“ธนาธร’ ลุยชัยภูมิ ช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง เปิดเวทีปราศรัย อ.บ้านแท่น

ชัยภูมิ 11 มี.ค. – “ธนาธร’ ลุยชัยภูมิ ช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงผู้สมัคร ส.ส. 6 เขต เปิดเวทีปราศรัยที่ อ.บ้านแท่น ชี้วงจรชีวิตคนอีสานต้องปากกัดตีนถีบทั้งที่ทำงานหนักเพื่อคนทั้งประเทศ จะยุติวงจรนี้ ต้องทุบโครงสร้างทุนผูกขาด ย้ำเลือกแบบเดิมได้แบบเดิม อยากเปลี่ยนต้องก้าวไกล 2 ใบเท่านั้น


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยแนะนำนโยบายของพรรคก้าวไกล และแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 6 คน ในเขตรอบนอกอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ ที่มณฑปพระแท่นบัลลังก์ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ทำให้เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 800 ที่นั่ง ไม่เพียงพอ ต้องเสริมเพิ่มกว่าเท่าตัว จนประชาชนล้นหลามไปทั้งลานมณฑปพระแท่นบัลลังก์และพื้นที่โดยรอบ

หลังจากการปราศรัยโดยผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 เขตแล้ว ธนาธร ได้ขึ้นปราศรัยปิดเวทีเป็นคนสุดท้าย เริ่มต้นด้วยการพูดถึงวงจรชีวิตของคนอีสานจากที่ตัวเองได้สัมผัส โดยระบุว่าชีวิตของคนอีสานจำนวนมากยังต้องวนเวียนอยู่ในความยากลำบาก ทุกพื้นที่ที่ไปมา ตนได้พบเจอกับเด็กน้อยจำนวนมากที่แทบไม่มีโอกาสได้อยู่พร้อมหน้ากับพ่อแม่ ที่ต้องเข้าไปหางานทำในเมือง ฝากลูกหลานให้อยู่กับปู่ย่าตายาย มาถึงวัยเรียนก็ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนรอบบ้านที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอนและบุคลากร อยากเข้าโรงเรียนดีๆ ก็ต้องเสียเงินเรียนพิเศษ หรือใครพอมีเงินก็ต้องส่งลูกหลานไปเรียนในเมืองหรือในกรุงเทพฯ บ้างก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน กยศ. มาเรียน จบออกมาก็เป็นหนี้


ตั้งแต่เกิดจนเรียนหนังสือจบ ชีวิตคนอีสานจำนวนไม่น้อยต้องติดลบไปแล้ว 2 กว่าบาท เรียนจบกลับมาบ้านจะหางานทำที่มีคุณภาพก็ไม่มี มีแต่งานรับจ้างรายวันแบบมีบ้างไม่มีบ้าง จะรับราชการก็อาจเจอระบบเส้นสายที่ถ้าไม่รับใช้นายก็ไม่ก้าวหน้าในอาชีพการงาน ยาเสพติดเต็มตำบล แบบที่ทุกคนในตำบลรู้หมดว่าบ้านไหนขาย ยกเว้นตำรวจที่หลายคนเอาเวลาส่วนใหญ่ไปรับใช้นายเพื่อหวังเติบโต ทำอาชีพเกษตรก็ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง กลุ่มทุนผูกขาดก็ขึ้นราคาปุ๋ยทุกปี เป็นหนี้เป็นสินกันถ้วนหน้า

เมื่อโอกาสและอนาคตที่บ้านไม่มี ก็ต้องไปหางานรับค่าแรงขั้นต่ำทำในเมือง ตามบริษัทห้างร้านโรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก โอกาสน้อยมากที่แก่เฒ่ากลับบ้านมาร่ำรวย โอกาสที่จะมีบ้าน มีที่ดิน มีรถ มีครอบครัวที่อบอุ่น กลายเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินในประเทศนี้ พอแก่ตัวลงมา การเข้าถึงบริการสาธารณะก็ยาก เข้าคิวทั้งวันเพื่อให้ได้เจอหมอแค่ 15 นาที โรงพยาบาลที่ทันสมัยก็หาได้ยาก คนส่วนใหญ่ของประเทศยังเข้าไม่ถึงน้ำประปาที่ใสสะอาดมีใช้ทั้งปี บริการขนส่งสาธารณะก็ไม่มี

ธนาธรกล่าวต่อไปว่านี่คือวงจรชีวิตคนอีสานและคนชนบทในแทบทุกจังหวัดของประเทศไทย ที่ตั้งแต่เกิดจนแก่เฒ่าก็ยังต้องยากลำบาก หลายคนบอกว่าเป็นเพราะคนเหล่านี้ทำบุญมาไม่พอหรือขี้เกียจ ตัวเองขอยืนยันว่าไม่ใช่ คนอีสานไม่ใช่คนขี้เกียจ มือของคนอีสานคือมือที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ปลูกข้าวเลี้ยงคนทั้งประเทศ สร้างบ้านสร้างเมืองให้คนทั้งประเทศ ที่พวกเขาต้องยากจนไม่ใช่เพราะทำบุญมาไม่พอ แต่เพราะโครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรมต่างหาก


ที่ผ่านมาคนไทยจ่ายภาษีมากมายในชีวิต แต่ไม่เคยเห็นดอกผลจากการจ่ายภาษีเลย ยิ่งใช้ชีวิตไปยิ่งมองไม่เห็นอนาคต ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดวงจรชีวิตแบบนี้ จะเปลี่ยนแปลงได้ต้องสู้กับโครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรม ต้องเก็บภาษีคนรวยมากกว่านี้ ยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีที่อนุญาตให้บริษัทพันล้านหมื่นล้านทำธุรกิจบางประเภทได้แบบไม่ต้องเสียภาษี ลูกหลานเราเปิดร้านกาแฟยังต้องเสียภาษี แต่คนรวยไม่ต้องเสียภาษีเลยได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไรที่ดินรกร้างว่างเปล่าในมือนายทุนไม่กี่คนที่กว้านซื้อไว้แทบจะไม่ต้องเสียภาษี พอจะเก็บก็เอาไปปลูกกล้วยเลี่ยงภาษี

ธนาธรกล่าวต่อไป ว่าเราต้องเก็บภาษีคนที่ที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากกว่านี้เพื่อให้สังคมเป็นธรรม ที่ผ่านมาดอกผลการพัฒนาตกไปอยู่ในมือของคนร่ำรวยมากเกินไปแล้ว ตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจากนโยบายของพรรคก้าวไกล นี่คือพรรคที่จะยืนอยู่ข้างคนยากจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ จัดการกับทุนผูกขาด ไม่ว่าจะกลุ่มทุนพลังงานที่ร่ำรวยเป็นแสนล้าน ภายในไม่กี่ปีจากนโยบายที่เอื้อกลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนสุราที่ผูกขาดตลาด 4 แสนล้านบาทต่อปีเพียงไม่กี่เจ้า จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนต้องเข้าไปจัดการกับกลุ่มทุนพวกนี้ เปิดโอกาสให้ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยมีโอกาสค้าขาย

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกล ไม่เคยสัญญาว่าจะเอาโครงการอะไรมาให้ จะสร้างบ่อน้ำที่ไหน แต่พรรคก้าวไกลเสนอเรื่องปลดล็อกท้องถิ่น ปฏิรูประบบราชการ เอางบประมาณและอำนาจกลับมาอยู่ที่ตำบลและจังหวัดของทุกคน จะบริหารอย่างไรให้คนท้องถิ่นจัดการกันเอง ไม่ใช่กำหนดโครงการมาจากส่วนกลางแล้วจัดอบรมทั่วประเทศแบบที่ไม่ตอบโจทย์พื้นที่ เพราะประชาชนไม่ได้ต้องการความเมตตา แต่ต้องการความเป็นธรรม ไม่ต้องการระบบที่ต้องเขียนโครงการขึ้นไปขอแล้วรอความเมตตามอบลงมาให้

ธนาธรยังระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างที่เห็นกันว่าพรรคก้าวไกลยืนยันเสมอถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกองทัพ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ป้องกันไม่ให้ใครมาทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหารอีก โดยก้าวแรกคือการยกเลิกเกณฑ์ทหาร พรากอนาคตของคนหนุ่มในวัยที่มีพลังชีวิตที่สุดให้ต้องไปรับใช้บ้านนายพล

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลนำทุกเรื่องเหล่านี้เข้าสู่สภา ทั้งด้วยการอภิปรายให้รัฐเปลี่ยนนโยบายเลิกเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน เสนอร่างสุราก้าวหน้า เสนอร่างปลดล็อกท้องถิ่น และเรื่องอื่นๆ อีกมาก และแม้จะไม่สำเร็จด้วยความเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคก้าวไกลที่เป็นแค่ฝ่ายค้านก็ยังทำได้มากมายขนาดนี้ และตนยังเห็นพรรคก้าวไกลยืนยันจะทำต่อในทุกเรื่อง และจะทำจนกว่าจะสำเร็จ

ธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าจากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล จะเห็นได้ว่านี่คือพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศและประชาชน เป็นปากให้คนไม่มีเสียง เป็นเกราะป้องกันให้คนเปราะบางในสังคม เป็นทัพหน้าที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เป็นตัวแทนผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม จะเห็นได้ว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลตอบแทนความไว้วางใจของประชาชน คือคำสัญญาว่าจะทำงานหนักและไม่ทุจริต และตนมั่นใจว่าถ้าพรรคก้าวไกลได้อำนาจเมื่อไร พรรคก้าวไกลจะเอาอำนาจนั้นมาเพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ได้แน่นอน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]