เปิดนโยบายปฏิรูปกกต.-องค์กริสระ

พรรคเสรีรวมไทย 1 มี.ค.-“เสรีรวมไทย” เปิดนโยบายปฏิรูป กกต.-องค์กรอิสระ รื้อคุณสมบัติมหาเทพ ป้องกันตอบแทนบุญคุณ ชงยุบกกต.จังหวัดกลับมาใช้กลไกมหาดไทย ให้ตำรวจคุมหน่วยเลือกตั้ง


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมแกนนำพรรค แถลงเปิดนโยบายด้านการเมือง ชุดที่ 1 เกี่ยวกับการ “ปฏิรูป กรรมการการเลือกตั้ง และองค์กรอิสระทุกองค์กร” โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ขณะนี้กฎหมายกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เอื้อให้พรรคการเมืองใหญ่

“เห็นได้จากการจัดเวทีปราศัยที่เอาคนมาเป็นหมื่นเป็นแสน จ้างมากันทั้งนั้น แต่กกต.ทำเป็นไม่รู้เรื่อง เช่นเดียวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่คอยรังแกคนอื่น นายกรัฐมนตรีเข้ามาก้าวก่ายป.ป.ช. จึงเป็นองค์กรอิสระไม่จริง คอยรับใช้รัฐบาลมาตั้งแต่ยุคคสช.แต่งตั้งมา ที่ผ่านมากกต.ทุจริตอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ทำตัวเป็นกลาง เอื้อฝ่ายรัฐ มีเลือกตั้งใหม่ ก็ทำกันอีกแล้ว เช่นการนำคนต่างด้าวมาคิดสัดส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้ง เตรียมการจะโกงอะไรกันนักหนา” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดข้อมูลทุจริตเลือกตั้งปี  2562 โดยระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมโกงทุกแห่ง ทั้งซื้อเสียง ขนคน จ้างคนไปฟัง  มีพยานร้องไปก็ยกคำร้องหมด อ้างว่าหลักฐานไม่พอ แจ้งไปก็ทำเฉย และการเลือกตั้งปัจจุบันเห็นความบกพร่องของกกต.จากการประกาศแนวปฏิบัติ 180 วันที่เปิดให้ฝ่ายรัฐบาลลงพื้นที่พบประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ การห้ามช่วยงานบวช การศพ งานแต่งทั้งที่เป็นประเพณีไทย สิ่งที่กกต.รู้อยู่แก่ใจว่าไม่สุจริต เที่ยงธรรม แต่เป็นเครื่องมือรัฐบาล จำเป็นต้องแก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกกต.ส่วนกลาง และขอเสนอให้ยุบกกต.จังหวัดทั้งหมด เพราะไม่มีประโยชน์ ให้กลับไปใช้กลไกกระทรวงมหาดไทย โดยให้ตำรวจมาคุมหน่วยเลือกตั้ง คอยจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย อดีตกกต. ชี้แจงนโยบายการเมืองปฏิรูปองค์กรอิสระ 4 ข้อ คือ 1.กกต. ต้องมีที่มาเชื่อมโยงประชาชนโดยการเปลี่ยนกระบวนการสรรหามีตัวแทนพรรคการเมืองคือ ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านฝ่ายละ 2  คน   โดยฝ่ายรัฐบาลคือ ประธานสภาฯ แล้วเลือกพรรคฝ่ายรัฐบาลอีก 1 พรรค   ส่วนฝ่ายค้านให้ผู้นำฝ่ายค้านและพรรคการเมืองอีก 1 พรรค เดิมที่ผ่านมาองค์ประกอบในการสรรหาองค์กรอิสระ จะเป็นองค์กรอิสระกันเอง เป็นลักษณะผลัดกันเกาหลัง 2. การกำหนดคุณสมบัติ คนเป็นองค์กรอิสระที่ผ่านมามีลักษณะเหมือนมหาเทพ ที่ต้องมาจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเป็นการปิดโอกาสคนที่จะเข้ามาทำงาน  จึงทำให้ได้ข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งคนเหล่านี้กว่าจะขึ้นระดับสูงก็มีการวิ่งเต้น เมื่อมาดำรงตำแหน่งจึงมีเรื่องบุญคุณต้องตอบแทน

“3.ประชาชนสามารถตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระได้   โดยประชาขนสามารถเข้าชื่อ 1 หมื่นคน ส่งประธานวุฒิสภา และ ส.ส.เข้าชื่อกัน ไม่ใช่ให้ไปร้องกับ ป.ป.ช.เหมือนปัจจุบัน 4. ต้องแก้กฎหมาย กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญ   ซึ่งกระบวนการแก้ไขกฎหมายต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ตั้งแต่การเลือกตั้งและเมื่อแก้กฎหมายเสร็จ ผู้ดำรงตำแหน่งเดิมต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยสรรหาคนใหม่ทันที” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]