ขอบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ อย่างน้อย 4 ล้านคะแนน

สุพรรณบุรี  24 ก.พ. – “วราวุธ “ อ้อนชาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เลือกพรรคสีชมพู “ชาติไทยพัฒนา” ให้ชนะถล่มทลาย “ประภัตร” ชื่นใจเสียงเชียร์ เชื่อหัวหน้าพรรคสู้ “ลุงตู่-ลุงป้อม-อุ๊งอิ๊งค์-อนุทิน” ได้ ขณะที่ กัญจนา” ขอเสียงสนับสนุนทั้งประเทศ 4 ล้านคะแนนส่ง “วราวุธ” เป็นนายกฯ 


ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ที่ ศาลาประชาคมจีน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ดร.อุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับนายประภัตร ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้ง อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์ และอ.สามชุก โดยมีคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ภรรยานายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 มาร่วมให้กำลังใจ

นายวราวุธ กล่าวปราศรัยขอบคุณประชาชน อ.สามชุก ที่ยังให้ความรัก ความศรัทธา กับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยเฉพาะ นายประภัตร ที่อยู่กับพรรคมาอย่างยาวนาน เป็นขุนพลที่สำคัญของพรรค มากว่า 40 ปี จึงขอเสียงจากชาวอู่ทอง เลือกนายประภัตร และพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ชนะอย่างถล่มทลาย


นายวราวุธ ยังกล่าวด้วยว่า กว่า 3 ปี ที่ทำงานร่วมรัฐบาล ได้พิสูจน์แล้วว่าทุกคะแนนเสียง ไม่ได้ตกน้ำไปไหน และสิ่งที่ยืนยัน ก็คือการทำงานของตน กับนายประภัตร ในฐานะรัฐมนตรี ที่ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้แต่ครั้งเดียว ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าไปทำงาน และการเลือกตั้งที่จะถึง ก็จะเป็นบทพิสูจน์ความรักของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี 8 แสนคน ว่าจะยังรักพรรคชาติไทยพัฒนา และศิลปอาชา อยู่หรือไม่  “มีพรรคนั้นพรรคนี้ จะมาขอคะแนน เวลาเดือดร้อน พรรคที่เสนอตัวหายไปไหนไม่รู้ พอจะเลือกตั้งแปะป้ายหาเสียง บอกจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะเลือกตั้งทีขยันทำงานกันใหญ่ ถ้าไม่มีเลือกตั้งก็คงจะไม่มาทำใช่หรือไม่ 4 ปีที่ผ่านมาไปไหนกันหมด ก็มีเพียง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ยังทำงานอยู่กับพี่น้องชาวสุพรรณบุรีมาโดยตลอด นี่คือความจริงใจที่พวกเรา พรรคชาติไทยพัฒนาได้ทำงานตั้งแต่รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นลูก และเราก็ขออาสาทำงานต่อ ด้วยความจริงใจ และตั้งใจ” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ ยังนำเสนอนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มาจากการ “รับฟัง ทำจริง” จากการลงพื้นที่ทำงานทั่วประเทศไทย ว่า นโยบายถึงจะไม่ได้ลด แลก แจก แถม มากมายมโหฬาร แต่เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และทำให้ประชาชนมีความยั่งยืน ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกรชาวนา จากนี้จะต้องมีพันธุ์ข้าวที่ดี มาแจกให้ฟรี ๆ ทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ และมีเงินต้นทุนการเพาะปลูก 1,000 บาท/ไร่ มีเขตไฟฟ้าการเกษตร ราคาถูก หน่วยละ 2 บาท และต้องมีน้ำสะอาดทุกหมู่บ้าน และมีบาดาลขนาดใหญ่ทุกตำบล เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง  เป็นต้น

นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคถึงจะไม่ได้หวือหวา ได้แจกเหมือนพรรคการเมืองอื่น ๆ แต่ก็เป็นนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้อง และเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับคนทั้งประเทศได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคไหนจะมา ก็ขอให้เลือกพรรคสีชมพู พรรคชาติไทยพัฒนาไว้ก่อน พร้อมระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ สมาชิกพรรค เสนอให้ตนเป็น แคนดิเดตนายกฯ และไม่ว่าพรรคอื่นจะมีคนเก่งมากมายแค่ไหน ขอให้มั่นใจว่าตนเองไม่ทำให้ชาวสุพรรณบุรีขายหน้า และไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน 


น.ส.กัญจนา กล่าวปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับ นายประภัตร ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้ และขอให้เลือกบัญชีรายชื่อพรรค ให้ได้เกินกว่า 3.5 แสนคะแนน เพื่อให้นายวราวุธ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรค เข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน “การเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้ง 5 เขต ขอให้พรรคชาติไทยพัฒนายกทั้งจังหวัด และขอคะแนนให้พรรค 4 แสนคะแนนขึ้นไป เพื่ออุ้มนายวราวุธ เข้าสภาฯ ได้หรือไม่”

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า นายบรรหาร รักจังหวัดสุพรรณบุรีมาก ดังนั้นคนสุพรรณบุรีจะไม่รักพรรคชาติไทยพัฒนาได้อย่างไร จึงอยากขอให้ช่วยกันบอกต่อ ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง ที่อยู่จังหวัดอื่น ๆ ให้ช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ถึง 4 ล้านคะแนน เพื่อให้ได้เข้าไปทำงานดูแลประชาชน  พร้อมย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เสนอชื่อ นายวราวุธ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และจำเป็นต้องมีเสียง ส.ส. ในสภาฯ ไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันสนับสนุนให้นายวราวุธ เข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 ของจังหวัดสุพรรณบุรี

ด้าน นายประภัตร กล่าวว่า อ.สามชุก เป็นอำเภอใหญ่ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจรองจาก อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงเป็นที่หมายปองของหลายพรรคการเมือง แต่ อ.สามชุก มีผู้แทนราษฎร มาจากพรรคชาติไทย ตั้งแต่ ปี 2518 และมีนายบรรหาร เข้ามาพัฒนาจังหวัดทั้งการคมนาคม การชลประทาน และการพัฒนาด้านอื่น ๆ ทำให้ อ.สามชุก ที่เป็นเมืองค้าขาย เมืองท่องเที่ยว เติบโตมีเศรษฐกิจดีขึ้น และนับจากนั้นมา จ.สุพรรณบุรี ก็มีผู้แทนราษฎร จากพรรคชาติไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา มาดูแล แก้ปัญหา น้ำท่วม ภัยแล้ง มาโดยตลอด จึงเป็นพรรคเดียว ที่อยู่ในใจ เคียงคู่ชาวสุพรรณบุรี และสามารถได้อย่างเต็มปากว่าเรามีความผูกพันกัน ดังนั้นจึงขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาชนะอย่างถล่มทลายในจังหวัด

นายประภัตร ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้นำท้องถิ่นมาสอบถามว่าหลังเลือกตั้งครั้งนี้ ใครจะเป็นนายกฯ ตนตอบได้เลยว่า 3 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นแนวทาง แต่วันนี้ทุกคนได้ยอมรับความสามารถของนายวราวุธ ที่สามารถขึ้นเวทีระดับโลกได้อย่างภาคภูมิใจ “เห็นแล้วว่าในแคนดิเดตนายกฯ 8 – 9 คน มีลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, อุ๊งอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา เรามี นายวราวุธ ศิลปอาชา ชาวสุพรรณฯ จะเอาหรือไม่ ถ้าเอา พวกเราจะต้องชนะอย่างถล่มทลายให้ได้”-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]