แกนนำพรรค รทสช. ปราศรัย ย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

นครราชสีมา 25 ก.พ. – แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นเวทีปราศรัย ย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” “พีระพันธุ์” ประกาศลั่น ช่วงเวลาที่นายกฯ ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี โคราชมีความเจริญเหมือนกับเมืองหลวงของประเทศไทย


จากนั้นนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ปราศรัยว่า ตนเป็นหนึ่งคนที่ตามมาอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ด้วย เพราะช่วงโควิด ชาวโคราชได้เงินเยียวยากว่า 1 ล้านบาท ลงมาให้พี่น้องชาวโคราช เป็นความห่วงใยจากลุงตู่ หากมีลูกหลานทำงานในเขตอุตสาหกรรมตะวันออกจะได้เงินชรภาพคืน 30% เป็นเงินจากประกันสังคมเป็นเงินที่ลูกหลายทำเอาไว้ กฎหมายตัวนี้อยู่ในสภาฯ แล้ว สำหรับผู้ที่อยู่ในมาตรา 33 ส่วนคนไทยที่เป็นแรงงานนอกระบบ เช่น ค้าขาย หาบเร่ เวลาไม่มีเงิน ไม่สามารถพึ่งพาสถาบันการเงินได้ ตอนนี้ลุงตู่ให้ทำเรื่องกองทุนแรงงานนอกระบบกำลังดูว่าจะได้เม็ดเงินเท่าไหร่ ต่อไปแรงงานนอกระบบไม่ต้องไปกู้หัวปิงปองอีกต่อไป นี่คือสิ่งที่ลุงตู่ทำเพื่อความเท่าเทียม คนรวยกู้ได้ แต่คนจนกู้ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้เกิดความเท่าเทียม นอกจากนี้บัตรลุงตู่ ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนรักลุงตู่ เป็นความเสมอต้นเสมอปลาย ขณะที่บางพรรคจะยกมือไหว้ตอนที่เลือก จากนั้นไม่เคยกลับมาเลย แต่บัตรลุงตู่จะยังคงทำต่อไป

ขณะที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยว่า ชาวโคราชได้ถามว่านายกตู่ได้ทำอะไรไว้ ความจริงทำไว้หลายอย่าง เช่น เรื่องการท่องเที่ยวที่ได้พัฒนาไปหลายอย่าง เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศและจังหวัดต่างๆ เพื่อให้รายได้กระจายออกไปในทุกพื้นที่ ให้เหมือนกับการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ เช่น วันนี้ตนได้ไปสักการะพระพุทธรูปองค์ขาวที่อยู่ในโคราชเห็นว่าหากมีการพัฒนาที่มากขึ้น นักท่องเที่ยวจะเข้ามาและสร้างรายได้ให้กับชาวโคราชอีกมาก เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยสุโขทัย ที่ตนพูดเรื่องประวัติศาสตร์เพราะว่าอยากให้ทุกคนนึกถึงบุญคุณของพระบูรพามหากษัตริย์ที่รักษาประเทศและแผ่นดินไว้ให้กับลูกหลาน และขอให้เลือกคนดีขึ้นมาปกครองประเทศ ที่ตนมาทำงานกับลุงตู่เพราะเห็นว่าลุงตู่เป็นคนดี ถ้าหากอยากได้รัฐบาลที่ดี ก็ขอให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ คนโกงชาติจะไม่มีวันเจริญ จึงขอให้เลือกคนดีขึ้นมาปกครองประเทศ


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีโอกาสมากราบย่าโม รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่เคยคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้รับการตอบรับมากมายขนาดนี้ ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจมาพบกับพี่น้องชาวอีสานเพื่อเป็นประตูสู่อีสาน เมื่อเดือนที่แล้วก็ได้ไปที่ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคใต้ แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน พวกเราทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหน หัวใจคือคนไทย ตนชอบใจคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า หัวใจของท่านเท่ากำปั้น แต่ใหญ่เพียงพอที่จะรักคนทั้งชาติ และนี่คือหัวใจของพล.อ.ประยุทธ์ และหัวใจของรวมไทยสร้างชาติ ที่รักประชาชน เพื่อมาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและนำชาติไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเพื่อลูกหลาน

ทั้งนี้ ในช่วงแรกที่ตนเริ่มตั้งพรรคมามีความตั้งใจว่าจะทำให้พรรคเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ตั้งใจจะทำงานให้กับประชาชนทุกคน จะเป็นพรรคที่ประชาชนพึ่งได้แก้ปัญหาให้ทุกเรื่อง วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจากจุดเล็กๆ ไม่กี่เดือน วันนี้ต้องยอมรับว่าหลายสิ่งที่เคยสบประมาทว่าพรรคของเราจะได้ถึง 25 เก้าอี้ แต่ล่าสุด กกต.ประกาศว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมสามารถส่งผู้สมัคร ส.ส. ได้ครบ 77 จังหวัด 400 เขต เป็นพรรคแรกที่สามารถทำได้ สำหรับในภาคอีสาน 132 ที่นั่ง ทั้งหมดมาอยู่ที่นี่แล้ว ขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อมที่จะมาทำงานให้กับทุกคน ยังทำอยู่ และจะทำต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตนเคยมาที่โคราชเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับวันนี้ที่มาอีกครั้ง เหมือนต่างประเทศมีความเจริญ ช่วงเวลาที่นายกฯ ประยุทธ์ อยู่ 8 ปี มีความเจริญเหมือนกับเมืองหลวงเมืองหนึ่งของประเทศไทย และเราจะทำต่อไป ขอย้ำพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องมีที่ทำกิน จะต้องมีกองทุนของประชาชน มีเงินฉุกเฉินสำหรับดูแลประชาชน ส่วนเรื่องบัตรสวัสดิการของรัฐ ก็จะต่อยอดทำต่อไป ทั้งหมดนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะมาทำให้กับประชาชน รวมถึงเรื่องการศึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติจะขยายโอกาสด้านการศึกษาให้กับลูกหลานของประชาชนต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]

ชวนร่วมมหกรรม “ซอฟต์พาวเวอร์” ฟังวิสัยทัศน์จาก 3 นายกฯ

ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ค.-รัฐบาลเชิญร่วมงานมหกรรม Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่าง 8-11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ 3 นายกรัฐมนตรีไทย แลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์สร้าง “มูลค่าทางวัฒนธรรม” นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม จัดงาน Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. Hall 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาและอนุกรรมการทุกสาขา โดยประสานพลังภาครัฐ เอกชน ชุมชน […]