พรรคประชาธิปัตย์ 27 ก.พ.- “เอิร์ธ พงศกร” ประกาศลงสมัคร ส.ส.ปชป. ชี้ “อภิสิทธิ์” มีส่วนตัดสินใจ ยันจะไปเชิญมาร่วมเดินหาเสียงด้วยแน่ บอกก่อนหน้ามี 5 พรรคใหญ่จีบร่วมงานแต่เลือก “ประชาธิปัตย์” เพราะเป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แม้อยู่คนละพรรคกับคุณพ่อ “อัศวิน” แต่ยัน ไม่ใช่ศัตรู
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม. ลูกชาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความเข้าใจพื้นที่กทม.และมีความผูกพันธ์กับกทม.อย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นสข. สก. ส.ส. และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ให้โอกาสคนได้พูดทุกเรื่องและรับฟัง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของอย่างแท้จริง สมาชิกสามารถพูดได้ หลายอย่างต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ดังนั้น หากเข้าสนามการเมืองและไม่ได้สังกัดพรรคที่ไม่ได้เป็นพรรคที่เป็นสถาบันอย่างแท้จริง เป็นพรรคเฉพาะกิจ หลายอย่างอาจมีปัญหาในการผลักดัน ตนจึงมั่นใจว่า หากต้องการที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถทำได้
ส่วนที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ร.ต.อ.พงศกร ไม่ได้ตามไปด้วย เพราะเกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัครใช่หรือไม่ ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติมีอุดมการณ์ทางการเมืองอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งตนและคุณพ่อก็มีความคิดทางการเมืองและความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ทั้ง 2 คนอยากจะทำให้ประเทศดีขึ้นอยู่แล้ว แม้เส้นทางที่เลือกไปจะต่างกัน แต่เชื่อว่านักการเมืองทุกคนก็อยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้น พร้อมยอมรับว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะคุณพ่อได้ชักชวนแล้วหลายครั้ง แต่ตนได้อธิบายเหตุผลและเข้าใจกัน ไม่ใช่ศัตรู แต่มันคือการแข่งขันทางการเมืองที่อยากเสนอ และไม่ใช่เข้ามาจะเป็น ส.ส.เลย แต่เป็นตัวเลือกหนึ่งในเขตคลองเตย-วัฒนา ซึ่งต้องขยันให้มาก และเป็นตัวเลือกที่ดีให้ได้ พร้อมเปิดเผยว่า มีพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมาชักชวนให้ร่วมงาน ซึ่งตนไม่ขอพาดพิงแต่เป็น 5 พรรคการเมืองใหญ่
สำหรับความมั่นใจในพื้นที่เขตคลองเตย-วัฒนานั้น ยอมรับว่า เป็นเขตที่มีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เช่น นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ว่าที่ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่อย่างยาวนานและไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง หรือนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นผู้ที่มีศักยภาพสูง รวมถึงผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ซึ่งตนไม่ได้มีความมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่มั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ และเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนคลองเตย-วัฒนา
เมื่อถามว่า การเป็นลูกของพล.ต.อ.อัศวิน จะเป็นข้อได้เปรียบหรือไม่ ร.ต.อ.พงศกร ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง เพราะพ่อของตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และย้ำว่าไม่ใช่ศัตรูกัน เพราะพ่อก็ยังเป็นพ่อ ตนยังรักพ่อเหมือนเดิม และคุณพ่อยังให้คำแนะนำว่า ขอให้ขยันกว่าคนอื่นเพราะเป็นหน้าใหม่ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง เหมือนคนอื่น เพราะคุณพ่ออยากให้ประสบความสำเร็จ แต่คุณพ่อยังต้องช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ
ร.ต.อ.พงศกร ยังเปิดเผยว่า เหตุผลในการตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ตนเคารพมากตั้งแต่เด็ก และได้ปรึกษาพูดคุยกันมาโดยตลอด จึงเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้ และอาจจะต้องรบกวนขอนายอภิสิทธิ์ให้คำแนะนำแต่เรื่องการหาเสียง
เมื่อถามถึงความมั่นใจในกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.พงศกร ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีความได้เปรียบในการเลือกตั้ง เพราะครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ ส.ส.กทม.เลย ดังนั้น อาจจะเสียเปรียบพรรคอื่น แต่การเลือกตั้งผ่านมาแล้วผ่านไป แต่การทำการเมืองต้องทำในสิ่งที่เชื่อ และคิดว่าจะมีประโยชน์มากที่สุดต่อประชาชน พร้อมระบุว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่เป็นคู่แข่ง พล.ต.อ.อัศวิน เมื่อครั้งเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหาอะไร.-สำนักข่าวไทย