“ธนกร”ชูนโยบาย“บัตรสวัสดิการพลัส”ช่วยคนรายได้น้อย 1,000 บาท

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.พ.-“ธนกร” ชูนโยบาย “บัตรสวัสดิการพลัส” ช่วยผู้มีรายได้น้อย 1,000 บาท มั่นใจชนะเลือกตั้ง เดินหน้าลุยขอคะแนนหลังประชาชนขานรับนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติล้นหลาม เชียร์ “ลุงตู่” บริหารประเทศต่อ ยันทุกนโยบายมีที่มางบประมาณชัดเจน


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ขอคะแนนชาวจังหวัดนครราชสีมาให้ลงคะแนนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 16 เขต โดยย้ำถึงนโยบายการสร้างความเท่าเทียม และความเป็นธรรม ดูแลผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ว่า ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ได้เน้นย้ำถึงการเข้ามาดูแลประชาชนในทุกด้านโดยเฉพาะด้านปากท้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติตามแคมเปญ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” โดยเฉพาะนโยบาย “บัตรสวัสดิการพลัส” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “บัตรลุงตู่” เป็นการเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย เป็น 1,000 ต่อเดือน และการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกคน เป็น 1,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ให้แบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ นอกจากนี้ ยังขยายการดูแลให้ครอบคลุมถึงกลุ่มอาชีพอิสระให้ได้รับสวัสดิการสามารถเข้าระบบประกันสังคมถ้วนหน้า

ส่วนปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตร พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีโนบายที่จะจัดตั้งกองทุนพยุงราคาสินค้าเกษตร ราคาข้าว ราคายาง รวมถึงการเพิ่มเงินสนับสนุนต้นทุนปลูกข้าว จากที่เคยได้ไร่ละ 700 บาท เป็นไร่ละ 2,000 บาท ครอบครัวละ 5 ไร่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร


นายธนกร กล่าวต่อว่า หลังจากที่พรรครวมไทยสร้างชาติประกาศนโยบายทั้งหมดออกมาได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะทุกคนต่างคาดหวังว่านโยบายที่พรรครวมไทยสร้างชาติประกาศออกมาจะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะนโยบายบัตรสวัสดิการพลัสที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง ทำให้มั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะชนะการเลือกตั้ง และพลเอกประยุทธ์ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เพื่อให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไป ที่สำคัญทุกนโยบายมีแหล่งที่มาของงบประมาณชัดเจน ไม่เหมือนกับพรรคอื่นๆที่มีนโยบายแจกแหลกแต่ไม่รู้ว่าจะหางบประมาณมาจากไหน ไม่มีนโยบายหาเงินเข้าประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง