มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ไฟเขียว ออกใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่-วัวชน

กรุงเทพฯ 26 ก.พ.- มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ไฟเขียว ออกใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่-วัวชน-แข่งม้า-ปลากัด หลังโควิดคลี่คลาย ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ให้ซักซ้อมแนวทางอนุญาต จะให้มีการเล่นการพนัน ประเภท ให้สัตว์ต่อสู้กัน เช่น การเล่นการพนันชนโค ให้ใช้ดุลยพินิจ สั่งอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ ให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ใช้ดุลยพินิจ อย่างเหมาะสม ไม่เป็นการทรมาร หรือทารุนกรรมสัตว์


ตามที่ กระทรวงมหาดไทย ได้เคยมีหนังสือแจ้งเวียนซักซ้อมในการอนุมัติอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันประเภทให้สัตว์ต่อสู้กันหรือแข่งขัน ตามบัญชี ข. หมายเลข 1 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ซึ่งหนังสือแจ้งเวียนบางฉบับได้เคยออกไว้เป็นเวลานานแล้ว ทำให้ยากต่อการสืบค้นเพื่อนำมาประกอบกับการใช้ดุลพินิจอนุมัติ อนุญาตของผู้มีอำนาจสั่งอนุมัติ และเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต นั้น

กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คลี่คลายอยู่ในระดับที่รัฐสามารถควบคุมได้แล้ว ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่นอันเป็นทางนำมาซึ่งรายได้กับชุมชนและอาชีพที่สุจริต ป้องกันแรงงานพลัดถิ่นจึงแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0307.2/ว 1391 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 เรื่อง การอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันแข่งวัวลาน “ข้อ 1 ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้เล่นได้ตามสภาพแห่งท้องที่หรือประเพณีของท้องถิ่นนั้น” รวมทั้งได้ซักซ้อมแนวทางการอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันประเภทให้สัตว์ต่อสู้กันหรือแข่งขันสัตว์ ดังนี้


