นายกฯ เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023

ระยอง 22 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ประกาศลดต้นทุนการผลิตยาง ส่งเสริมการส่งออกและในประเทศ ย้ำความสัมพันธ์กับ “สาธิต ปิตุเตชะ” รักกันดี ยันเป็นนายกฯ จับต้องได้ ไม่โก้หรู-แอคอาร์ต สวมหัวโขน ต้องให้ดีที่สุด


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 โดยมีพลเอกอนุพงษ์​ เผ่าจินดา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ นายสาธิต​ ปิตุเตชะ​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ เข้าร่วม ที่สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง

โดยนายกรัฐมนตรี นั่งรถตู้อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กม 7000 ระยอง และทันทีที่นายกฯ มาถึง ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนที่มาช้า ทำให้รอนาน


ด้านนายสาธิต​ กล่าวว่า​ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับนายกรัฐมนตรี​ ตนทราบว่านายกรัฐมนตรีทุ่มเทเต็มที่​ ในการทำงาน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและในฐานะนายกรัฐมนตรี จังหวัดระยองได้โอกาสอย่างมากจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้ โครงการสำคัญที่เกิดขึ้นที่นายกรัฐมนตรีได้อุดหนุนลงมา เส้นโครงการป่ากลางเมือง ซึ่งเป็นผลพลอยได้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ยังมีอีกหลายโครงการทั้งผ่านช่องทางของคณะกรรมการนโยบาย EEC ที่จะเกิดโรงพยาบาลร่วมทุนแห่งแรกในประเทศไทย คนอยากพูดด้วยใจจริงในฐานะส.ส.จังหวัดระยอง และในฐานะที่เป็นคณะรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันระหว่างการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี​ ของนายบุญสวย​โสภณ​ สกุลกิจเจริญชัย​ ประธานจัดหารายได้​ และประชาสัมพันธ์​ สมาคมเครือข่ายสภาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย​ มีการแฉถึงการอนุมัติงบให้การช่วยเหลือของรัฐบาล​ โดยกล่าวว่า​ ตนได้ร่างจดหมาย​ สิ่งที่ไม่ดี ตนได้ขีดฆ่าไปแล้ว​ แต่เราคนจริง​ ต้องพูดกันตรงๆ​ หยุดความขัดแย้งได้แล้ว​ ซึ่งระหว่างนั้น​นายอุทัย​ สอนหลักทรัพย์​ นายกฯสมาคมสหพัน​ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้เดินเข้าไปห้ามให้นายบุญสวยโสภณ หยุดพูด​

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ขอกล่าวว่า สวัสดีระยองฮิ พี่น้องชาวตะวันออก​ ก่อนที่จะกล่าวชมว่า​ ภาษาระยองพูดไพเราะดี​ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีคนอยู่หลายสัญชาติ อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม​ ภาษาใดก็ตามหากพูดรู้เรื่องก็ใช้ได้ทั้งหมด ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำในเรื่องของเกษตร ที่มีอยู่ 6 ชนิด ซึ่งต้องใช้การประกันราคาทั้งสิ้น ปัจจุบันราคายางตกด้วยสถานการณ์โลก จึงต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ราคายางนั้นสูงขึ้น เราเป็นประเทศที่ผลิตยางได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และคิดว่ประเทศผู้ผลิตยางจะสามารถรวมกลุ่มกันได้หรือไม่ เพื่อที่จะเกิดการต่อรองในเวทีโลก และทำอย่างไรชาวสวนยางจะมีรายได้ที่ดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตให้มากขึ้น ย้ำการเกษตรของเราจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมลดการใช้สารเคมี การปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องระมัดระวังและหลายประเทศ ต้องตรวจสอบที่มาของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งคิดว่าหลายคนคงเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว พร้อมขอชื่นชมที่สามารถผลิตยางออกมาได้เป็นจำนวนมาก วันนี้เราต้องพัฒนา ติดตามสถานการณ์โลกและทำให้ทุกประเทศในโลกเลือกซื้อยางจากไทย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าถุงมือยางจากประเทศไทย ถูกจำกัดการส่งออก ตนเองได้สั่งการให้ตรวจสอบและแก้ไขทันที

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การจัดตั้งอีอีซี มีประโยชน์ ขอให้ทุกคนมองให้ไกล เพื่อที่ประเทศจะได้มีจีดีพีที่สูงขึ้น และรัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว และบางอย่างรัฐบาลกำลังทำอยู่ และบางอย่างต้องทำต่อ ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวสวนยาง และพร้อมที่จะรับข้อเสนอนำไปแก้ไข ส่งเสริมการใช้ยาง เช่น นำไปผลิตยางรถยนต์ โดย ประเทศไทยได้ทำกติกาและ สัญญาการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไว้แล้ว จะต้องใช้ผลิตผลภายในประเทศ หลายหน่วยงานได้ทำงานวิจัยและช่วยเหลือกันอยู่ เพื่อใช้ประโยชน์ยางในประเทศให้มากที่สุด ย้ำว่ารัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ แลถทุกคนต้อง มีความเท่าเทียมทางโอกาส โดยใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึง ใช้งบประมาณในการดูแลผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง เด็ก นักเรียน ทั้งหมดใช้เงินถึง 1 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งในฐานะที่เป็นรัฐบาล ขอทราบเรื่องการใช้จ่ายงบฯ และทราบว่าบางอย่าง ใช้เงินถึง 9 แสนล้านบาท บางอย่างใช้ 3-4 แสนล้านบาท จึงขอตั้งคำถามว่า แล้วเงิน 1 ล้านล้านบาทเดิม จะเอาจากไหนมาให้ และหากตัดงบประมาณของแต่ละกระทรวง แล้วประเทศจะเกิดง่อยเปลี้ยเสียขาไป แล้วจะทำอย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนรักทุกคน และในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีตนอยากช่วย อยากให้ แต่บางอย่างทำไม่ได้ ก็ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน ยินดีที่ได้วันนี้มีการจัดงานขึ้นมาเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึง มีการจับคู่ธุรกิจจากประเทศจีน พร้อมกล่าว “ขอบคุณ เซี๊ยะๆ”

ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า ”รักลุงตู่ที่สุดเลย” นายกฯ จึงบอกว่า “รักให้น้อยกว่ารัฐมนตรีสาธิตหน่อยแล้วกัน บ้านอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเขาน้อยใจ เดี๋ยวจะโดนเล่นงาน แหย่เล่นๆ” ย้ำว่า เป็นคนไทยต้องรักกัน ตนเป็นนายกที่จับต้องได้ ไม่ต้องโก้หรู แอคอาร์ต ตนไม่ใช่แบบนั้น มนุษย์เป็นอะไรก็เหมือนกัน หัวโขน แต่ระหว่างที่สวมหัวโขย ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันใช่หรือไม่

นายกฯ ย้ำว่าเคยมาที่จังหวัดระยองหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกคนรักกัน ตนกับรัฐมนตรีสาธิต รักกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหากัน เหมือนพี่น้องและช่วยกันทำงาน รวมถึงคณะกรรมการยางทุกคนที่รู้จัก และได้สู้กับปัญหานี้มาตลอด ดังนั้นเราจะต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของเรา เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ และเพื่อประชาชน

นายกฯ ย้ำว่าได้เร่งพัฒนาในหลายพื้นที่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งแต่เหนือจรดใต้ มี การวางโครงสร้างพื้นฐานไว้ให้ แต่จะมีความขัดแย้งบ้างแต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบ แต่ถ้าหากไม่ขัดแย้งทุกอย่างจะดี

นายกฯ ขออย่าไปทะเลาะกันไร้ประโยชน์ สิ่งที่เราต้องสำนึกอยู่เสมอ คือเราต้องหาให้เจอได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว คือ ทำแล้ว สิ่งที่ทำไม่เสร็จก็ทำอยู่ และทำต่อ คือ ขยายสิ่งที่ทำไปแล้วและสิ่งที่ทำอยู่ ไปสู่ข้างหน้า เพื่อเชื่อมโยงไปยังสิ่งต่างๆ

จากนั้น นายกฯ เป็นสักขีพยานในโอกาสการลงนามการจับคู่ธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทำธุรกิจร่วมกันในประเทศไทย และเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด พร้อมกันนี้ ได้ทดลอง กรีดยาง ด้วยเครื่องกรีดยางไฟฟ้า สวมถุงมือผ้าเคลือบยางฟองน้ำ ขณะที่ มีประชาชนมามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย