“สุวัจน์” ย้ำโคราชคือยุทธศาสตร์สำคัญ มั่นใจได้แชมป์ที่นี่

นครราชสีมา 25 ก.พ.-“สุวัจน์” ย้ำโคราชคือยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ชาติพัฒนากล้า ทำเพื่อคนโคราชมาตลอด มั่นใจได้แชมป์ที่โคราช

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สถานการณ์การเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ว่าตอนนี้มีความชัดเจนแล้วในเรื่องของวันเลือกตั้ง เรื่องเขตเลือกตั้ง ถือว่าเป็นการเคาท์ดาวน์สู่การเลือกตั้ง บรรยากาศของแต่ละพรรค นโยบายผู้สมัครก็เป็นเรื่องที่ดี สร้างความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้ง เพราะความชัดเจนจะทําให้เกิดการเตรียมความพร้อม ทําให้การเลือกตั้งมีคําตอบ คือ เป็นการเลือกตั้งที่จะนําไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศ ฉะนั้น ต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศการเลือกตั้งให้ผลการเลือกตั้งออกมาทุกฝ่ายให้การยอมรับได้คนดีเข้าสภา ได้รัฐบาลดี เก่ง ทันสมัย มาแก้ไขปัญหาประเทศ


“บรรยากาศการเลือกตั้งข้อดีที่สุดคือ จะนําไปสู่ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างๆ ที่จะมีส่วนในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ วันนี้เชื่อว่าทุกคนรอความชัดเจน เพราะการเลือกตั้งก็จะนําไปสู่นโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ นําไปสู่รัฐบาลใหม่ นําไปสู่การเมืองที่มีเสถียรภาพ องค์ประชุมครบ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีหลายพรรคการเมือง พรรคใหญ่ มาลงโคราช นายสุวัจน์ บอกว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือ ความสําคัญของเมืองโคราช ทุกท่านถึงสนใจ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าโคราชเป็นยุทธศาสตร์ที่สําคัญของประเทศ เป็นยุทธศาสตร์ในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นยุทธศาสตร์ของความเป็นประตูสู่อีสาน สู่ความเป็นอินเตอร์ แล้ววันนี้ก็ยังเป็นยุทธศาสตร์การเมืองที่สําคัญ ย้อน
ไปดูประวัติศาสตร์ทางการเมือง ใครชนะที่โคราช ใครชนะที่อีสาน จะได้เป็นรัฐบาล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นการมีตัวเลือกเยอะ มีทางเลือกเยอะให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราชได้เลือก สิ่งที่ดีที่สุดที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา


นายสุวัจน์ กล่าวว่าการเมืองก็คล้ายกีฬา ต้องแข่งขันกัน แต่ว่าเที่ยวนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเพราะเหมือนกับว่ามีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาเยอะ แล้วเป็นการแข่งขันที่จะนําไปสู่ชัยชนะ สําหรับการที่จะได้มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แล้วก็เป็นการเลือกตั้งที่อยู่บนความหวังที่ว่าจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน แต่สําหรับพรรคชาติพัฒนากล้านั้น เราก็สบายๆ เรามีความมั่นใจ เพราะว่าสี่ปีที่ผ่านมาเราทําการบ้านกันมาตลอด ส.ส.ของพรรค สมาชิกพรรค เราพร้อมแล้วเราทําเพื่อคนโคราชมาตลอด เรามีผลงานมีโครงการสําคัญๆ ที่ได้ร่วมมือกันสนับสนุน ร่วมมือกันผลักดันกับพี่น้องประชาชน จนก่อให้เกิดพื้นฐานในการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา เช่น ตั้งแต่สมัยท่านพลเอกชาติชาย ถนนสระบุรี-โคราช จากสองเลนเป็นสี่เลน เป็นสิบเลน มีนิคมอุตสาหกรรมก็มีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้น สร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับราคาสินค้าการเกษตรสนับสนุนให้เกิดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สนามกีฬาในโอกาสครบรอบ 333 ปี วันนี้เป็นสนามกีฬาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศของภาคอีสาน มีโรงกรองน้ำแห่งใหม่ที่ทําให้เกิดการผลิตน้ําประปาให้คนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาได้ใช้กัน แล้วยังมีระบบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมน้ําเสียทั้งเมือง

