“สุวัจน์” ย้ำโคราชคือยุทธศาสตร์สำคัญ มั่นใจได้แชมป์ที่นี่

นครราชสีมา 25 ก.พ.-“สุวัจน์” ย้ำโคราชคือยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ชาติพัฒนากล้า ทำเพื่อคนโคราชมาตลอด มั่นใจได้แชมป์ที่โคราช

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สถานการณ์การเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ว่าตอนนี้มีความชัดเจนแล้วในเรื่องของวันเลือกตั้ง เรื่องเขตเลือกตั้ง ถือว่าเป็นการเคาท์ดาวน์สู่การเลือกตั้ง บรรยากาศของแต่ละพรรค นโยบายผู้สมัครก็เป็นเรื่องที่ดี สร้างความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้ง เพราะความชัดเจนจะทําให้เกิดการเตรียมความพร้อม ทําให้การเลือกตั้งมีคําตอบ คือ เป็นการเลือกตั้งที่จะนําไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศ ฉะนั้น ต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศการเลือกตั้งให้ผลการเลือกตั้งออกมาทุกฝ่ายให้การยอมรับได้คนดีเข้าสภา ได้รัฐบาลดี เก่ง ทันสมัย มาแก้ไขปัญหาประเทศ


“บรรยากาศการเลือกตั้งข้อดีที่สุดคือ จะนําไปสู่ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างๆ ที่จะมีส่วนในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ วันนี้เชื่อว่าทุกคนรอความชัดเจน เพราะการเลือกตั้งก็จะนําไปสู่นโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ นําไปสู่รัฐบาลใหม่ นําไปสู่การเมืองที่มีเสถียรภาพ องค์ประชุมครบ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีหลายพรรคการเมือง พรรคใหญ่ มาลงโคราช นายสุวัจน์ บอกว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือ ความสําคัญของเมืองโคราช ทุกท่านถึงสนใจ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าโคราชเป็นยุทธศาสตร์ที่สําคัญของประเทศ เป็นยุทธศาสตร์ในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นยุทธศาสตร์ของความเป็นประตูสู่อีสาน สู่ความเป็นอินเตอร์ แล้ววันนี้ก็ยังเป็นยุทธศาสตร์การเมืองที่สําคัญ ย้อน
ไปดูประวัติศาสตร์ทางการเมือง ใครชนะที่โคราช ใครชนะที่อีสาน จะได้เป็นรัฐบาล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นการมีตัวเลือกเยอะ มีทางเลือกเยอะให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราชได้เลือก สิ่งที่ดีที่สุดที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา


นายสุวัจน์ กล่าวว่าการเมืองก็คล้ายกีฬา ต้องแข่งขันกัน แต่ว่าเที่ยวนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเพราะเหมือนกับว่ามีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาเยอะ แล้วเป็นการแข่งขันที่จะนําไปสู่ชัยชนะ สําหรับการที่จะได้มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แล้วก็เป็นการเลือกตั้งที่อยู่บนความหวังที่ว่าจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน แต่สําหรับพรรคชาติพัฒนากล้านั้น เราก็สบายๆ เรามีความมั่นใจ เพราะว่าสี่ปีที่ผ่านมาเราทําการบ้านกันมาตลอด ส.ส.ของพรรค สมาชิกพรรค เราพร้อมแล้วเราทําเพื่อคนโคราชมาตลอด เรามีผลงานมีโครงการสําคัญๆ ที่ได้ร่วมมือกันสนับสนุน ร่วมมือกันผลักดันกับพี่น้องประชาชน จนก่อให้เกิดพื้นฐานในการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา เช่น ตั้งแต่สมัยท่านพลเอกชาติชาย ถนนสระบุรี-โคราช จากสองเลนเป็นสี่เลน เป็นสิบเลน มีนิคมอุตสาหกรรมก็มีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้น สร้างงาน สร้างรายได้ ยกระดับราคาสินค้าการเกษตรสนับสนุนให้เกิดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สนามกีฬาในโอกาสครบรอบ 333 ปี วันนี้เป็นสนามกีฬาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศของภาคอีสาน มีโรงกรองน้ำแห่งใหม่ที่ทําให้เกิดการผลิตน้ําประปาให้คนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาได้ใช้กัน แล้วยังมีระบบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมน้ําเสียทั้งเมือง

ฉะนั้น เราคิดว่าผลงานที่ได้ร่วมกันสนับสนุนผลักดันกับพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจน แล้วเราก็ทํามาตลอด ฉะนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่มีการแข่งขัน แต่เรามั่นใจ ไม่ได้มีความกังวลอะไร สนุกกับการแข่งขัน แล้วก็มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะยังให้การสนับสนุน เราเป็นพรรคการเมืองที่เหมือนกับมีบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่โคราช เรารู้ปัญหาแล้วเราก็จะทําเพื่อคนโคราชทําต่อไป

“วันนี้ ผมว่าปัจจัยที่จะชี้ขาดชัยชนะในการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับใครจะประสบความสําเร็จที่ทําให้ประชาชนมั่นใจว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งส่วนนี้เราให้ความสําคัญมาก เราทําเพื่อคนโคราช คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แล้วเราก็มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องเป็นแชมป์เปี้ยน โคราช”


นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ในที่ประชุมใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้มีการพูดถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมในเรื่องของการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการพูดคุยกันเรื่องนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า สําหรับการเลือกที่จะถึงนี้ว่าในเรื่องเศรษฐกิจนั้น เราจะเน้นเรื่องอะไรกันบ้าง ซึ่งเราก็จะเน้นในเรื่องของการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน จากเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมีอยู่ 6-7 ประเภท ที่เรียกว่า spectrum economy หรือเศรษฐกิจหลากสี ซึ่งสามารถจะทําให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ มูลค่ามากกว่า 5 ล้านล้านบาทต่อปี หรือในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้มากกว่าเก่าเท่าตัวสามารถจะเพิ่มรายได้ให้ประเทศอีก 5 ล้านล้านบาท หรือการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปรับโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่ ใครเงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี หรือการที่จะไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกผลกระทบจากเครดิตในการขอสินเชื่อที่จะจัดระบบใหม่ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสที่จะได้เงินเพิ่มได้สินเชื่อเพิ่ม เพื่อมาต่ออายุ รวมทั้งนโยบายเรื่องมอเตอร์เวย์ ซึ่งวันนี้พี่น้องประชาชนชาวโคราชรอว่าเมื่อไหร่มอเตอร์เวย์โคราชจะเปิด เป็นเรื่องที่จะต้องผลักดันให้เสร็จโดยเร็ว แล้วก็หวังว่ามอเตอร์เวย์ควรจะมีทั่วประเทศ ทุกทิศทั่วไทย มอเตอร์เวย์ 2,000 กิโลเมตร เป็นนโยบายที่เราจะผลักดัน ฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้เล่าให้สมาชิกฟัง เพื่อให้เกิดความมั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจ รวมทั้งการพูดกันถึงความพร้อมในเรื่องการเลือกตั้ง ผู้สมัครหรือว่าตัวแทนหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ที่จะต้องทําให้ครบถ้วนตามกฎหมายเลือกตั้ง

“พรรคชาติพัฒนากล้า จะต่างจากพรรคอื่น เราได้ประกาศนโยบายภาพรวมให้กับสมาชิกเพื่อรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเป็นนโยบายเศรษฐกิจภาพรวม แต่เนื่องจากว่าเราเป็นพรรคที่มีบ้านเกิดเมืองนอนอยู่โคราช และคนโคราชก็ประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องพืชผลเกษตร ปัญหาเรื่องการคมนาคม ปัญหาเรื่องมอเตอร์เวย์ ปัญหาเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ เมื่อไหร่จะได้ใช้ ปัญหาการจราจรติดขัดต่างๆ ในเมือง หรือปัญหาเรื่องน้ำท่วม ฝนตกเมื่อไหร่น้ำท่วมทุกที ฉะนั้น เราก็จะเอาปัญหาที่เราเห็น แล้วโอกาสที่เราจะต้องเข้าไปทํางานที่จะบอกพี่น้องประชาชนว่าเรามีนโยบายอะไร ความพิเศษของพรรคชาติพัฒนากล้ากับคนโคราชก็คือ เราจะมีทั้งนโยบายภาพรวมทั้งประเทศ แล้วก็นโยบายโคราชคิดว่าประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้ ตอนนี้ก็เตรียมสถานที่ เตรียมความพร้อมให้รออีกนิดเชื่อมั่นว่าจะเป็นนโยบายที่ถูกใจพี่น้องประชาชน และจะนําไปสู่ความเป็นแชมเปี้ยน”

ต่อประเด็นที่ว่ามั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ พรรคชาติพัฒนากล้า จะเป็นรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับตัวเลขทางการเมืองด้วย หมายความว่าตัวเลขของผลการเลือกตั้ง แล้วก็นโยบาย และจุดยืนทางการเมือง ซึ่ง 3 เรื่องนี้จะเป็นปัจจัยสําคัญที่จะนําไปสู่โครงสร้างของรัฐบาลและจะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เห็นภาพของรัฐบาล

ฉะนั้น คงยังพูดไม่ได้ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน วันนี้ทําตัวเองให้พร้อมให้มีเสียงเยอะๆ เสียงมากๆ เราพยายามที่จะเลือกยุทธศาสตร์ที่สําคัญ ในจังหวัดที่สําคัญ คือ จะดูเขตเลือกตั้งที่เรามีศักยภาพมีพื้นฐาน แล้วก็มีโอกาสที่จะใช้นโยบายของเราไปแก้ไขปัญหา จะเน้นในเรื่องคุณภาพของคนว่าเราส่งใครไปแล้วต้องมั่นใจว่าคน คนนั้นทํางานให้พี่น้องประชาชนได้ พี่น้องประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือกอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราจะต้องเลือกว่าคนนี้ทํางานให้ท่านได้

“สิ่งสําคัญที่สุดก็คือ เรื่องของ candidate นายกรัฐมนตรี เพราะว่านโยบายดีๆ ต้องทําให้เป็นด้วยไม่งั้นจะเสียของ บ้านเมืองวันนี้ต้องการความรอบรู้ ต้องการประสบการณ์ ต้องการความทันสมัย ผู้นําประเทศหรือนายกรัฐมนตรีก็จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถที่จะประสานความเข้าใจทุกฝ่าย ลดความขัดแย้งได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการใช้เงินซื้อเสียงกันมาก นายสุวัจน์ กล่าวว่าอันนี้ต้องขอแรงกกต. ต้องเด็ดขาด ต้องตามกฎหมายเป็นกฎหมาย ต้องทําให้การเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งที่ fair play ยุติธรรมกับทุกฝ่าย ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เข้มงวดกวดขัน การปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย เช่น การซื้อเสียง ไม่งั้นเราก็จะไม่ได้ตัวแทนจริงๆ ของพี่น้องประชาชนเข้ามา หรือการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่ประกาศ อันนี้ก็มีผลโดยตรงต่อผลของการเลือกตั้ง ฉะนั้น อยากจะฝากทาง กกต. ในฐานะที่เป็นกรรมการขอให้ท่านได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ และในเรื่องของการอํานวยการการเลือกตั้งก็ต้องทําให้การเลือกตั้งเป็นไปได้ด้วยความสุจริต ยุติธรรม ไม่มีการใช้เงิน ใช้ทองซื้อเสียงที่ผิดกฎหมายเลย มันจะทําให้ผลการเลือกตั้งได้รับการยอมรับ การเมืองก็จะสง่างามนําไปสู่ความเชื่อมั่น เครดิตทางการเมืองของระบบสภาของบ้านเราด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืน พาญาติช่วยเจรจามอบตัว

สุรินทร์ 15 ส.ค.- เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืนกลางดึก หลบอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ประสานญาติช่วยเจรจามอบตัว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองและตำรวจ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามตัวพลทหารก่อเหตุรัวยิงปืนกลางดึก ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผกก.สภ.กาบเชิง ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคนเจ็บให้การว่า นั่งดื่มสุรา 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกันเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารนายดังกล่าวก็ออกมายืนกราดยิงห่างประมาณ 50 เมตร วัยรุ่น 2 คนจึงรีบหมอบหลบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ขณะนี้พบตัวทหารผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างประสานไปยังครอบครัวให้เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเจรจามอบตัว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]