ไทยสร้างไทยประกาศชวนคนไทย จุดไม้ขีดส่องสว่าง ขจัดอำนาจนิยม

พรรคไทยสร้างไทย 20 ก.พ. – พรรคไทยสร้างไทยประกาศชวนคนไทย จุดไม้ขีดส่องสว่าง ร่วมเผาขยะกองโต ขจัดอำนาจนิยม รัฐราชการ สร้าง Platform เปลี่ยนประเทศ ลั่นประเทศไทยต้องกลับมายืนหนึ่งบนแผนที่โลก


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าว “Platform การสร้างประเทศของพรรคไทยสร้างไทย” เพื่อให้พี่น้องมองเห็นอนาคตข้างหน้า ทั้งวิสัยทัศน์และอุดมการณ์

นายโภคิน ระบุประเทศไทยเกิดความขัดแย้ง อยู่ในความมืดมิด กับกองขยะมายาวนาน โดยเฉพาะวัฒนธรรมอำนาจนิยม และรัฐราชการ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เรามองเห็นปัญหาเหล่านี้จึงมาร่วมกันตั้งพรรค ด้วยอุดมการณ์และความมุ่งมั่นในการสร้างพรรคไทยสร้างไทย ด้วยความเสียสละและมุ่งมั่นตั้งใจ ต้องการให้พรรคเป็นสถาบันการเมือง เน้นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีที่เป็นธรรม พร้อมปฏิรูประบบศาล อัยการ ตำรวจ ทหาร ที่ปัจจุบันจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางผิด


นายโภคิน กล่าวว่า สำหรับปัญหาหลักของประเทศที่ต้องขจัดกองขยะเหล่านี้ คือ 1.ความคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม 2.รัฐราชการที่เป็นเครื่องมือรับใช้ ซึ่งกลายเป็นปีศาจตัวใหญ่ เกาะกินประเทศ เกิดธุรกิจสีเทา

ดังนั้น ประเทศจึงต้องมีวิสัยทัศน์และรูปแบบของการพัฒนาที่ชัดเจน จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนลุกขึ้นมาจุดไม้ขีดให้แสงสว่างเปลี่ยนประเทศไทย อย่ายอมจำนนต่ออำนาจเงิน อิทธิพลการสร้างความขัดแย้งเกลียดชังและวาทกรรมพรรคการเมืองและนักการเมือง เพื่อปลดแอกประเทศไทยจากอำนาจนิยมและรัฐราชการให้สำเร็จ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงหลักการทำงานของพรรคไทยสร้างไทยมาเพื่อเสียสละ มาเพื่อทำให้ไม่ทำเอา มาเพื่อทำประเทศไทยกลับมายื่นหนึ่ง ด้วย 5 Platform


เริ่มจากการ “สร้างคน” โดยจะดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่
1.เด็กในครรภ์ และมารดา จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
2.เด็กก่อนวัยเรียนและวัยเรียน ต้องเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ลดเวลาเรียนจนจบปริญญาตรีได้ระหว่างอายุ 17-19 ปี
3.บำนาญประชาชน 3,000 บาท เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย เพื่อให้มีชีวิตที่มั่นคง ไม่เป็นภาระลูกหลาน ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

“ล้างหนี้ด้วยการสร้างรายได้” ประเทศไทยต้องกลับมายืนหนึ่งบนแผนที่โลก ซึ่งพรรคมีนโยบายในการรองรับไว้แล้ว เช่น การเชื่อมโยงการเดินทาง Belt and Road ด้วยการเชื่อมรถไฟจากเหนือลงใต้ รวมถึงการเชื่อมทะเล 2 ฝั่งทั้งมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก

“ทำสงครามกับความยากจน”
โดยการแก้หนี้ เติมทุน สร้างโอกาส ด้วยกองทุนสร้างไทย 300,000 ล้านบาท

“ทำสงครามกับการทุจริต” สิ่งผิดกฎหมาย หวย บ่อน ซ่อง ยา และธุรกิจสีเทา พนันออนไลน์ และจะขจัดการคอร์รัปชัน โดยเฉพาะการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย

“สร้างประชาธิปไตย” ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะมี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เข้าไปทำหน้าที่ในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวของพรรคไทยสร้างไทย ได้ส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาแล้ว แม้พรรคยังไม่มีส.ส.แม้แต่คนเดียว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง