“เสธ.หิ” เดือด ถูกกล่าวหาชักใย “ชูวิทย์”

พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 มี.ค.-“เสธ.หิ” เลือดขึ้นหน้า หลังถูกจี้ถามอยู่เบื้องหลัง “ชูวิทย์” เล่นงานภูมิใจไทย ชี้จินตนาการไร้สาระ ยอมรับรู้จักจริง แต่สั่งไม่ได้ ย้ำ ภท.-รทสช.พันธมิตรกัน เผยยกหูหา “อนุทิน” แต่ไม่รับสาย อยากบอก “ผมคิดเรื่องเลว ๆ ไม่เป็น


นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงกรณีถูก ตั้งข้อสังเกตอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ที่โจมตีพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปอยู่เบื้องหลังได้อย่างไร ตนไม่รู้ว่าใครไปพูดให้รู้สึกแบบนั้น

“นายชูวิทย์ โพสต์โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาหลายเดือน วิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหาย แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ตอบโต้ และวันที่เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายชูวิทย์ก็มาไลฟ์สดต่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ด้านหน้าเป็นชั่วโมง ถามว่าถ้าผมรู้เห็นเป็นใจ จะให้คนมายืนด่าเจ้านาย 3-4 ชั่วโมงหรือ ถ้าผมสั่งได้ นายชูวิทย์ก็ต้องหยุดพูด แต่มันเป็นไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย” นายหิมาลัย กล่าว


นายหิมาลัย ยอมรับว่ารู้จักนายชูวิทย์มาก่อน เมื่อทราบว่ามาขอพบ จึงไปแจ้งพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่พอใจ โกรธนิด ๆ แต่สุดท้ายก็ให้พบ จะได้พูดคุยทำความเข้าใจ เพราะถือว่านายชูวิทย์ก็เป็นสื่อคนหนึ่งที่มีคนติดตามจำนวนมาก

“พอมาเจอนายกฯ ตามสไตล์นายชูวิทย์ก็พูดหมด ใส่หมด ต่อว่านายกฯ ตรง ๆ แม้แต่เรื่องญาติหรือคนใกล้ตัว ซึ่งนายกฯ ก็ใจเย็นและชี้แจง ว่าจะให้เราไปย้ายคนทุกคนตามที่นายชูวิทย์เรียกร้อง ท่านบอกเราเป็นนายกฯ มีขั้นตอนตามราชการ ต้องสอบสวน ใครผิดก็ค่อยลงโทษตามกระบวนการ และถ้านายชูวิทย์มีหลักฐานก็ส่งมา ส่วนเรื่องญาติของนายกฯ ให้ส่งเรื่องไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าไม่ปกป้องใคร  นายชูวิทย์จึงบอกนายกฯ ว่าจากนี้มีอะไรให้มาหาได้หรือไม่ นายกฯ จึงตอบว่าให้มาหาได้เลย” นายหิมาลัย กล่าว

นายหิมาลัย กล่าวด้วยว่า สมัยที่ตนและนายชูวิทย์ติดคุกด้วยกัน นายชูวิทย์เดินรอบคุก อะไรที่ไม่ถูกต้องบอกผู้คุมหมด สิทธิพิเศษก็ไม่เอา ซึ่งผู้คุมก็กลัวนายชูวิทย์ร้องเรียนมาก แล้วจะมาบอกว่าตนไปรับเรื่องนายชูวิทย์ทุกครั้งที่ไหน ครั้งแรกที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครั้งที่ 2 ที่ทำเนียบรัฐบาล


ส่วนที่นายชูวิทย์ร้องเรียนประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย  นายหิมาลัย กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวว่านายชูวิทย์จะมาที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงให้ตนไปดูว่าจะมายื่นเรื่องอะไร ตนจึงทำการบ้าน ด้วยการดูเฟซบุ๊กของนายชูวิทย์ว่าโพสต์เกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งขณะนั้นมีเรื่องทุนจีนสีเทา เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ที่ดิน สปก.-อุทยานแห่งชาติ และกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ เพื่อเตรียมคำตอบ แต่ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“ไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันทั้งนั้น ขอความเป็นธรรมให้บ้าง ผมไปรับนายชูวิทย์แค่ 2 ครั้ง ใครจะใส่ความอย่างไรไม่รู้ นายพีระพันธุ์ ไม่ได้รับจ๊อบนายชูวิทย์ เพราะถ้าว่าง นายพีระพันธุ์ จะมารับเรื่องร้องเรียนด้วยตนเองอยู่แล้ว” นายหิมาลัย กล่าว

เมื่อถามย้ำถึงข้อสังเกตการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์เป็นการเปิดทางเพื่อสมประโยชน์ร่วมกัน นายหิมาลัย ย้อนถามกลับว่า เปิดทางอย่างไร เพราะนายชูวิทย์ตั้งใจมาถล่มเรา เราก็แค่เตรียมคำตอบและตนก็ไม่เคยเถียงกับนายชูวิทย์ เพราะรู้นิสัยดี ถ้ายิ่งเถียงเรื่องก็ไม่จบจึงได้แค่รับฟัง เพราะเขาเป็นพี่  และเมื่อนายชูวิทย์พูดถึงประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้มนายพีระพันธุ์ตอบไปว่าตนไม่มีข้อมูล ขอเวลาศึกษาก่อนและนายชูวิทย์ก็ไม่ได้ให้เอกสารอะไรไว้ 

“ผมเพิ่งมาทำงาน ผมไม่มาหาศัตรูหรอก โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าและนายเนวิน ชิดชอบ ผมก็ให้ความรักและความเคารพมาโดยตลอด ไม่เหิมเกริมคิดชั่วแบบนี้หรอกครับ ทำไม่เป็น และท่านพีระพันธ์ที่ทำงานร่วมกันมา ถ้าไม่พอใจท่านก็แสดงออกเลย ไม่มีมาแทงลับหลัง พี่ชูวิทย์ก็เช่นกัน ถ้าโมโหก็แสดงออกทันที เขาไม่คิดซ่อนเงื่อนเบื้องหลัง” นายหิมาลัย กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีพูดอะไรบ้างหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีมาก ๆ ตั้งใจทำงาน ลูกน้องหลายคนที่ทำผิดพลาดไม่เคยตำหนิให้เสียน้ำใจ แต่แบกรับไว้เอง นี่คือผู้บังคับบัญชาที่สุดยอด และผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างตนก็ให้ใจ 100% เอาตัวเข้าแลก ส่วนใครที่ไปพูดกับพรรคภูมิใจไทยใส่ความตนว่าอยู่เบื้องหลัง เป็นจินตนาการที่ไร้สาระ

“ความคิดชั่ว ๆ แบบนี้ตนทำไม่เป็น และไม่มีความจำเป็นต้องทำด้วย พรรคภูมิใจไทยอยู่ในฐานะพันธมิตรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่คู่แข่ง เป็นพรรคใหญ่ที่ค้ำจุนความมั่นคงของรัฐบาล ผมมีสติปัญญาพอ ทำไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ขอฝากให้คิด” นายหิมาลัย กล่าว

ส่วนกรณีดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายหิมาลัย กล่าวว่า ตนพยายามโทรหานายอนุทินแล้ว แต่ไม่รับสาย จึงไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ตนเป็นเด็กไม่สามารถทะเลาะกับใครได้ แม้กระทั่งกับนายชูวิทย์ เพราะสิ่งที่เขาทำก็เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพียงแต่เราต้องอดทนเพื่อจะชี้แจง

เมื่อถามย้ำว่าหากตอนนี้พูดอะไรกับนายอนุทินได้จะพูดว่าอย่างไร นายหิมาลัย นิ่งไปสักครู่ แล้วพูดว่า “ก็ต้องบอกท่านรองนายกฯ นะครับว่า ไอ้ผมคิดเรื่องเลวเลวไม่เป็นหรอกนะครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์นายหิมาลัยมีอารมณ์ขึ้นเป็นระยะจนมีสีหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง