“กรณ์” ซัดแบงก์ชาติบิดเบือนนโยบาย ปัดยกเลิกเครดิตบูโร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค. – “กรณ์” ซัดเพจแบงก์ชาติ บิดเบือนนโยบายพรรค ยันไม่ได้ยกเลิกเครดิตบูโร ย้ำ “ยกเลิกแบล็กลิสต์-ใช้เครดิตสกอร์” จวกแบงก์ชาติ มีหน้าที่ดูแลลดต้นทุนการเงินประชาชน ไม่ใช่มาสร้างความสับสนให้สังคม


นายกรณ์ จาติกวณิช โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย ปล่อยคลิป กล่าวหานโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยขึ้นพาดหัวในคลิปลงเพจธนาคารแห่งประเทศไทยว่า “มีเรื่องของเครดิตบูโรด้วยว่าอยากให้ลบ” ซึ่งไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงแต่อย่างใด จนทำให้นายกรณ์ ต้องโพสต์ตอบโต้ในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ตนไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริง ว่าข้อเสนอเรื่องเครดิตบูโรของพรรคชาติพัฒนากล้าคืออะไร แค่ประโยคแรกที่พิธีกรพูดว่ามีข้อเสนอเรื่องเครดิตบูโรว่า ‘อยากให้ลบ (เครดิตบูโร)’ และมีภาพขยายประเด็นว่าลบไม่ได้เพราะอะไร ก็ทำให้มีคำถามแล้ว ซึ่งข้อเสนอเรา “ไม่มีการลบข้อมูลใดๆ” ของใคร และ “ไม่มีการยุบหรือลบเครดิตบูโร” แต่เป็นการเสนอให้แก้กฎหมาย เพื่อสามารถนำข้อมูลการใช้ชีวิตทางการเงินของผู้กู้ทั้งหมดมาประมวลรวมเป็นเครดิตสกอร์ (Credit score) แก้ปัญหาการเกิดสภาพ ‘บัญชีดำ’ หรือ แบล็กลิสต์ นั่นเอง

นายกรณ์ กล่าวว่า ระบบปัจจุบันจะระบุเพียงประวัติการผิดนัดชำระหนี้ แล้วบอกว่าคนนี้คือ “คนไม่ดี” (เป็นคำของแบงก์ชาติเอง) แต่เรากำลังพยายามบอกว่า ในขณะที่ลูกหนี้คนนั้นเขาผิดนัดชำระหนี้ตัวหนึ่ง เขาอาจจะยังเป็น “คนดี” ชำระหนี้ครบถ้วนอยู่อีกหลายตัวนะ เช่น ค่านํ้า ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการประกอบอาชีพ ทั้งหมดนี้เรามองว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ควรเอามานับด้วย และคำนวณออกมาเป็นคะแนน หรือ เครดิตสกอร์ เมื่อปรากฏเป็นสกอร์จะไม่มีความเป็นบัญชีดำ และสกอร์จะปรับขึ้นลงได้แบบเรียลไทม์ ต่างกับระบบปัจจุบันที่ต้องรอ 3 ปี ที่สำคัญจะเกิดการแข่งขันที่โปร่งใส ซึ่งแบงก์ชาติเองน่าจะชอบ เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่แต่ละธนาคารจะกำหนด ควรจะขึ้นอยู่กับสกอร์ของผู้กู้แต่ละคน


“ผมว่าจะสร้างสรรค์กว่ามาก หากแบงก์ชาติมาช่วยกันคิด ว่าเราจะปรับปรุงระบบการประเมินความน่าเชื่อถือของประชาชนอย่างไร เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้พี่น้องคนไทยถูกผลักออกจากระบบการเงิน ในมุมของผม แบงก์ชาติไม่ได้มีเพียงหน้าที่ดูแลความเข้มแข็งของสถาบันการเงิน แต่มีหน้าที่ช่วยลดต้นทุนการเงินของประชาชนและภาคธุรกิจด้วย อย่านำเสนอความคิดต่อต้านสิ่งที่ไม่มีใครบอกว่าจะทำครับ เสียเวลาและสร้างความสับสนในสังคม เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นได้อย่างไร เพราะเรื่องจริงเรื่องหนึ่งคือปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชนทั่วไป” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่