ป.ป.ช. วันนี้ ( 17 ก.พ.) “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบผู้ว่าฯ กปภ. ตั้ง 2 ที่ปรึกษาขัดกฎหมายจัดจ้างหรือไม่ ตั้งข้อสังเกตุคนในมีความสามารถทำไมไม่ตั้ง
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดผู้ว่าการกระประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กรณีสั่งให้จ้างเหมาที่ปรึกษา 2 คน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และขัดต่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 อันเข้าข่ายความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่
ทั้งนี้หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งผู้ว่าการประปาภูมิภาคคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ไม่กี่วัน ก็ได้มีการสั่งอนุมัติและประกาศให้แต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายวงเงินการจ้าง 650,000 บาท โดยมีระยะเวลาการจ้าง 13 เดือน ในอัตรา 50,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 ถึงงวันที่ 30 ก.ย.66 หลังจากนั้นได้แต่งตั้งให้ไปเป็นคณะทำงานด้านต่างๆ อีก ต่อมาในวันที่ 19 ก.ย.65 ได้ลงนามเห็นชอบให้ประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมอีก 1 คน โดยมีวงเงินการจ้าง 600,000 บาท มีระยะเวลาการจ้างเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 ถึงวันที่ 30 ก.ย.66 ซึ่งเสมือนเป็นการหยามคนของประปาหรือไม่ ทั้งที่ กปภ.มีวิศวกรกันมากมายเต็มไปหมด
การจ้างที่ปรึกษาด้านกฎหมาย มีระยะเวลาการจ้าง 13 เดือนนั้น ถือว่าเป็นการจ้างเกิน 1 ปีงบประมาณ(12 เดือน) และถือเป็นการจ้างต่อเนื่อง อาจถือได้ว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนมาก ที่ กค 0406.4/ว67 ลงวันที่ 14 ก.ค.2553 และหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0406.4/ว337 ลงวันที่ 17 ก.ย.2553 อีกทั้งการจ้างที่ปรึกษาทั้ง 2 คนดังกล่าว มีลักษณะเป็น “งานจ้างที่ปรึกษา” ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ด้วย
อีกทั้งจ้างเหมาที่ปรึกษาดังกล่าวมีสถานะเป็นเพียง “ผู้รับจ้างทำของ” ไม่ถือว่าเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของการประปาส่วนภูมิภาค (ตามหนังสือกระทรวงการคลังข้างต้น) ซึ่งหากปล่อยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของทางราชการหรือของ กปภ.ได้ จะถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตาม หนังสือกระทรวงการคลังข้างต้น ข้อ 1.3 ได้จะนำมาซึ่งการรั่วไหลของข้อมูลลับของทางราชการ ทำให้หน่วยงานรัฐเสียหายได้
การใช้อำนาจซึ่งอาจไม่เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว จะยังผลให้เกิดความเสียหายต่อการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ แม้จะมีการไหวตัวรีบเซ็นต์ยกเลิกการจ้าง 2 ที่ปรึกษาดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 ม.ค.66ที่ ผ่านมาไปแล้ว แต่ถือได้ว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว เพราะมีการเบิกจ่ายค่าจ้างไปแล้วหลายเดือน ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดผู้ว่าฯกปภ.ดังกล่าวตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด .- สำนักข่าวไทย