“เพื่อไทย” ยันแลนด์สไลด์ทั้งร้อยเอ็ด ลั่นไม่จับมือใคร

ร้อยเอ็ด 18 ก.พ. – “เพื่อไทย” ยืนยัน “แลนด์สไลด์ทั้งร้อยเอ็ด” หัวหน้าพรรคประกาศลั่น “ไม่จับมือกับใคร ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง” ด้าน “แพทองธาร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลั่น “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” พูดจริง ทำจริง เพื่อชาวร้อยเอ็ด


วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2566) เพื่อไทยบุกร้อยเอ็ด จัดปราศรัยใหญ่ #คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน ร่วมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส. และสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ประธานวิปฝ่ายค้าน, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย, นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย, นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส. พร้อมด้วยผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด ประกอบด้วย นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์, นายฉลาด ขามช่วง, นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์, นายกิตติ สมทรัพย์, นายศักดา คงเพชร, นายนิรมิต สุจารี, น.ส.จิราพร สินธุไพร และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร

เจ้าของฉายารอยยิ้มพิฆาต นักฆ่าขนตางอน เจ้าของพื้นที่อย่าง น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ขึ้นปราศรัยอย่างดุเดือด บอกเล่าว่า พื้นที่ภาคอีสานเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายประชาธิปไตย ที่ได้สร้างนักสู้เพื่อประชาธิปไตยจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็น “ถวิล อุดล” ทนายฝีปากเอก นักการเมืองดาวสภาฯ คนร้อยเอ็ด หนึ่งใน 4 เสือภาคอีสาน ที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ “ท่านจำลอง ดาวเรือง” ขุนพลอีสานมหาสารคาม และ “ครูเตียง ศิริขันธ์” นักสู้ขุนพลภูพาน สกลนคร หัวหน้าเสรีไทยภาคอีสาน ล้วนเป็นนักต่อสู้และกระบอกเสียงพี่น้องคนอีสาน ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทำให้พี่น้องชาวอีสานได้กินอิ่ม นอนอุ่น จนวาระสุดท้ายของชีวิต การต่อสู้ของบรรพบุรุษชาวอีสานไม่ได้เลือนหาย แต่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น


“นี่คือเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี คนร้อยเอ็ด และในตอนที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เกิดการต่อสู้ของพี่น้อง นปช. คนร้อยเอ็ดก็ไปต่อสู้กับพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ คนอีสานและจังหวัดร้อยเอ็ดยังได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เป็นเสียงที่สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาตลอด”

นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ปราศรัยอย่างดุดัน พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา และพวกพ้อง ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ ปกครองบ้านเมือง บอกว่าไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว มีใครเชื่อบ้าง ผมไม่เชื่อ เพราะการทุจริตไม่ได้หมายความถึงแค่รับสินบนโกงเงินอย่างเดียว แต่การยึดอำนาจคือการทุจริตอย่างหนึ่งที่เลวร้ายที่สุด เมื่อยึดอำนาจแล้วมาปกครองก็นำไปสู่การทุจริตในวงรัฐบาล วงราชการ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ชัดเจนที่สุดคือ จับเงินสินบนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในขณะที่รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กลับเงียบและไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการอะไร จนบัดนี้ปล่อยให้เงียบและคิดว่าคนไทยจะลืม ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จัดการอะไร มองเป็นอื่นไม่ได้คือการช่วยเหลือกัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าเหมือนช่วยกันทุจริตอย่างไม่มีความละอาย”

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ทุกวันนี้คนไทยทั้งประเทศพร้อมแล้วกับการเลือกตั้ง “วันนี้พี่น้องประชาชนตื่นตัวกันมาก เลือกตั้งซ่อมที่กรุงเทพฯ เพื่อไทยชนะ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่กาฬสินธุ์และร้อยเอ็ด เพื่อไทยก็ชนะถล่มทลาย กระแสแรงกว่าอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น ขอชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมมือกันยกจังหวัดทั้งร้อยเอ็ด แลนด์สไลด์ทั้งร้อยเอ็ด ให้ยิ่งกว่าตอนเลือกนายก อบจ. แลนด์สไลด์ทั้งอีสาน ร่วมกับประชาชนทั้งประเทศเปลี่ยนรัฐบาล แล้วเราจะไปแก้ปัญหาของประเทศ ทำให้บ้านเมืองนี้เป็นประชาธิปไตยเหมือนอย่างที่ชาวร้อยเอ็ดได้ต่อสู้มาตลอด”


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัย พร้อมประกาศกร้าวว่า “พรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับใคร” พร้อมระบุว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นรัฐบาล เหลือเพียงประชาชนใช้ปลายปากกา เอาประยุทธ์ออกไปในวันเลือกตั้ง โดยการเข้าคูหากาเพื่อไทย ก่อนจะทิ้งท้ายแนะนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครทั้ง 8 คน ได้แก่ นายฉลาด ขามช่วง, นายนิรมิต สุจารี, นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์, น.ส.จิราพร สินธุไพร, นายกิตติ สมทรัพย์, นายศักดา คงเพชร และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร เป็นการเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ยกจังหวัด โดย นพ.ชลน่าน ได้แนะนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 8 คน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า คู่แข่งพรรคเพื่อไทยมักวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคเพื่อไทยใช้แต่เงิน พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีรากฐานความคิดนโยบายมาจากการเข้าใจปัญหาของพี่น้อง ทุกนโยบายยืนบนหลักคิดว่า ทำอย่างไรให้พี่น้องมีอาชีพ ทำอย่างไรให้พี่น้องมีโอกาส มีสวัสดิการยามเจ็บป่วย นโยบายเพื่อไทยจึงมีเป้าหมายในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการโอท็อป โครงการกองทุนหมู่บ้าน เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยให้ คือ การให้คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ไม่ใช่การแจกเงิน แม้กระทั่งวันนี้ วันที่สินค้าเกษตรตกต่ำ พี่น้องเกษตรกรขายผลผลิตไม่ได้ราคา มีหนี้สินมหาศาล พรรคเพื่อไทยมีนโยบาย พักหนี้เกษตรกร 3 ปีทันที พักทั้งต้นทั้งดอก รอให้พี่น้องฟื้นตัว มีรายได้ ค่อยมาชำระหนี้ เรามีนโยบายที่เข้าไปอยู่ในหัวใจ เพราะเรารู้ว่าพี่น้องเกษตรกรเหนื่อยจากราคาสินค้าตกต่ำ เราจะมาทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น พี่น้องมีรายได้ขึ้นอีกครั้ง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ย้ำสโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” พร้อมบอกเล่าว่า เพื่อไทยพูดจริง ทำจริงแน่นอน ตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน จนวันนี้เป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว การทำนโยบายโดยมีพี่น้องเป็นหัวใจสำคัญคือสิ่งที่เหนือสิ่งอื่นใด โดยในการเลือกตั้งครั้งถัดไป พรรคเพื่อไทยจะสานต่อและพัฒนาโครงการต่างๆ ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พักหนี้เกษตรกร 3 ปี, โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เกษตรกรจะได้พักหนี้อีกครั้ง โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะใช้ได้ทั่วประเทศผ่านบัตรประชาชนใบเดียว กระจายงบฯ ให้ทุกหมู่บ้านทั่วไทย และละลายค่าแรงขั้นต่ำแช่แข็งให้ขึ้นเป็น 600 บาท ได้แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]