จ.อุบลราชธานี 27 ก.พ.-มท.1 Kick off เปิดสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ส่วนภูมิภาคนำร่องที่อุบลราชธานี ชื่นชมการพัฒนางานด้าน Digital Transformation
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ จดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สาขา และส่วนแยก โดยได้รับเมตตาจาก พระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ร่วมงาน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้รับบริการ ร่วมในพิธี
จากนั้นตรวจเยี่ยมการให้บริการสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ จดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สาขา และส่วนแยก พร้อมมอบเอกสารสิทธิที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ต่างสำนักงาน ให้กับประชาชนผู้รับบริการประเภทต่าง ๆ รวม 5 ประเภทงานบริการ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมกรมที่ดินที่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการพี่น้องประชาชนในเรื่องการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ โดยได้มีจุดเริ่มต้นนำระบบการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครทั้ง 17 สาขา โดยในครั้งนี้ เป็นการเปิดให้บริการที่จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งถือเป็นการเปิดให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นจังหวัดแรกในภูมิภาค ครอบคลุม 10 สาขาส่วนแยก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติในเรื่องของการพัฒนาระบบราชการและการพัฒนาบริการภาครัฐ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการพี่น้องประชาชน ทำให้สามารถยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชนได้ โดยขณะนี้สามารถเชื่อมโยงระบบออนไลน์กับสาขาสำนักงานที่ดินทั้ง 461 สาขาทั่วประเทศได้แล้ว ยังคงเหลือเรื่องการนำสารระบบหลังโฉนดที่ดินเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล
“ในอนาคตหากสำนักงานที่ดินสามารถให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ครบทุกมิติ ก็จะสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวกในทุกด้าน เป็นการลดภาระ ทั้งเรื่องการเดินทาง เรื่องเวลา เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก และเมื่อสามารถบูรณาการเชื่อมโยงระบบเข้ากับ Digital ID ของกรมการปกครองที่กำลังดำเนินการอยู่ เราก็สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเดินทางไปสำนักงาน รวมถึงเรื่องการรังวัดที่ดินด้วย จึงขอให้ได้พัฒนาการให้บริการพี่น้องประชาชน ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ดังที่ชาวดินทุกคน ได้มุ่งมั่นทำมาอย่างต่อเนื่องแล้ว “ผมเชื่อมั่นว่าในบรรดาหน่วยงานของรัฐที่ทำเรื่อง Digital Transformation หน่วยที่สามารถพัฒนาได้สูงสุด คือ กรมที่ดิน” อันจะเห็นได้จากที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าลักษณะงานจะมีความยุ่งยาก แต่เราก็ทำได้ดีมาก ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของชาวดินทุกคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
ด้านอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า กรมที่ดินได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของสำนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการภาครัฐ ให้ทันต่อโลกยุคดิจิทัล การจดทะเบียนต่างสำนักงานแบบออนไลน์ เป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดินของกรมที่ดิน ซึ่งกรมที่ดินได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อพัฒนาระบบการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศมีฐานข้อมูลที่ดินกลางของประเทศ โดยได้นำเข้าข้อมูลหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินและสารบบให้เป็นดิจิทัล มีการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดินเพื่อรองรับการใช้ทคโนโลยีสารสนเทศ จัดทำระเบียบกรมที่ดินว่าด้วย สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ต่างสำนักงานแบบออนไลน์ และสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบ “นับเป็นก้าวที่สำคัญ ที่กรมที่ดินจะก้าวไปสู่ระบบ Digital Transformation ที่สมบูรณ์อย่างเต็มรูปแบบ เป็นการพัฒนาการให้บริการประชาชนที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่กรมที่ดินก็มีความกล้าและมุ่งมั่นที่จะก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกัน และจะทำให้ดีที่สุด โดยใช้แนวคิด ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สร้างความสะดวก สบาย รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย
“ปี 2566 กรมที่ดินจะขยายการให้บริการจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ใด้ทุกพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีทั้ง 10 สำนักงาน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนที่มีที่ดินอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดอุบลราชธานี สามารถขอจดทะเบียนที่ดินต่างสำนักงานแบบออนไลน์ที่สำนักงานที่ดินใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 19 สำนักงาน หรือในจังหวัดอุบลราชธานีรวมสาขาและส่วนแยกทั้ง 10 สำนักงาน ครอบคลุมโฉนดที่ดินในจังหวัดอุบลราชธานีมากกว่า 8 แสนแปลง ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชาวอุบลราชธานี ได้ปีละกว่า 2 แสนราย และยังช่วยลดระยะเวลาในการทำนิติกรรม มากกว่า 50% ทั้งนี้ กรมที่ดิน มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการให้ครอบคลุมจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกรรมด้านที่ดินให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และกรมที่ดิน จะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อคนไทยทุกคน” นายชยาวุธ กล่าว.-สำนักข่าวไทย