“สุวัจน์” โชว์วิสัยทัศน์ “โคราชโนมิกส์” พัฒนาโคราช-อีสาน

นครราชสีมา 11 มี.ค. – “สุวัจน์” โชว์วิสัยทัศน์ “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) พัฒนาโคราชและภาคอีสาน มั่นใจเอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ท่ามกลางเสียงเชียร์นายกฯ โคราช


วันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พร้อมด้วยสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า จ.นครราชสีมา ผู้นำชุมชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ร่วมงานกว่า 2,000 คน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยการเปิดตัวนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า “Koratnomics” การพัฒนาโคราชและภาคอีสาน ความมั่นใจเอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ภายหลังเปิดนโยบายภาพรวมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 12 เรื่องไปแล้ว ภายใต้แนวคิด “มีงาน มีเงิน ของไม่แพง” และได้รับการขานรับอย่างดี พร้อมข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ นโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายลดภาษี นโยบายในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ นโยบายเพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย และนโยบายซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุ เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบายเป็นการเฉพาะ ในการสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน จึงได้มีการจัดงานเปิดตัวนโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) ในการพัฒนาอีสานและโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา


นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เลือกตั้ง การเมืองต้องเตรียมพร้อม โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาประเทศ พรรคเราให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะถือเป็นปัญหาหลัก และเราเคยแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศไปแล้ว แต่เนื่องจากภาคอีสานและ จ.นครราชสีมา เป็นพื้นฐานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญและประสบปัญหาด้วย และพรรคถือว่าเติบโตมาจากภาคอีสาน เกิดที่ จ.นครราชสีมา ฉะนั้น เราได้บอกไว้ว่าจะนำเสนอนโยบายเฉพาะภาคอีสานและ จ.นครราชสีมา เพื่อบ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า พรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคของคนโคราช ของคนอีสาน เข้าใจปัญหาและพร้อมที่จะนำเสนอแนวนโยบาย ซึ่งเราได้จัดทำนโยบายร่วมกับผู้มีประสบการณ์ของพรรค รัฐมนตรีต่างๆ นักวิชาการต่างๆ เราเรียกว่า นโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) เพื่อเป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้อีสานและ จ.นครราชสีมา กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมาสู่อีสานและ จ.นครราชสีมา พล.อ.ชาติชาย เคยมีนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน คราวนี้นโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) เหมือนกับเปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน ภาคสอง ภาคต่อที่จะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เข้มแข็งกว่าเดิม แล้วทำให้เศรษฐกิจกลับมายิ่งใหญ่ ซึ่งเมื่อก่อน พล.อ.ชาติชาย ทำโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก วันนี้เราก็มี EEC ก็เหมือนกับโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ภาคสอง

โคราชโนมิกส์ เป็นนโยบายเอาเศรษฐกิจยุคทองของโคราช ของอีสานกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ 1. ต้องสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช 2. ต้องสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย 3. ต้องสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์ 4. โคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก และสุดท้าย 5. เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ ฉะนั้น ใน 5 นโยบายนี้จะมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์ที่จะนำไปสู่การต้อนรับนักลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม การลงทุนต่างๆ ที่จะทำให้ทุกคนมีงาน ทุกคนมีเงิน และทุกคนสามารถที่จะอยู่กับเศรษฐกิจยุคทองที่จะกลับมา

“เรามั่นใจว่า 5 นโยบายจะมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่จะนําไปสู่การต้อนรับนักลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม การลงทุนต่างๆ ที่จะทําให้ทุกคนมีงาน ทุกคนมีเงิน แล้วก็ทุกคนสามารถที่จะอยู่กับเศรษฐกิจยุคทองที่จะกลับมา ก็น่าจะถือว่าเป็นหัวใจ” นายสุวัจน์ กล่าว และย้ำว่า “ผมมั่นใจมากสําหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา เราจะต้องประสบความสําเร็จ เพียงแต่ว่าจะให้กี่คน ตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่มั่นใจว่า เราต้องคัมแบ็ก คว้าแชมป์ที่โคราช มีพลังมาทํางานให้คนโคราช”


“ฝากช่วยไปคิดต่อว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จ อันไหนมีจุดอ่อน จุดดี ช่วยกันต่อยอด เพื่อเกิดแนวร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนโคราชโนมิกส์ให้สำเร็จ เอายุคทองโคราชกลับมาอีกครั้ง” นายสุวัจน์ กล่าว

สำหรับบรรยากาศการเปิดนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า วันนี้ (11 มี.ค.) คึกคักไปด้วยแฟนคลับและกองเชียร์ ต่างถือป้ายให้กำลังใจประธานพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค และว่าที่ผู้สมัคร อาทิ ป้ายโคราชชาติพัฒนากล้า, สุวัจน์ สู้สู้, เทวัญ สู้สู้, ส.ส.โต ขวัญใจชาวโคราช, นายกรัฐมนตรีอยู่โคราช, สุวัจน์ เป็นนายกของคนโคราช, โคราชอีสานระเบียบเศรษฐกิจ, โคราชคมนาคมทันสมัย, โคราชท่องเที่ยวอินเตอร์, โคราชผลิตอาหารป้อนโลก, โคราชน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ

ส่วนเรื่องกระแสข่าวการใช้เงินในการเลือกตั้งหาเสียงต่างๆ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อันนี้เป็นภาพรวม มีข่าวที่เป็นปัญหาที่จะต้องช่วยกันแก้ไข พรรคการเมือง พวกเราเองก็ต้องช่วยกันดูแลและช่วยกรรมการด้วย คือ กกต. กรรมการการเลือกตั้งก็ต้องเหนื่อย และช่วยเข้มงวดกวดขัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคเล็ก เป็นธรรมกับผู้สมัครทุกคน พอมีความเป็นธรรมก็เกิดแฟร์เพลย์ คนดูก็อยากดู คนก็อยากไปเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งเกิดขึ้น ทุกคนก็ยอมรับมัน ก็ทำให้บรรยากาศหลังเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรัก ทุกคนจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้น ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเมืองที่บริสุทธิ์ ก็ต้องฝาก กกต. เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ช่วยดูให้เกิดความเป็นธรรม และทุกคนรู้สึกว่าแฟร์เพลย์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย