“เสธ.หิ” เดือด ถูกกล่าวหาชักใย “ชูวิทย์”

พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 มี.ค.-“เสธ.หิ” เลือดขึ้นหน้า หลังถูกจี้ถามอยู่เบื้องหลัง “ชูวิทย์” เล่นงานภูมิใจไทย ชี้จินตนาการไร้สาระ ยอมรับรู้จักจริง แต่สั่งไม่ได้ ย้ำ ภท.-รทสช.พันธมิตรกัน เผยยกหูหา “อนุทิน” แต่ไม่รับสาย อยากบอก “ผมคิดเรื่องเลว ๆ ไม่เป็น


นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงกรณีถูก ตั้งข้อสังเกตอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ที่โจมตีพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปอยู่เบื้องหลังได้อย่างไร ตนไม่รู้ว่าใครไปพูดให้รู้สึกแบบนั้น

“นายชูวิทย์ โพสต์โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาหลายเดือน วิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหาย แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ตอบโต้ และวันที่เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายชูวิทย์ก็มาไลฟ์สดต่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ด้านหน้าเป็นชั่วโมง ถามว่าถ้าผมรู้เห็นเป็นใจ จะให้คนมายืนด่าเจ้านาย 3-4 ชั่วโมงหรือ ถ้าผมสั่งได้ นายชูวิทย์ก็ต้องหยุดพูด แต่มันเป็นไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย” นายหิมาลัย กล่าว


นายหิมาลัย ยอมรับว่ารู้จักนายชูวิทย์มาก่อน เมื่อทราบว่ามาขอพบ จึงไปแจ้งพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่พอใจ โกรธนิด ๆ แต่สุดท้ายก็ให้พบ จะได้พูดคุยทำความเข้าใจ เพราะถือว่านายชูวิทย์ก็เป็นสื่อคนหนึ่งที่มีคนติดตามจำนวนมาก

“พอมาเจอนายกฯ ตามสไตล์นายชูวิทย์ก็พูดหมด ใส่หมด ต่อว่านายกฯ ตรง ๆ แม้แต่เรื่องญาติหรือคนใกล้ตัว ซึ่งนายกฯ ก็ใจเย็นและชี้แจง ว่าจะให้เราไปย้ายคนทุกคนตามที่นายชูวิทย์เรียกร้อง ท่านบอกเราเป็นนายกฯ มีขั้นตอนตามราชการ ต้องสอบสวน ใครผิดก็ค่อยลงโทษตามกระบวนการ และถ้านายชูวิทย์มีหลักฐานก็ส่งมา ส่วนเรื่องญาติของนายกฯ ให้ส่งเรื่องไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าไม่ปกป้องใคร  นายชูวิทย์จึงบอกนายกฯ ว่าจากนี้มีอะไรให้มาหาได้หรือไม่ นายกฯ จึงตอบว่าให้มาหาได้เลย” นายหิมาลัย กล่าว

นายหิมาลัย กล่าวด้วยว่า สมัยที่ตนและนายชูวิทย์ติดคุกด้วยกัน นายชูวิทย์เดินรอบคุก อะไรที่ไม่ถูกต้องบอกผู้คุมหมด สิทธิพิเศษก็ไม่เอา ซึ่งผู้คุมก็กลัวนายชูวิทย์ร้องเรียนมาก แล้วจะมาบอกว่าตนไปรับเรื่องนายชูวิทย์ทุกครั้งที่ไหน ครั้งแรกที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครั้งที่ 2 ที่ทำเนียบรัฐบาล


ส่วนที่นายชูวิทย์ร้องเรียนประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย  นายหิมาลัย กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวว่านายชูวิทย์จะมาที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงให้ตนไปดูว่าจะมายื่นเรื่องอะไร ตนจึงทำการบ้าน ด้วยการดูเฟซบุ๊กของนายชูวิทย์ว่าโพสต์เกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งขณะนั้นมีเรื่องทุนจีนสีเทา เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ที่ดิน สปก.-อุทยานแห่งชาติ และกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ เพื่อเตรียมคำตอบ แต่ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันทั้งนั้น ขอความเป็นธรรมให้บ้าง ผมไปรับนายชูวิทย์แค่ 2 ครั้ง ใครจะใส่ความอย่างไรไม่รู้ นายพีระพันธุ์ ไม่ได้รับจ๊อบนายชูวิทย์ เพราะถ้าว่าง นายพีระพันธุ์ จะมารับเรื่องร้องเรียนด้วยตนเองอยู่แล้ว” นายหิมาลัย กล่าว

เมื่อถามย้ำถึงข้อสังเกตการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์เป็นการเปิดทางเพื่อสมประโยชน์ร่วมกัน นายหิมาลัย ย้อนถามกลับว่า เปิดทางอย่างไร เพราะนายชูวิทย์ตั้งใจมาถล่มเรา เราก็แค่เตรียมคำตอบและตนก็ไม่เคยเถียงกับนายชูวิทย์ เพราะรู้นิสัยดี ถ้ายิ่งเถียงเรื่องก็ไม่จบจึงได้แค่รับฟัง เพราะเขาเป็นพี่  และเมื่อนายชูวิทย์พูดถึงประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มนายพีระพันธุ์ตอบไปว่าตนไม่มีข้อมูล ขอเวลาศึกษาก่อนและนายชูวิทย์ก็ไม่ได้ให้เอกสารอะไรไว้ 

“ผมเพิ่งมาทำงาน ผมไม่มาหาศัตรูหรอก โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าและนายเนวิน ชิดชอบ ผมก็ให้ความรักและความเคารพมาโดยตลอด ไม่เหิมเกริมคิดชั่วแบบนี้หรอกครับ ทำไม่เป็น และท่านพีระพันธ์ที่ทำงานร่วมกันมา ถ้าไม่พอใจท่านก็แสดงออกเลย ไม่มีมาแทงลับหลัง พี่ชูวิทย์ก็เช่นกัน ถ้าโมโหก็แสดงออกทันที เขาไม่คิดซ่อนเงื่อนเบื้องหลัง” นายหิมาลัย กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีพูดอะไรบ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีมาก ๆ ตั้งใจทำงาน ลูกน้องหลายคนที่ทำผิดพลาดไม่เคยตำหนิให้เสียน้ำใจ แต่แบกรับไว้เอง นี่คือผู้บังคับบัญชาที่สุดยอด และผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตนก็ให้ใจ 100% เอาตัวเข้าแลก ส่วนใครที่ไปพูดกับพรรคภูมิใจไทยใส่ความตนว่าอยู่เบื้องหลัง เป็นจินตนาการที่ไร้สาระ

“ความคิดชั่ว ๆ แบบนี้ตนทำไม่เป็น และไม่มีความจำเป็นต้องทำด้วย พรรคภูมิใจไทยอยู่ในฐานะพันธมิตรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่คู่แข่ง เป็นพรรคใหญ่ที่ค้ำจุนความมั่นคงของรัฐบาล ผมมีสติปัญญาพอ ทำไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ขอฝากให้คิด” นายหิมาลัย กล่าว

ส่วนกรณีดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า ตนพยายามโทรหานายอนุทินแล้ว แต่ไม่รับสาย จึงไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ตนเป็นเด็กไม่สามารถทะเลาะกับใครได้ แม้กระทั่งกับนายชูวิทย์ เพราะสิ่งที่เขาทำก็เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพียงแต่เราต้องอดทนเพื่อจะชี้แจง

เมื่อถามย้ำว่าหากตอนนี้พูดอะไรกับนายอนุทินได้จะพูดว่าอย่างไร นายหิมาลัย นิ่งไปสักครู่ แล้วพูดว่า “ก็ต้องบอกท่านรองนายกฯ นะครับว่า ไอ้ผมคิดเรื่องเลวเลวไม่เป็นหรอกนะครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์นายหิมาลัยมีอารมณ์ขึ้นเป็นระยะจนมีสีหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]