที่มีความสามารถในการย้ายถิ่นฐาน ย้ายประเทศ บุตรหลานไม่อยากมีลูก เพราะไม่อยากเห็นอนาคตที่ไม่สดใส คนแก่เฒ่าเกษียณอายุ มีเงินเก็บไม่พอเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรีได้ในสังคม ไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เราถดถอยขนาดไหน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีดีพีเติบโตมากกว่าเรามโหฬาร ประเทศไทยไม่มีที่ยืนในเวทีโลก ผู้นำไม่เคยออกไปเปิดตลาดขายสินค้า เปิดตลาดใหม่ๆ เป็นความคับแค้นใจของพวกเรา

ในอดีต พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ทำนโยบายนำ นำความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้พรรคเพื่อไทย ภายใต้สโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น เคยทำ และหวังว่าจะได้ทำ” มาขอเสียงพี่น้องประชาชนสู่จุดมุ่งหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน ตนอยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต มีแสงสว่างที่ดี นำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่สดใส

“8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอหรือยัง ผมว่าพอนะครับ อีกไม่กี่เดือน วันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม เราจะมีวันสำคัญยิ่ง ที่จะเกิดขึ้นคือวันเลือกตั้ง ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 8 ปี เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองเบอร์ ทั้งคน ทั้งพรรค ไม่ปันใจให้คนอื่น ไม่สามารถทำได้ เพราะหากมีพรรคอื่นเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่ิคิดมาและเห็นว่าเหมาะสม และพี่น้องจะไม่ได้ในสิ่งที่เราสัญญาไว้ ผมและเพื่อนร่วมทีมจากพรรคเพื่อไทยไม่อยากจะกลับมาอีก มาอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ อยากจะกลับมาอีกพร้อมกับนโยบายใหม่ๆ ที่จะทำให้รายได้ของพี่น้องสูงขึ้น วันนี้ผมขอ ครั้งแรกที่มาปราศรัยที่นี่ ขอชาวพิจิตรแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้ง 3 เบอร์” นายเศรษฐา กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]