นายกฯ เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023

ระยอง 22 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ประกาศลดต้นทุนการผลิตยาง ส่งเสริมการส่งออกและในประเทศ ย้ำความสัมพันธ์กับ “สาธิต ปิตุเตชะ” รักกันดี ยันเป็นนายกฯ จับต้องได้ ไม่โก้หรู-แอคอาร์ต สวมหัวโขน ต้องให้ดีที่สุด


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 โดยมีพลเอกอนุพงษ์​ เผ่าจินดา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ นายสาธิต​ ปิตุเตชะ​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ เข้าร่วม ที่สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

โดยนายกรัฐมนตรี นั่งรถตู้อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กม 7000 ระยอง และทันทีที่นายกฯ มาถึง ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนที่มาช้า ทำให้รอนาน


ด้านนายสาธิต​ กล่าวว่า​ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับนายกรัฐมนตรี​ ตนทราบว่านายกรัฐมนตรีทุ่มเทเต็มที่​ ในการทำงาน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและในฐานะนายกรัฐมนตรี จังหวัดระยองได้โอกาสอย่างมากจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้ โครงการสำคัญที่เกิดขึ้นที่นายกรัฐมนตรีได้อุดหนุนลงมา เส้นโครงการป่ากลางเมือง ซึ่งเป็นผลพลอยได้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ยังมีอีกหลายโครงการทั้งผ่านช่องทางของคณะกรรมการนโยบาย EEC ที่จะเกิดโรงพยาบาลร่วมทุนแห่งแรกในประเทศไทย คนอยากพูดด้วยใจจริงในฐานะส.ส.จังหวัดระยอง และในฐานะที่เป็นคณะรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันระหว่างการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี​ ของนายบุญสวย​โสภณ​ สกุลกิจเจริญชัย​ ประธานจัดหารายได้​ และประชาสัมพันธ์​ สมาคมเครือข่ายสภาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย​ มีการแฉถึงการอนุมัติงบให้การช่วยเหลือของรัฐบาล​ โดยกล่าวว่า​ ตนได้ร่างจดหมาย​ สิ่งที่ไม่ดี ตนได้ขีดฆ่าไปแล้ว​ แต่เราคนจริง​ ต้องพูดกันตรงๆ​ หยุดความขัดแย้งได้แล้ว​ ซึ่งระหว่างนั้น​นายอุทัย​ สอนหลักทรัพย์​ นายกฯสมาคมสหพัน​ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้เดินเข้าไปห้ามให้นายบุญสวยโสภณ หยุดพูด​

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ขอกล่าวว่า สวัสดีระยองฮิ พี่น้องชาวตะวันออก​ ก่อนที่จะกล่าวชมว่า​ ภาษาระยองพูดไพเราะดี​ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีคนอยู่หลายสัญชาติ อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม​ ภาษาใดก็ตามหากพูดรู้เรื่องก็ใช้ได้ทั้งหมด ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำในเรื่องของเกษตร ที่มีอยู่ 6 ชนิด ซึ่งต้องใช้การประกันราคาทั้งสิ้น ปัจจุบันราคายางตกด้วยสถานการณ์โลก จึงต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ราคายางนั้นสูงขึ้น เราเป็นประเทศที่ผลิตยางได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และคิดว่ประเทศผู้ผลิตยางจะสามารถรวมกลุ่มกันได้หรือไม่ เพื่อที่จะเกิดการต่อรองในเวทีโลก และทำอย่างไรชาวสวนยางจะมีรายได้ที่ดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตให้มากขึ้น ย้ำการเกษตรของเราจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมลดการใช้สารเคมี การปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องระมัดระวังและหลายประเทศ ต้องตรวจสอบที่มาของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งคิดว่าหลายคนคงเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว พร้อมขอชื่นชมที่สามารถผลิตยางออกมาได้เป็นจำนวนมาก วันนี้เราต้องพัฒนา ติดตามสถานการณ์โลกและทำให้ทุกประเทศในโลกเลือกซื้อยางจากไทย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าถุงมือยางจากประเทศไทย ถูกจำกัดการส่งออก ตนเองได้สั่งการให้ตรวจสอบและแก้ไขทันที

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การจัดตั้งอีอีซี มีประโยชน์ ขอให้ทุกคนมองให้ไกล เพื่อที่ประเทศจะได้มีจีดีพีที่สูงขึ้น และรัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว และบางอย่างรัฐบาลกำลังทำอยู่ และบางอย่างต้องทำต่อ ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวสวนยาง และพร้อมที่จะรับข้อเสนอนำไปแก้ไข ส่งเสริมการใช้ยาง เช่น นำไปผลิตยางรถยนต์ โดย ประเทศไทยได้ทำกติกาและ สัญญาการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไว้แล้ว จะต้องใช้ผลิตผลภายในประเทศ หลายหน่วยงานได้ทำงานวิจัยและช่วยเหลือกันอยู่ เพื่อใช้ประโยชน์ยางในประเทศให้มากที่สุด ย้ำว่ารัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ แลถทุกคนต้อง มีความเท่าเทียมทางโอกาส โดยใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึง ใช้งบประมาณในการดูแลผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง เด็ก นักเรียน ทั้งหมดใช้เงินถึง 1 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งในฐานะที่เป็นรัฐบาล ขอทราบเรื่องการใช้จ่ายงบฯ และทราบว่าบางอย่าง ใช้เงินถึง 9 แสนล้านบาท บางอย่างใช้ 3-4 แสนล้านบาท จึงขอตั้งคำถามว่า แล้วเงิน 1 ล้านล้านบาทเดิม จะเอาจากไหนมาให้ และหากตัดงบประมาณของแต่ละกระทรวง แล้วประเทศจะเกิดง่อยเปลี้ยเสียขาไป แล้วจะทำอย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนรักทุกคน และในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีตนอยากช่วย อยากให้ แต่บางอย่างทำไม่ได้ ก็ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน ยินดีที่ได้วันนี้มีการจัดงานขึ้นมาเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึง มีการจับคู่ธุรกิจจากประเทศจีน พร้อมกล่าว “ขอบคุณ เซี๊ยะๆ”

ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า ”รักลุงตู่ที่สุดเลย” นายกฯ จึงบอกว่า “รักให้น้อยกว่ารัฐมนตรีสาธิตหน่อยแล้วกัน บ้านอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเขาน้อยใจ เดี๋ยวจะโดนเล่นงาน แหย่เล่นๆ” ย้ำว่า เป็นคนไทยต้องรักกัน ตนเป็นนายกที่จับต้องได้ ไม่ต้องโก้หรู แอคอาร์ต ตนไม่ใช่แบบนั้น มนุษย์เป็นอะไรก็เหมือนกัน หัวโขน แต่ระหว่างที่สวมหัวโขย ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันใช่หรือไม่

นายกฯ ย้ำว่าเคยมาที่จังหวัดระยองหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกคนรักกัน ตนกับรัฐมนตรีสาธิต รักกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหากัน เหมือนพี่น้องและช่วยกันทำงาน รวมถึงคณะกรรมการยางทุกคนที่รู้จัก และได้สู้กับปัญหานี้มาตลอด ดังนั้นเราจะต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของเรา เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ และเพื่อประชาชน

นายกฯ ย้ำว่าได้เร่งพัฒนาในหลายพื้นที่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งแต่เหนือจรดใต้ มี การวางโครงสร้างพื้นฐานไว้ให้ แต่จะมีความขัดแย้งบ้างแต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบ แต่ถ้าหากไม่ขัดแย้งทุกอย่างจะดี

นายกฯ ขออย่าไปทะเลาะกันไร้ประโยชน์ สิ่งที่เราต้องสำนึกอยู่เสมอ คือเราต้องหาให้เจอได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว คือ ทำแล้ว สิ่งที่ทำไม่เสร็จก็ทำอยู่ และทำต่อ คือ ขยายสิ่งที่ทำไปแล้วและสิ่งที่ทำอยู่ ไปสู่ข้างหน้า เพื่อเชื่อมโยงไปยังสิ่งต่างๆ

จากนั้น นายกฯ เป็นสักขีพยานในโอกาสการลงนามการจับคู่ธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทำธุรกิจร่วมกันในประเทศไทย และเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด พร้อมกันนี้ ได้ทดลอง กรีดยาง ด้วยเครื่องกรีดยางไฟฟ้า สวมถุงมือผ้าเคลือบยางฟองน้ำ ขณะที่ มีประชาชนมามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย