ปชป.เปิดตัว 3 นักบิน ชิงชัย ส.ส.กทม.

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – “จุรินทร์” เปิดตัว 3 นักบิน ชิงชัย ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-สายไหม-บึงกุ่ม เผย 4 กิจกรรมใหญ่นำ ปชป.กรุงเทพฯ คัมแบ็ก


18 ก.พ.66 เวลา 09.30 น. ที่เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกับทีม กทม.ปชป. ทำพิธีเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตบางซื่อ โดยมีพี่น้องชาวเขตบางซื่อมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

นายจุรินทร์ กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ แต่มีบางพรรคคิดว่าไม่ควรจะให้สภาเปิด เดี๋ยวจะมีการอภิปราย เดี๋ยวจะมีการตรวจสอบ แต่สำหรับประชาธิปัตย์ เราเป็นรัฐบาลก็จริง แต่ไม่เคยกลัวการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดมั่นคงชัดเจนว่า เราสนับสนุนให้มีการพิจารณาญัตติเปิดอภิปราย เพราะนี่คือวิถีประชาธิปไตยรัฐสภา ที่ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป และนี่คือวิถีประชาธิปัตย์ของเรา


“ไม่ว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะมีท่าที พฤติกรรมในการทำหน้าที่อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่า ประเทศของเราจะต้องเดินหน้าต่อไปด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามวิถีทางรัฐสภา 4 ปีที่ผ่านมา และอดีตอันยาวนาน เราพิสูจน์แล้วว่า ประชาธิปัตย์คือผู้นำในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาของประเทศไทย จึงได้มีนโยบายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญให้ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า วันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่เป็นความคืบหน้าของการเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครของพรรค ก็คือการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อ พร้อมกับถือโอกาสเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรค ประกอบด้วย

  1. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ
  2. นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสายไหม
  3. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบึงกุ่ม

ทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนพี่น้องชาว กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร


“ขอถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทั้ง 3 เขต ทั้งเขตบางซื่อ เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ขอความกรุณาให้โอกาสนักบินรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน และให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เราได้มีโอกาสคัมแบ็กมาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านมาในอดีต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

พร้อมกับเปิดเผยถึงกิจกรรมใน กทม. ถัดจากนี้จะประกอบด้วย 4 กิจกรรม ก่อนเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว คือ 1. วันนี้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 นักบิน 2. เปิดศูนย์เลือกตั้งที่เขตบางนา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ 3. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปชป. ที่เป็นสตรี ซึ่งประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการเมืองยุคใหม่ นอกจากต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมแล้ว ก็ต้องมีการเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นด้วย และ 4. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ปชป. ทั้ง 33 เขต ในช่วงต้นเดือนมีนาคม

สำหรับแนวโน้มทิศทางการเมืองต่อจากนี้ นายจุรินทร์ มองว่า ถัดจากนี้ก็เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีก็พูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหนอย่างไร ซึ่งท่านก็บอกว่ามีในใจแล้ว และพวกเราก็พอทราบว่า สุดท้ายก็จะเดินหน้าเข้าสู่การยุบสภา ซึ่งถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน นับไปนับมาก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ส่วนวันที่เท่าไหร่ก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมาก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค. แต่ กกต.จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นก็น่าจะไปตามนี้โดยประมาณ

“ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือเลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ผมยืนยันว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ และเป็นหลักคิดสำคัญ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก”

สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ที่ กกต.มีการเพิ่มเป็น 8 รูปแบบ จะมีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอลงในรายละเอียด เป็นเรื่องที่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะได้พิจารณาให้ความเห็น เพื่อให้ กกต.นำไปประกอบการตัดสินใจต่อไป รวมทั้งนักการเมือง หรือผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งจากทุกพรรค แต่ขอให้ยุติธรรม และไม่ไปสร้างความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนี้ หากจะออกมาอย่างไร ทุกพรรคก็รับได้ ชาวกรุงเทพฯ และคนไทยก็รับได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดูจากตัวผู้สมัครที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งใน กทม. หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่าฯ กับ ส.ก. ที่ผ่านมา และเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง ซึ่งทั้งตน และรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งผู้สมัครทุกคน คนรุ่นใหม่พวกเราทุกคน ที่ลงพื้นที่ใน กทม. มีความมั่นใจ เพราะเราสัมผัสกับโลกของความเป็นจริงว่าเสียงตอบรับเป็นอย่างไร

“เทียบกับหลังเลือกตั้งคราวที่แล้วใหม่ๆ ตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกัน ดีขึ้นเยอะ ผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครด้วย ที่ให้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น ให้กำลังใจกับพวกเรา และมุ่งมั่นตั้งใจว่าเที่ยวหน้าจะมาช่วยประชาธิปัตย์” นายจุรินทร์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย

สนง.เขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สำนักงานเขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรพยาบาล กรณีเกิดถนนทรุดตัวขนาดใหญ่บริเวณถนนสามเสน ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกวชิรพยาบาล ถึงแยกราชวิถี ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก ตลอดจนสิ่งสาธารณะของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่ และถนนอาจทรุดตัวเพิ่มใกล้อาคารที่อยู่บริเวณถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นอาคารดังกล่าวอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เห็นควรหยุดใช้อาคาร หากมีการใช้อาคารอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้อาคารได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานเขตดุสิต จึงประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร […]

วิศวกรรมสถานฯ ห่วงดินอ่อนเสี่ยงขยายวง หลังถนนหน้า รพ.วชิรพยาบาล ทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – วิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเหตุถนนทรุด หน้า รพ.วชิรพยาบาล เบื้องต้นพบยังมีน้ำรั่วซึม ทำให้ดินใต้ถนนอ่อนตัว มีโอกาสสไลด์เพิ่ม หากมีฝนตกลงมา นายธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุผิวจราจรทรุดตัวบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ายังมีน้ำรั่วซึม ทำให้ดินใต้ถนนอ่อนตัวและมีโอกาสสไลด์เพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะหากมีฝนตกลงมา จะเพิ่มความเสี่ยงให้พื้นที่ไม่คงตัวมากขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเร่งหาทางปิดแหล่งน้ำที่รั่วซึม ทั้งจากท่อประปาและท่อระบายน้ำ ซึ่งยังมีน้ำไหลออกมาเป็นระยะ หากสามารถหยุดได้จะช่วยสร้างเสถียรภาพชั่วคราวให้กับดิน และลดโอกาสการขยายวงของการทรุดตัว พร้อมกันนี้มีการนำเครื่องมือสำรวจ เช่น 3D Scan มาช่วยวัดความกว้าง ความยาว และความลึกของหลุม เพื่อประเมินความปลอดภัยและแนวทางแก้ไขอย่างชัดเจน สำหรับอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล (สน.ใหม่) พบว่าเสาเข็มบางต้นหักหรือแตกร้าว ทำให้ต้องตรวจสอบรอยร้าวของโครงสร้างอาคารอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ นายธเนศ เน้นย้ำว่า มาตรการสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือการปิดกั้นพื้นที่เสี่ยงและไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าใกล้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้วิศวกรรมสถานฯ ได้เสนอแนวทางเบื้องต้น คือการควบคุมน้ำไม่ให้รั่วซึม การกั้นเขตพื้นที่เสี่ยง และการติดตามโครงสร้างอาคารโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ก่อนประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าพื้นที่จะกลับมาเสถียรและปลอดภัยเมื่อใด ด้านนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนทรุด […]