เมืองทองธานี 10 ก.พ.-นายกฯ อารมณ์ดี เปิดงานกองทุนหมู่บ้าน ขอต่อยอด เพิ่มมูลค่า แก้หนี้ครัวเรือน บอกต้องรัก สามัคคี อย่าขัดแย้งกัน เลือดคนไทยไม่เคยยอมแพ้ใคร ต้องสู้ไปด้วยกันเพื่อลูกหลาน โพสต์ท่าถ่ายรูปกับชาวบ้าน ทำสัญลักษณ์ Y2K ตามเทรนด์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้าไปด้ด้วยฐานราก รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลให้ทุกคนมีกำลัง ทั้งในการผลิต การซื้อ การขาย รายได้ทั้งหมดเป็นผลดีกับประชาชน วันนี้ย้อนมาดูกองทุนหมู่บ้านที่ตั้งมาเป็นศตวรรษที่ 3 ซึ่งตั้งมาตามเจตนารมณ์เดิม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้ตนต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศ
“กองทุนหมู่บ้านเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้จีดีพีเพิ่มมากขึ้น และทำให้คนกลับภูมิลำเนา วันนี้เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่าเราต้องร่วมกันทำให้แต่ละจังหวัดมีรายได้สูงขึ้น มีงบประมาณท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ได้ ซึ่งโครงการนี้ตั้งมา 30 ปี ต้องมีปัญหาแน่นอน แต่เราต้องไม่ท้อทำให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยพื้นฐานของความสุจริตใจ ผมพยายามขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้ มอบหมายให้แต่ละกองทุนปรับวิธีการให้ตรงเป้า ให้เกิดผลเร็วที่สุด สิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้สินครัวเรือน วันนี้มีโครงการช่วยเหลือเรื่องหนี้สินหลายกระทรวงก็ทำอยู่ มีโครงการแก้หนี้หลายโครงการฝากทุกคนช่วยติดตาม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับจุดแข็งของกองทุนหมู่บ้าน คือทำให้ทุกคนอยู่ได้ด้วยตัวเอง พัฒนาหมู่บ้านได้ เริ่มต้นจากหมู่บ้านละ 1,000,000 จะทำอย่างไรให้ 13 ล้านคนในโครงการดีขึ้น ถ้า 13 ล้านคนนี้ไม่ดีขี้น ก็เท่ากับวัตถุประสงค์กองทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องทำทุกอย่างให้เข้มแข็งขึ้น ใช้ดิจิทัล เทคโนโลยีมาช่วยเพื่อเพิ่มมูลค่าในการผลิตแปรรูป จำหน่าย วันนี้เส้นทางการคมนาคมขนส่งดีขึ้นกว่าเดิมหลายคนอาจมองไม่เห็นว่าทำอะไรมาแล้วบ้างนี่คือโอกาสที่ทำให้ทุกคนเกิดความเท่าเทียม การใช้เส้นทางต่างๆเพื่อลดภาระลดการเดินทางนี่คือสิ่งที่ได้ไปแล้ว
“เมื่อสักครู่ได้คุยกับผู้ที่มาแสดงสินค้าว่าขายดีหรือไม่ ทราบว่ามาขาย 3วัน ก็ขอให้ขายให้หมด พร้อมแซวว่า วันสุดท้ายก็ลดราคาบ้าง ถ้าได้กำไรพอแล้ว ส่วนการได้พบนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้(9 ก.พ.) ได้รับคำชื่นชมว่าประเทศไทยมีอะไรดีหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องอาหาร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลี้ยงโคในโครงการกองทุนหมู่บ้านว่า เราเคยมีโครงการเลี้ยงวัว ต้องมาทบทวนทั้งหมด และนำมาแก้ไข วัวกองทุนหมู่บ้านชุดนี้ต้องทำให้ดี ได้ไปแล้วไม่ใช่สามวันดีสี่วันไข้ ห้าวันตาย วัวกินหญ้าอยู่แล้ว มีคอกให้ เขาก็มีความสุข ถึงอย่างงไรเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิต มีบุญคุณกับเรา ขอให้ดูแลเขาให้ดีที่สุด
“วันนี้ผมมาเพื่อแสดงความยินดี มาติดตามผลงาน รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น เพราะนี่คือหนึ่งในยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ถ้าไม่มียุทธศาสตร์ก็เดินหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่มีใครทำสำเร็จด้วยคน ๆ เดียว ต้องรวมกลุ่มกัน ช่วยกันทำในสิ่งที่ดีงาม จะได้มีผลไปถึงทุกคน ไม่ใช่แค่ตัวคนเดียว ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน จับมือกันเดินโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง วันนี้ต้องทำให้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือความรัก ความสามัคคีและปรองดอง อย่าทำให้มีปัญหาระหว่างกัน ประชาชนต้องรักกัน อยู่บนพื้นฐานของความผูกพัน ความรัก ความสามัคคี สายเลือดเดียวกัน เลือดคนไทยที่ไม่เคยยอมแพ้ใคร เราต้องสู้กันต่อไปเพื่อประเทศชาติที่รักของเรา เพื่อความสุขของประชาชน ถ่ายทอดสู่ลูกหลาน ถ้าเราไม่ทำวันนี้ใครจะทำอยู่ที่พวกเราจะช่วยกันได้อย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธแสดงสินค้า ชิมอาหารต่าง ๆ โดยมีกลุ่มกองทุนหมู่บ้านชาวสุราษฎร์ธานีบอกให้ “นายกฯ สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้” ซึ่งนายกรัฐมนตรียกได้ยกนิ้วโป้ง(เยี่ยม ๆ) ให้กับชาวบ้าน พร้อมทำสัญลักษณ์วัยรุ่นวายทูเค (Y2K ) ส่งให้ชาวบ้านที่มาให้กำลังใจ ซึ่งคาดว่านายกรัฐมนตรีจำท่ามาจากการถ่ายรูปกับกลุ่มยุวทูตในงานช่วงเช้าที่ไปเป็นประธานปาฐกถา
นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการโครงการวัวล้านตัว โดยได้ลูบหัววัว และเคาะหัววัวเบา ๆ พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงโครงการดังกล่าวและการเลี้ยงวัว ระหว่างนี้มีชาวบ้านมาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้ย่อเข่าถ่ายรูปด้วยพร้อมแซวชาวบ้านว่า “พอฉันย่อก็ย่อตามฉัน” เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่มาถ่ายรูปด้วย เป็นที่สังเกตว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีตั้งแต่เช้าและมีท่าถ่ายรูปใหม่ ๆ แนวน่ารัก เช่น ท่าวายทูเค ดอกไม้บาน ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรี ว่า ท่าที่ถ่ายรูปกับประชาชนคือท่าอะไร นายกรัฐมนตรี จึงหันมาตะโกนใส่ว่า “Y2K” พร้อมทำท่าให้ดูด้วย.-สำนักข่าวไทย