พล.อ.ประวิตร เล่าเหตุตัดสินใจไปต่อการเมือง

กรุงเทพฯ 1 มี.ค.-“พล.อ.ประวิตร” โพสต์เล่าที่มาของการตัดสินใจไปต่อทางการเมือง ร่ายยาวจากครอบครัวทหาร จนเข้าสู่สนามการเมือง ทำให้รู้จักคนหลายวงการ เสียดายคนมีความสามารถไม่กล้าเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง กลัวการเมืองมุ่งทำลายล้างเพื่อเอาชนะ


เพจเฟซบุ๊ก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เผยแพร่ภาพพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และซ้อนภาพในสมัยเป็นนายทหารสวมชุดลายพราง มีข้อความบนภาพว่า “จิตวิญญาณความจงรักภักดีจากอดีตถึงปัจจุบัน” โดยมีเนื้อหาระบุ ว่า บทที่ 1  จิตวิญญาณในความจงรักภักดี จากอดีตถึงปัจจุบันผมพูดไม่เก่ง แต่ใครที่ใกล้ชิดจะรับรู้ว่าผมรับฟังมากมาตลอด ยิ่งในช่วงหลังซึ่งเป็นผลจากการระดมคนมีความรู้ความสามารถมากมายมาช่วยสร้าง “พรรคพลังประชารัฐ” ให้เป็นสถาบันการเมือง ที่จะเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงให้กับประเทศเรา ผมยิ่งตั้งใจรับฟังทุกคน ทุกฝ่ายที่เข้ามาทำงานร่วมกัน และการรับฟังนั้นเองที่ทำให้มองเห็นว่ามีหนทางเดียวเท่านั้นที่ประเทศเราจะก้าวพ้น “กับดัก”อันเป็นอุปสรรคของการพัฒนาประเทศนำพาประชาชนสู่ชีวิตที่ดีงาม

พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ผมขอเริ่มด้วยการเล่าให้ฟังว่า ผมเกิดในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นนายทหารระดับสูง เติบโตมาในสังคมคนในกองทัพ วัยเด็กผมเรียนและจบจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร สำเร็จการศึกษาโรงเรียนนายร้อย จปร. เข้ารับราชการทหารและเติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 1 โดยเฉพาะในสังกัดกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) หรือคนส่วนใหญ่รู้จักในนาม “ทหารเสือราชินี” ลองคิดดูว่าคน ๆ หนึ่งที่ถูกหล่อหลอมและปลูกฝังมาด้วยสังคมแวดล้อม ระบบการศึกษา และหน้าที่การงานแบบผมนี้ จะมี “จิตวิญญาณ” แบบไหน


“ความจงรักภักดีที่มีต่อ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เป็นสภาวะที่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของผม จนเป็นกระแสจิตที่ส่งให้ทุกคนสัมผัสถึงและรับรู้ได้โดยไม่ต้องเอ่ยอ้าง ชีวิตผมดำเนินอยู่ด้วยจิตวิญญาณนี้ตลอดมาและแน่นอนว่าจะตลอดไป และเพราะผมถูกหล่อหลอมชีวิตขึ้นมาด้วยความเป็น “ทหารอาชีพ” จาก “ทหารชั้นผู้น้อย” ค่อย ๆ เติบโตมาจนเป็น “ผู้บัญชาการกองทัพ” ผมจะเล่าถึงการเฝ้ามอง รับรู้ และครุ่นคิดถึงความเป็นไปของประเทศชาติ โดยเฉพาะในมุมของการเมือง เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา นิสัยอย่างหนึ่งของผมคือชอบอยู่ท่ามกลางญาติมิตร เพื่อนพ้องน้องพี่ ใครที่รู้จัก หรือใกล้ชิดกับผมจะรู้ว่า บ้านผมเป็นแหล่งรวมการใช้ชีวิตร่วมกันของพี่ ของน้อง ของเพื่อนฝูงมาตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสือตลอดมาจนกระทั่งทำงานรับใช้ราชการ ตั้งแต่เป็น “นายทหารชั้นผู้น้อย”จนเป็น “ผู้บัญชาการกองทัพ”ก็เป็นเช่นนั้นเสมอมา เป็นที่พบปะ หารือ ช่วยเหลือเกื้อกูล มีอะไรก็แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้ ปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดกัน” พล.อ.ประวิตร ระบุ

พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยิ่งเติบโตในตำแหน่งหน้าที่เครือข่าย แวดวงก็ขยายกว้างขึ้น ยิ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับความเป็นไปของประเทศยิ่งพบปะ สังสรรค์ เกี่ยวข้องกับผู้คนมากขึ้น ชีวิตที่ดำเนินไปเช่นนี้ของผม ทำให้ได้รับรู้ว่าประเทศไทยของเรานั้นมีผู้ที่มีคุณค่าอยู่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างชีวิต ทั้งผู้มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ผู้ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ ทั้งที่เป็นข้าราชการ และภาคเอกชนจากบริษัทห้างร้านต่าง ๆ การใช้ชีวิตร่วมกัน เรียนรู้กันและกัน ทำให้ผมรับรู้ว่าผู้มีความรู้ ความสามารถเหล่านี้ มีไม่น้อยเลยที่มีเจตนาดี และมีจิตใจที่พร้อมจะเสียสละมาทำงานเพื่อประเทศชาติ

“หากรัฐสภาและรัฐบาลได้คนมีความรู้ความสามารถเหล่านี้เข้ามาร่วมงาน จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำพาประเทศพัฒนาสู่ความเจริญรุ่งเรือง แต่ที่เกิดขึ้นกับความเป็นไปของประเทศคือโอกาสที่คนเหล่านี้จะได้เข้ามาร่วมทำงานให้กับประเทศนั้นมีน้อยมาก หรือแทบไม่มีหนทางเลย ระบอบประชาธิปไตยของประเทศเรา กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ปิดกั้นพวกเขา การแข่งขันทางการเมืองที่มุ่งเอาชนะคะคานสูงยิ่ง ทำให้ทุกคนที่คิดจะเข้ามาเสี่ยงกับการเป็นเป้าถูกโจมตี ทำลายล้าง ความคิดที่จะเสียสละมาทำงานเพื่อชาติกลายเป็นเปิดทางให้ตัวเองถูกทำลาย คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วเหล่านี้ ทำใจยอมรับความเสี่ยงจากการร่วมทำงานการเมืองกับนักการเมืองในวัฒนธรรมมุ่งทำลายเช่นนี้ไม่ได้” พล.อ.ประวิตร ระบุ


พล.อ.ประวิตร ระบุว่า แม้จะมีบางคนที่กล้าพอจะเข้ามา ทว่าวัฒนธรรมการเลือกตั้งของบ้านเรา ไม่เอื้อให้คนมีความสามารถเหล่านี้ได้รับชัยชนะ เนื่องจากไม่มีความสามารถในการหาคะแนนเท่ากับ “ผู้มีอาชีพนักการเมือง”ที่มีความเชี่ยวชาญในการหาวิธีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมากกว่า คนมีความรู้ ความสามารถ และมีเจตนาดีต่อการพัฒนาประเทศเหล่านี้ แทบไม่เหลือโอกาสที่จะเข้ามาทำงานให้ประเทศในระบบที่อำนาจต้องผ่านการเลือกตั้ง ตามที่ฝ่าย “ประชาธิปไตยเสรีนิยมมุ่งมั่น กำหนด จึงมีคนกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่าย “อนุรักษ์นิยม”ที่มองไม่เห็นหนทางอื่นที่จะนำผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงานให้กับประเทศชาติ นอกจากการทำ “รัฐประหาร” ยึดอำนาจและเปิดโอกาสให้คนมีความรู้ ความสามารถ ด้วยการแต่งตั้งคนเหล่านี้เข้ามา

“การเรียกร้องให้ “กองทัพ”เป็นผู้นำทำรัฐประหาร และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารจัดการประเทศจึงเกิดขึ้นเสมอ และต้องยอมรับว่าการรัฐประหารหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เป็นทางออกที่ประชาชนจำนวนไม่น้อย เห็นว่าส่งผลดีต่อประเทศ อย่างยุคสมัยของสมัย “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” นี่เป็นประสบการณ์และมุมมองที่ทำให้ผมเข้าใจ เห็นใจ และพร้อมจะยืนอยู่ข้างความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ของคนกลุ่มที่มีอิทธิพลและส่วนได้ส่วนเสียสูงกับความเป็นไปของประเทศ ของผู้มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสแสดงบทบาท เพราะผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนได้ยากลำบาก จนเป็นที่น่าเสียดายเหล่านี้ แต่ก็นั่นแหละ นั่นเป็นประสบการณ์ช่วงรับราชการทหาร” พล.อ.ประวิตร ระบุ

พล.อ.ประวิตร ระบุว่า แต่หลังจากเข้ามาทำงานการเมืองในฐานะรัฐมนตรี และจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ และเห็นความเป็นจริงครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ได้รับชัยชนะ  นักการเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาเป็นคนอีกพวกหนึ่ง ตลอดเกือบ 10 ปีของการทำงานในฐานะนักการเมือง จากร่วมรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนถึงมาร่วมสร้าง และเป็น “หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” “แม้ “จิตวิญญาณ” ผมยังมั่นคงกับ “สำนึกอนุรักษ์นิยม” แต่ความเข้าใจต่อความจำเป็นที่ประเทศต้องเดินหน้าไปด้วย “ประชาธิปไตยเสรีนิยม” ได้เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังในตอนต่อ ๆ ไปถึงความเข้าใจต่อความจำเป็นดังกล่าว และบอกเล่าถึงความเชื่อมั่นของผมว่าจะประสาน “จิตวิญญาณอนุรักษ์นิยม”อันหนักแน่นของผม ให้เดินหน้าอย่างเข้าใจความจำเป็นของประเทศที่ต้องขับเคลื่อนด้วย “ประชาธิปไตย”ได้อย่างไร จะบอกต่อไป ให้ทุกคนมั่นใจว่า “ผมทำได้ และจะทำอย่างเต็มที่ หากได้รับโอกาส…พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี / หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจ ฮ.ตก

25 พ.ค. – พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจครอบครัว ความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ 3 นายตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ค.) ขณะเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจาก […]

นายกฯ จ่อถกนอกรอบเมียนมา แก้น้ำท่วมเชียงราย

บน.6 25 พ.ค. – นายกฯ เตรียมถกนอกรอบเมียนมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย บอกสถานการณ์คลี่คลายเร็ว เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว มีการจัดตั้งโรงครัวดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว การที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน […]