กทม. 8 ก.พ.- “สมชาย” แจง ส.ว. ลาประชุมมาก เพราะไปต่างจังหวัด มองเกมฝ่ายค้าน แค่หลอกด่า – กระบวนการแก้รธน. ยังอีกยาว เสร็จไม่ทันอายุของสภา
นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ฐานะวิปวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐสภาล่มและ ส.ว. ถูกเพ่งเล็งว่าเป็นชนวนเหตุ เพราะลาประชุมถึง 95 คน โดยยอมรับว่า การนัดประชุมรัฐสภาวันนี้ (8 ก.พ.) ไม่ใช่วันประชุมของวุฒิสภา ทำให้มี ส.ว. ต้องลาประชุม เพราะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างจังหวัดในฐานะ กรรมาธิการสามัญ เบื้องต้นทราบว่ามี 4 คณะ และยังมีส.ว.ที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดในโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ส่วนกรณีที่การประชุมรัฐสภาล่ม และส.ว. ถูกโจมตีว่าเป็นต้นเหตุนั้น ไม่ใช่ว่าส.ว.ไม่ต้องการให้พิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยที่บรรจุไว้ในวาระ แต่เป็นเพราะเงื่อนไขเวลาและกระบวนการพิจารณานั้นไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จได้ทันภายในสมัยประชุมหรืออายุของสภาชุดปัจจุบัน เพราะต้องผ่านกระบวนการออกเสียงประชามติ และอาจต้องนำไปสู่การตีความของศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการพิจารณาวาระดังกล่าวเป็นแค่เกมทางการเมืองที่พรรคฝ่ายค้านต้องการใช้เป็นประเด็นหาเสียงเท่านั้น
“การนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูมาพิจารณาปลายสมัยประชุมแบบนี้ มีเหตุผลเดียว เพื่อต้องการใช้เวทีรัฐสภาเพื่อด่าส.ว. เหมือนที่่เคยทำตอนที่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว แล้วใครจะให้ถูกด่าฟรี เมื่อฝ่ายค้านใช้เกมไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม เพราะไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่พิจารณา อย่างเช่นเคยเกิดขึ้นมาแล้วในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่พบว่ามี ส.ส.แสดงความไม่เห็นด้วยและอภิปรายคัดค้าน แต่เมื่อถึงเวลาลงมติกลับพบว่าคนที่อภิปราย หรือคนที่นั่งในห้องประชุมไม่ยอมกดบัตรแสดงตนก่อนลงมติ เมื่อส.ว.จะทำบ้างในเรื่องที่ไม่เห็นด้วย ทำไมถึงถูกต่อว่า” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาวาระพิจารณา ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฝ่ายค้านบอกว่าส.ว.ต้องรับผิดชอบเป็นองค์ประชุม ทำให้ส.ว.ต้องตามสมาชิก 180 -200 คนมารักษาองค์ประชุม ทั้งที่ปกติหากฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายควรใช้วิธีการลงมติไม่เห็นด้วย ไม่ใช่ใช้วิธีไม่กดบัตรแสดงตน จนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูปที่สำคัญ ไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จได้
เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีเวลาเหลือให้นัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องที่ค้างในวาระได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประธานรัฐสภา เบื้องต้นตนมองว่า ยังมีเวลา คือ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพราะวันที่ 13- 14 กุมภาพันธ์ และ วันที่ 20-21 กุมภาพันธ์นั้น ส.ว.มีวาระสำคัญที่ต้องพิจารณา.-สำนักข่าวไทย