ฉะนั้น เราคิดว่าผลงานที่ได้ร่วมกันสนับสนุนผลักดันกับพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจน แล้วเราก็ทํามาตลอด ฉะนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่มีการแข่งขัน แต่เรามั่นใจ ไม่ได้มีความกังวลอะไร สนุกกับการแข่งขัน แล้วก็มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะยังให้การสนับสนุน เราเป็นพรรคการเมืองที่เหมือนกับมีบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่โคราช เรารู้ปัญหาแล้วเราก็จะทําเพื่อคนโคราชทําต่อไป

“วันนี้ ผมว่าปัจจัยที่จะชี้ขาดชัยชนะในการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับใครจะประสบความสําเร็จที่ทําให้ประชาชนมั่นใจว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งส่วนนี้เราให้ความสําคัญมาก เราทําเพื่อคนโคราช คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แล้วเราก็มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องเป็นแชมป์เปี้ยน โคราช”


นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ในที่ประชุมใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้มีการพูดถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมในเรื่องของการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการพูดคุยกันเรื่องนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า สําหรับการเลือกที่จะถึงนี้ว่าในเรื่องเศรษฐกิจนั้น เราจะเน้นเรื่องอะไรกันบ้าง ซึ่งเราก็จะเน้นในเรื่องของการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน จากเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมีอยู่ 6-7 ประเภท ที่เรียกว่า spectrum economy หรือเศรษฐกิจหลากสี ซึ่งสามารถจะทําให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ มูลค่ามากกว่า 5 ล้านล้านบาทต่อปี หรือในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้มากกว่าเก่าเท่าตัวสามารถจะเพิ่มรายได้ให้ประเทศอีก 5 ล้านล้านบาท หรือการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ ใครเงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี หรือการที่จะไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกผลกระทบจากเครดิตในการขอสินเชื่อที่จะจัดระบบใหม่ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสที่จะได้เงินเพิ่มได้สินเชื่อเพิ่ม เพื่อมาต่ออายุ รวมทั้งนโยบายเรื่องมอเตอร์เวย์ ซึ่งวันนี้พี่น้องประชาชนชาวโคราชรอว่าเมื่อไหร่มอเตอร์เวย์โคราชจะเปิด เป็นเรื่องที่จะต้องผลักดันให้เสร็จโดยเร็ว แล้วก็หวังว่ามอเตอร์เวย์ควรจะมีทั่วประเทศ ทุกทิศทั่วไทย มอเตอร์เวย์ 2,000 กิโลเมตร เป็นนโยบายที่เราจะผลักดัน ฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้เล่าให้สมาชิกฟัง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งการพูดกันถึงความพร้อมในเรื่องการเลือกตั้ง ผู้สมัครหรือว่าตัวแทนหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ที่จะต้องทําให้ครบถ้วนตามกฎหมายเลือกตั้ง

“พรรคชาติพัฒนากล้า จะต่างจากพรรคอื่น เราได้ประกาศนโยบายภาพรวมให้กับสมาชิกเพื่อรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเป็นนโยบายเศรษฐกิจภาพรวม แต่เนื่องจากว่าเราเป็นพรรคที่มีบ้านเกิดเมืองนอนอยู่โคราช และคนโคราชก็ประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องพืชผลเกษตร ปัญหาเรื่องการคมนาคม ปัญหาเรื่องมอเตอร์เวย์ ปัญหาเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ เมื่อไหร่จะได้ใช้ ปัญหาการจราจรติดขัดต่างๆ ในเมือง หรือปัญหาเรื่องน้ำท่วม ฝนตกเมื่อไหร่น้ำท่วมทุกที ฉะนั้น เราก็จะเอาปัญหาที่เราเห็น แล้วโอกาสที่เราจะต้องเข้าไปทํางานที่จะบอกพี่น้องประชาชนว่าเรามีนโยบายอะไร ความพิเศษของพรรคชาติพัฒนากล้ากับคนโคราชก็คือ เราจะมีทั้งนโยบายภาพรวมทั้งประเทศ แล้วก็นโยบายโคราชคิดว่าประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้ ตอนนี้ก็เตรียมสถานที่ เตรียมความพร้อมให้รออีกนิดเชื่อมั่นว่าจะเป็นนโยบายที่ถูกใจพี่น้องประชาชน และจะนําไปสู่ความเป็นแชมเปี้ยน”

ต่อประเด็นที่ว่ามั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ พรรคชาติพัฒนากล้า จะเป็นรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับตัวเลขทางการเมืองด้วย หมายความว่าตัวเลขของผลการเลือกตั้ง แล้วก็นโยบาย และจุดยืนทางการเมือง ซึ่ง 3 เรื่องนี้จะเป็นปัจจัยสําคัญที่จะนําไปสู่โครงสร้างของรัฐบาลและจะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เห็นภาพของรัฐบาล

ฉะนั้น คงยังพูดไม่ได้ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน วันนี้ทําตัวเองให้พร้อมให้มีเสียงเยอะๆ เสียงมากๆ เราพยายามที่จะเลือกยุทธศาสตร์ที่สําคัญ ในจังหวัดที่สําคัญ คือ จะดูเขตเลือกตั้งที่เรามีศักยภาพมีพื้นฐาน แล้วก็มีโอกาสที่จะใช้นโยบายของเราไปแก้ไขปัญหา จะเน้นในเรื่องคุณภาพของคนว่าเราส่งใครไปแล้วต้องมั่นใจว่าคน คนนั้นทํางานให้พี่น้องประชาชนได้ พี่น้องประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือกอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราจะต้องเลือกว่าคนนี้ทํางานให้ท่านได้

“สิ่งสําคัญที่สุดก็คือ เรื่องของ candidate นายกรัฐมนตรี เพราะว่านโยบายดีๆ ต้องทําให้เป็นด้วยไม่งั้นจะเสียของ บ้านเมืองวันนี้ต้องการความรอบรู้ ต้องการประสบการณ์ ต้องการความทันสมัย ผู้นําประเทศหรือนายกรัฐมนตรีก็จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถที่จะประสานความเข้าใจทุกฝ่าย ลดความขัดแย้งได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการใช้เงินซื้อเสียงกันมาก นายสุวัจน์ กล่าวว่าอันนี้ต้องขอแรงกกต. ต้องเด็ดขาด ต้องตามกฎหมายเป็นกฎหมาย ต้องทําให้การเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งที่ fair play ยุติธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เข้มงวดกวดขัน การปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย เช่น การซื้อเสียง ไม่งั้นเราก็จะไม่ได้ตัวแทนจริงๆ ของพี่น้องประชาชนเข้ามา หรือการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่ประกาศ อันนี้ก็มีผลโดยตรงต่อผลของการเลือกตั้ง ฉะนั้น อยากจะฝากทาง กกต. ในฐานะที่เป็นกรรมการขอให้ท่านได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ และในเรื่องของการอํานวยการการเลือกตั้งก็ต้องทําให้การเลือกตั้งเป็นไปได้ด้วยความสุจริต ยุติธรรม ไม่มีการใช้เงิน ใช้ทองซื้อเสียงที่ผิดกฎหมายเลย มันจะทําให้ผลการเลือกตั้งได้รับการยอมรับ การเมืองก็จะสง่างามนําไปสู่ความเชื่อมั่น เครดิตทางการเมืองของระบบสภาของบ้านเราด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]