‘แพทองธาร’ ฟังเสียงสะท้อนปัญหาท่องเที่ยวม่อนแจ่ม

เชียงใหม่ 26 ก.พ.-‘แพทองธาร-เพื่อไทย’ รับฟังผู้ประกอบการม่อนแจ่ม สะท้อนปัญหาการท่องเที่ยว ซัดนโยบายเที่ยวเมืองรอง-คนละครึ่ง แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้าน หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รับปากดันเชียงใหม่-เชียงราย เป็นเมืองท่องเที่ยวฝาแฝด ขยายสนามบินเชียงใหม่ เพิ่มรายได้การท่องเที่ยวให้ยั่งยืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 2555 ที่สวนอีเดน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ นพ.ไกร ดาบธรรม นายบัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ลงพื้นที่เพื่อพบปะผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ใน จ.เชียงใหม่ และผู้ประกอบอาชีพในม่อนแจ่ม ซึ่งเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่


โดยทันทีที่เดินทางมาถึงคณะของพรรคเพื่อไทยและ น.ส.แพทองธาร ได้ร่วมทักทายถ่ายภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง และเยาวชนนักฟุตบอลของคริสต์ เอฟซี อะคาเดมี่ ของม่อนแจ่ม ซึ่งก่อตั้งและผลิตนักฟุตบอลส่งให้สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย และยังผลิตนักเตะทีมชาติไทย อย่าง นายอานน์ อมรเลิศศักดิ์ นักฟุตบอล ทีมสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ดที่อยู่ในไทยลีก

จากนั้น น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะพรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ หารือตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวม่อนแจ่ม และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตัวแทนผู้ประกอบการได้สะท้อนปัญหาว่า การท่องเที่ยว 9 เดือนแรกของปี 2565 จังหวัดเชียงใหม่ทำรายได้กว่า 38,000 ล้านบาท และเป็นจังหวัดที่ฟื้นตัวของประเทศ รายได้จากการท่องเที่ยว ที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายเที่ยวเมืองรองคนละครึ่งช่วยผลักดันเศรษฐกิจในระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นการผลักดันที่ยั่งยืน ในปัจจุบันธุรกิจร้านคาเฟ่กาแฟ โฮมสเตย์กำลังจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากถามพรรคเพื่อไทยว่ามีนโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างไร


อีกทั้งตอนนี้ตัวแทนได้ฝากถึงประเด็นด้านการท่องเที่ยวที่ผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้ว เพราะมีการเลือกปฏิบัติของระบบราชการในเรื่องที่ดิน เรื่องการท่องเที่ยวที่ยังไม่มีการเน้นเรื่องการท่องเที่ยวในภาพเล็ก แต่กลับเน้นการท่องเที่ยวแบบภาพใหญ่

จากนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องรัฐบาลปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เป็นการแก้ปัญหาในช่วงโควิด-19 ระยะสั้นตนทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนเราสู่กันเลย ทำให้โรงแรมได้ประโยชน์และไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะต้นระยะพรรคเพื่อไทยมีการแก้ปัญหาระยะยาวถาวรจะมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อที่พี่น้องเจออยู่ทุกวันนี้ โดยการแก้ปัญหาระยะยาวจะเกิดขึ้นแน่ โดยเฉพาะปัญหาที่ดินทำกินและก็มีปัญหาในเขตป่าไม้ ดังนั้นต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการแบ่งเขตแบ่งเส้นทางนี้พรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายที่จังหวัดเชียงรายแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาแบ่งเส้นทำให้ประชาชนได้ที่ดินทำกินที่เหมาะสมส่วนคนไม่มีที่ทำกินก็จะจัดให้อย่างเหมาะสม

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอยากให้จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ เป็นเมืองคู่แฝด นอกการท่องเที่ยวแล้ว จะทำรถไฟความเร็วสูงถึงจังหวัดเชียงใหม่ ในภาคเหนือจังหวัดเชียงไหม่ทำรายได้เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ทำให้พรรคเพื่อไทยเห็นศักยภาพของจังหวัด นอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว พรรคเพื่อไทยยังมองเห็นการขยายสนามบินขยายสนามบิน ทั้งนี้ไม่ได้เพิ่มสนามบิน แต่จะต้องดูรายละเอียดในนโยบายอีกครั้ง แต่ต้องทำสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดอาชีพใหม่จากการท่องเที่ยว ในตัวของม่อนแจ่ม มีชื่อเสียงมากพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าเราเปิดทางให้จังหวัดเชียงใหม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เกิดการจ้างงานมากขึ้น ยังไงมันจำนักท่องเที่ยวก็มาเที่ยว


น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ถ้าทำนโยบายขยายสนามบินจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและให้ประชาชนมีโอกาสรองรับนักท่องเที่ยวและขอฝากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งด้วยเพื่อผลักดันนโยบายดีๆ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล

นพ.ชลน่าน ระบุว่า ขอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ตามมา การตัดน้ำตัดไฟในม่อนแจ่ม เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ซึ่งตนเห็นว่าคนต้องอยู่กับป่าได้ ครั้งนี้ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างโอกาสสร้างรายได้ขยายความเจริญให้กับประเทศชาติ โดยพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้ประกาศที่ประกาศนโยบายสร้างรายได้ใหม่ คนม่อนแจ่มก็มีซอฟต์พาวเวอร์ เพราะได้ส่งนักฟุตบอลไปสโมรสรต่างๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้