“สันติ” ควง “ชัยวุฒิ” นำทัพเรียกคะแนนชาวกรุงเก่า

พระนครศรีอยุธยา 18 ก.พ. – “สันติ” ควง “ชัยวุฒิ” นำทัพเรียกคะแนนชาวกรุงเก่า เลือกผู้สมัคร 3 เขต พปชร. ชูพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มสวัสดิการ ยกระดับการศึกษาเท่าเทียมแก้ปัญหาน้ำยั่งยืน


วันนี้ เวลา 18.30 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยเวทีย่อย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทีมโฆษกพรรค , ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เขตประกอบด้วย นายบุญเชิด ศิริยศ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา, นายชณทัต ปัทะมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 จ.พระนครศรีอยุธยา และนายธนพล บุญเจริญกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นการนำเสนอนโยบายหลักสู่พี่น้องประชาชนชาวอยุธยา ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาที่ทำกิน ในแคมเปญ “มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน และเพิ่มเงินสวัสดิการเป็น 700 บาท หรือ “ลุงป้อม 700” ซึ่งเป็นแคมเปญหลักในการหาเสียงเบื้องต้นในขณะนี้

โดยก่อนถึงกำหนดการปราศรัย คณะผู้บริหารจากพรรคพลังประชารัฐ พร้อมผู้สมัคร จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เขต ได้ลงพื้นที่ขึ้นรถแห่รอบเมืองท่าเรือ ตั้งแต่บริเวณวัดสะตือ จนถึงตลาดท่าเรือ ตลอดระยะทาง 5.2 กิโลเมตร โดยมีประชาชนในพื้นที่ต่างยิ้มแย้ม โบกมือ ตะโกน พร้อมให้กำลังใจ มอบดอกกุหลาบแก่ว่าที่ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐตลอดทั้งสองข้างทาง


นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ส่งว่าที่ผู้สมัครมารับใช้ชาวพระนครศรีอยุธยา 3 คน ก็ต้องของฝากให้พิจารณาผู้สมัครของเราด้วย เพื่อที่จะไปยกมือผลักดันให้มีการแต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

นายสันติ กล่าวต่อถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่จะมีการประกาศต่อไปคือ การเพิ่มศักยภาพความสามารถให้กับลูกหลานคนไทย เพราะขณะนี้นวัตกรรมโลกมันไปไกลมากแล้ว ถ้าเราจะทำการศึกษาเดิม ๆ เหมือน 200 ปีที่ผ่านมา เราก็จะตามไม่ทันโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเยาวชนของเราที่เพิ่งจะจบการศึกษามา แทบจะไม่มีงานทำ หรือไม่สามารถที่จะทำเงินได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด และน่าเป็นห่วงของประเทศชาติ ดังนั้น พรรคพลังประชารัญจึงมีนโยบายให้ทุกโรงเรียนสอนภาษาที่สอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น ตั้งแต่ชั้นอนุบาล เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชน

“พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำถึงเรื่องการดูแลพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังได้เป็นผู้ดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรประชารัฐ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคที่ได้คิด ดำริ ในเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งหัวหน้าพรรคของเราก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเงินในบัตรที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ จึงได้ออกมาเป็นนโยบาย 700 บาท สำหรับบัตรสวัสดิการประชารัฐ มุ่งทำมาเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อย คนชรา กลุ่มเปราะบาง


นโยบายทั้งหมด พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าจะทำทันที แต่ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องเลือกว่าที่ผู้สมัครของเราเข้าไปนั่งสภาฯ เพื่อสนับสนุนให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 และหากได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมผลักดันนโยบายตามที่ประกาศไว้ในทุกด้าน ทั้งดูแลสุขอนามัย การศึกษา โดยเน้นดูแลสตรีที่มีครรภ์ ให้มีเงินสวัสดิการดูแลตั้งแต่เดือนที่ 5 และดูแลเด็กแรกเกิดไปจนถึง 6 ขวบ รวมถึง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ส่งเสริมให้มีแพทย์ 2 คน เพื่อดูแลสุขภาพของชุมชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเดินทางไปโรงพยาบาล เป็นต้น “

ด้านนายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาขอแนะนำว่าที่ตัวผู้สมัครจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนพื้นที่ พร้อมทํางานแก้ปัญหาที่คั่งค้างให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีทั้งพื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่อุตสาหกรรม มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เป็นสังคมที่มีหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งพรรคพร้อมเข้ามาดูแลทุกกลุ่ม และที่สำคัญต้องกำจัดการคอร์รัปชัน ขจัดวงจรการทุจริต อะไรที่อยู่ใต้ดินก็ให้ขึ้นมาอยู่บนดิน ทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน

“พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาดูแลเพื่อให้จังหวัดอยุธยา พัฒนา และที่สําคัญคือ พรรคของเราจะเน้นสร้างการลงทุนในจังหวัดอยุธยามากขึ้น ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะทำให้การค้าขายรวมถึงเศรษฐกิจต่าง ๆ ดีขึ้น ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ที่เราคัดสรรมามีความมุ่งมั่นที่จะมาช่วยกันทํางานให้ชาวพระนครศรีอยุธยาอยู่ดีกินดีขึ้นอย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ บรรยากาศเวทีปราศรัยเพื่อแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ณ ตลาดสุวรรณเกลียวทอง เป็นไปด้วยบรรยากาศผู้สนับสนุนและกองเชียร์ที่รอต้อนรับ เพื่อฟังการปราศรัยในนโยบายของ พปชร. ที่จะเข้ามาดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ให้ความสำคัญการแก้ปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่อยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนชาวอยุธยา ต้องเสียสละ ให้เป็นพื้นที่รับน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น พปชร. ขออาสาเข้ามาเพื่อสานต่อการช่วยเหลือและ ผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อบริการจัดการน้ำแบบยั่งยืน เพื่อให้พี่น้องมีน้ำกิน น้ำใจ ป้องกันน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 รอฟังนายกฯ ยกระดับชายแดนไทย-กัมพูชา

กองทัพบก 23 มิ.ย.-มทภ.2 เผยรอฟังนายกฯ ยกระดับมาตราการชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ ชี้อนาคตหากสู้รบ ต้องปิดด่านตลอดแนว ขอคนไทยสามัคคี ในห้วงประเทศวิกฤติ ขอให้มั่นใจทหารอยู่เคียงข้างประชาชน ชายแดนไทยเราปลอดภัยแน่นอน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกโดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า สำหรับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผบ.ทบ.ท่านนั้นเชื่อมั่น กองทัพภาคที่2 ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดย ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่ หรือไม่เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา โดย พล.ท.บุญสิน ระบุว่าเรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอดการอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปตามห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา เมื่อถามว่า ส่วนวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงนั่นอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชาตลอดนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า […]

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย