นายกฯ เตรียมกล่าวปาฐกถาต่อคณะนักธุรกิจจากสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เตรียมกล่าวปาฐกถาต่อคณะนักธุรกิจจากสหรัฐฯ ในวันที่ 13 มี.ค.นี้ ยินดีสหรัฐฯ นำคณะผู้แทนทางการค้าทั้งภาครัฐและเอกชนจัดประชุม Trade Winds ที่กรุงเทพฯ ช่วยเสริมสร้างโอกาสและศักยภาพการค้าไทย-สหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีสหรัฐฯ นำคณะผู้แทนทางการค้าทั้งภาครัฐและเอกชน มาจัดการประชุม Trade Winds ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 13 – 15 มี.ค. 2566 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างโอกาสและศักยภาพการค้าไทย-สหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมกล่าวปาฐกถาต่อคณะนักธุรกิจจากสหรัฐฯ ในวันที่ 13 มีนาคม 2566 ด้วย


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Administration) ของสหรัฐฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในเวทีโลก รวมถึงไทยและสหรัฐฯ ยังมีศักยภาพในการขยายความร่วมมือการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง พลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้า จึงพิจารณาจัดการประชุม Trade Winds Mission and Business Forum 2023 ซึ่งนางมาริสา ลาโก (Ms. Marisa Lago) ปลัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะนำธุรกิจและองค์กรสหรัฐฯ กว่า 100 แห่ง มาประชุมร่วมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทยและสหรัฐฯ

สำหรับการประชุม Trade Winds ครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยระบุว่า จะเป็นเวทีการค้าที่มีคณะผู้แทนทางการค้านำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เดินทางมาร่วมประชุมคณะที่ใหญ่ที่สุด โดยในการประชุม Trade Winds ที่ผ่านมาทั้ง 12 ครั้ง ประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างข้อตกลงทางการค้ามากมาย คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการประชุม Trade Winds ในปีนี้ จะมีการจัดการประชุมกับนักการทูตด้านพาณิชย์ของสหรัฐฯ จากประเทศต่าง ๆ ในเอเชียกว่า 20 ประเทศ การประชุมจับคู่ระหว่างธุรกิจ และการประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทยและสหรัฐฯ ได้อย่างมาก


“นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่สหรัฐฯ เชื่อมั่นศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง พลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้า โดยที่ผ่านมา รัฐบาลมุ่งที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ สำหรับการประชุม Trade Winds ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสกล่าวปาฐกถาต่อคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ในวันที่ 13 มีนาคม 2566 ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญกับการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ ให้หลากหลายมิติและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