นายกฯ ประกาศเพิ่มเงินค่าตอบแทน อบต.

จ.อุดรธานี 2 มี.ค. – นายกฯ ประกาศเพิ่มเงินค่าตอบแทน อบต. การันตีไม่ยุบท้องถิ่น พร้อมประกาศยกระดับเป็นเทศบาล แย้มพิจารณาสวัสดิการอยู่ ยันไม่ได้มาหาเสียง


ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” โดยนายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานช่วงหนึ่งว่า “ เรามาให้กำลังใจนายกฯ สานต่องานให้สำเร็จ ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจ พวกเราพร้อมสนับสนุนให้นายกฯทำงานต่อ”

จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอถือว่าได้มีโอกาสพูดกับประชาชนทั้ง 70 ล้านคน ถือว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในวันนี้ คือความสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ทำอย่างไรจะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ตนมาที่จังหวัดอุดรธานีหลายครั้ง ดีใจชื่นใจทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งวันนี้โครงการขนาดใหญ่ กำลังก่อสร้างอยู่ ทำยากต้องใช้เวลานาน ขอให้อดทน เพราะติดปัญหาเรื่องที่ดินและอีกหลายๆ อย่าง และชึ้นอยู่กับพวกเราจะทำความเข้าใจและความร่วมมือ ทุกอย่างทำได้ มีเงินทำได้ ต้องให้ประชาชนร่วมมือ นั่นคือหลักประชาธิปไตย ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ ซึ่งตนเข้าใจอย่างที่สุด หลายปีที่ผ่านมาไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว


“ผมไม่อยากให้เรียกรากหญ้า เพราะท่านไม่ใช่รากหญ้า แต่คือฐานรากของประเทศนี้ ไม่ได้พูดเอาใจท่าน แต่คิดดูว่าบ้านเมืองของเราหรือประเทศของเรา ทุกคนมีบ้านมีช่อง ซึ่งต้องเริ่มจากฐานราก บ้านท่านมีพื้นมีเสา จนกระทั่งหลังคา ท่านคือผู้ที่จะทำรายได้ให้ประเทศ โดยท้องถิ่นต้องช่วยกันเพื่อแข็งแรงไปด้วยกัน อะไรทำได้ไม่ต้องห่วง ผมทำให้อยู่แล้ว การเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ง่าย และผมไม่ใช่คนเก่งกาจ สามารถคนเดียว ไม่ใช่ ทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่ท้องถิ่นถึงข้างบนต้องทำสำเร็จ วันนี้สำเร็จมาแล้ว ปรบมือให้ตัวเองหน่อย มีคนเปรียบผมเป็นผู้นำในเชิงบริหาร ผมยืนตรงนี้ผมตื่นเต้น วันหน้าขอให้มาเป็นนายกฯแบบผมได้ทุกคน ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดเราต้องดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด อะไรที่ทำได้ผมทำแล้ว ต้องไม่ผิดกฎหมาย ต้องให้ความเป็นธรรมทุกพื้นที่” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำบางครั้งไม่เห็น จึงต้องเปิดตาเปิดใจและดูแลประเทศไปด้วยกัน ต้องมองจังหวัดใกล้เคียงและประเทศอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นคือประเทศไทยของเรา ประเทศไทยสว่างไสวที่สุดถ้ามองจากดาวเทียมข้างบนลงมาเพราะมีไฟฟ้า รัฐบาลพยายามจะทำให้ดีที่สุดถ้า ปิดไฟให้ไว ตอนหัวค่ำนิดนึง อยู่กับแฟนอะไรอย่างนี้ ครอบครัวกระหนุงกระหนิงกับแฟน ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีข่าวบางข่าวตนไม่แน่ใจใครพูดจะยุบท้องถิ่น จะให้เขายุบหรือ จะให้ยุบหรือไม่ ระหว่างนี้ อบต. ได้ตอบว่า ไม่ให้ยุบ นายกฯ จึงกล่าวอีกว่า ใครพูดตนไม่รู้ การจะให้อะไรก็ตามในฐานะที่เป็นรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องดูงบประมาณมีแค่ไหน ไม่ใช่ว่าได้เท่าไหร่จ่ายหมดนั้นไม่ได้ เรารับผิดชอบหนี้ ก่อนหน้านั้นก็มีมาสมควร ไม่ใช่มาเริ่มที่สมัยตน ตนต้องดูมือซ้ายทำอย่างไรเงินจะเพิ่มขึ้น แต่ทางขวาก็ต้องเตรียมความพร้อม นี่คือสิ่งที่ต้องฝากลูกหลานทุกคน  


ทั้งนี้ รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันนี้ตนได้พูดคุยกับคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)  รองนายกอบต. ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิกสภา อบต. และเลขานุการ ขณะนี้รมว.มหาดไทยกำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำขอเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วงนี้แต่มาที่นี่พอดี นอกจากนี้ รัฐบาลจะยกฐานะอบต. เป็นเทศบาล ขณะนี้ รัฐบาลกำลัง รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่นให้อบต. ยกฐานะเป็นเทศบาล ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่น ตามสากล ต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เรื่องสวัสดิการของนายกฯ และรองนายกฯ อบต. ประธาน รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบากกำลังพิจารณาถึงสวัสดิการ เช่น ค่ารักษา พยาบาลค่าเลี้ยงดูบุตร กำลังพิจารณาอยู่ 

“นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่ผมจำเป็นจะต้องเร่งรัด ให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน พัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปแล้ววันหน้าก็ทำต่อๆไป ไม่ใช่จะเสนอแต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มันไม่ได้ พูดมากไป เดี๋ยวมีเรื่องอีก” นายกฯ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]