  1. การจัดให้มีการเล่นการพนันชนโค เป็นการเล่นให้สัตว์ต่อสู้กันตามบัญชี ข. หมายเลข 1 ในกรุงเทพมหานครให้ออกใบอนุณาตได้เมื่ออธิบดีกรมการปกครองสั่งอนุมัติแล้ว ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครให้ออกใบอนุญาตได้เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งอนุมัติแล้วตามข้อ 4 วรรคสอง ข. (1) ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง สำหรับกรุงเทพมหานคร และนายอำเภอ หรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ สำหรับจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) (2) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 โดยการอนุญาตจัดให้มีสถานที่เล่นการพนันชนโค (เปิดบ่อน) ให้ใช้ดุลพินิจสั่งอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตดำเนินการออกใบอนุญาต โดยต้องใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบและเหมาะสม และไม่เป็นการทรมานสัตว์ หรือทารุณสัตว์ โดยให้นำระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันชนไก่และกัดปลา พ.ศ. 2552 มาบังคับใช้โดยอนุโลม ซึ่งให้อนุญาตในจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุง บ่อนหนึ่งเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนจังหวัดอื่นบ่อนหนึ่งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เดือนหนึ่งไม่เกิน 4 ครั้ง สำหรับการอนุมัติการอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันชนโค กรณีพิเศษให้อนุมัติได้เฉพาะกรณีงานที่จัดให้มีขึ้นในโอกาสอันเป็นประเพณีซึ่งได้จัดให้มีเป็นประจำทุกปี และได้เคยรับการอนุมัติมาแล้ว หรือกรณีที่เป็นการขออนุญาตในกรณีจำเป็นอย่างยิ่งในการหาเงินเพื่อการกุศลสาธารณะให้อนุมัติได้ปีละไม่เกิน 5 ครั้ง แต่ละครั้งไม่เกิน 3 วัน และจะต้องไม่ตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
  2. การจัดให้มีการเล่นการพนันชนไก่และกัดปลา เป็นการเล่นให้สัตว์ต่อสู้กันตามบัญชี ข. หมายเลข 1 ในกรุงเทพมหานครให้ออกใบอนุญาตได้เมื่ออธิบดีกรมการปกครองสั่งอนุมัติแล้ว ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครให้ออกใบอนุญาตได้เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งอนุมัติแล้วตามข้อ 4 วรรคสอง ข. (1) ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง สำหรับกรุงเทพมหานคร และนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ สำหรับจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) (2) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 โดยการอนุญาตจัดให้มีสถานที่เล่นการพนันชนไก่และกัดปลา (เปิดบ่อน) ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันชนไก่และกัดปลา พ.ศ. 2552 ต้องเป็นไปตามสถานที่เล่นต้องมิดชิดไม่เปิดเผย อย่าให้บุคคลภายนอกหรือเยาวชนแลเห็น ห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันซึ่งเป็นการทรมานสัตว์ เช่น เอามีดหรือหนามผูก วางยาเบื่อยาเมาให้สัตว์ชนหรือต่อสู้กัน หรือสุ่มไฟบนหลังเต่าให้วิ่งแข่งกัน หรือการเล่นอื่น ๆ ซึ่งเป็นการทรมานสัตว์อันมีลักษณะคล้ายกันโดยเฉพาะการจัดให้มีการเล่นการพนันชนไก่ โดยไก่ที่ชนมีการเสริมแต่งเดือยหรือดำเนินการอื่นใดซึ่งมิได้เป็นไปตามธรรมชาติของไก่ ให้อนุญาตเฉพาะวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 วัน เดือนหนึ่ง ห้ามเกิน 3 วัน และจะต้องไม่ตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
  3. การจัดให้มีการเล่นการพนันแข่งขันวัวลาน เป็นการเล่นให้สัตว์แข่งขัน ตามบัญชี ข. หมายเลข 1 ให้ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง สำหรับกรุงเทพมหานครและ นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ สำหรับจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) (2) และวรรคสอง ก. (1) โดยการออกใบอนุญาตให้ใช้ดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้เล่นได้ตามสภาพแห่งท้องที่หรือประเพณีของท้องถิ่นนั้น และจะต้องไม่ตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ห้ามมีลักษณะเป็นการทรมานสัตว์โดยเด็ดขาด และกำชับผู้ได้รับอนุญาตสอดส่อง กวดขัน มีให้ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าเล่นหรือเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด รวมถึงป้องกันมีให้ผู้เข้าไปในสนามพกพาอาวุธติดตัวหรือนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปโดยเด็ดขาด
  4. การจัดให้มีการเล่นการพนันแข่งม้า เป็นการเล่นให้สัตว์แข่งขัน ตามบัญชี ข. หมายเลข 1 ให้ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง สำหรับกรุงเทพมหานครและนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ สำหรับจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครเป็นเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) (2) และวรรคสอง ก. (1) แต่สำหรับกรณีการจัดให้มีการเล่นการพนันแข่งม้าซึ่งมีการเล่นโตแตไลเซเตอร์รวมอยู่ด้วยให้ออกใบอนุญาตได้เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งอนุมัติแล้ว ตามข้อ 4 วรรคสอง ค. (14) โดยการออกใบอนุญาตให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันแข่งม้า พ.ศ. 2524 และห้ามมิให้อนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันแข่งม้านัดพิเศษในโอกาสต่าง ๆ หากผู้ขออนุญาตและสนามม้ามีเจตนารมณ์ที่จะหารายได้เพื่อบริจาคในกิจการสาธารณกุศลต่าง ๆ อย่างแท้จริง ควรดำเนินการในการจัดแข่งม้านัดปกติประจำสัปดาห์ และกำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องควบคุมมิให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุ่มหรือเล่นการพนันแข่งม้า การเล่นโต๊ดเถื่อน และการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสนามม้า

ทั้งนี้ การอนุมัติ อนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยด่วนที่สุด ที่ มท 0307.10/ว 31581 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เรื่อง แนวทางการควบคุมวันอนุมัติอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน และหนังสือสั่งการอื่น ๆ ที่สั่งการไว้แล้ว โดยกำหนดให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตถือปฏิบัติในการพิจารณาออกใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือคำสั่งอนุญาตฉบับนี้ เป็นการอนุญาตหลังสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลาย จากเดิมสั่งระงับ ซึ่งไม่ได้ถือเป็นหนังสือคำสั่งอนุญาตใหม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]