ท้วง กกต.แบ่งเขต ไม่ควรรวมแรงงานต่างด้าว

ทำเนียบ 6 ก.พ.-“วิษณุ” ท้วง กกต.ปมแบ่งเขต ไม่ควรรวมประชากรแรงงานต่างด้าว โยนถามภูมิใจไทย หลัง “วีระกร” บอกจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม อภิปรายทั่วไป ม.152 หวั่นฝ่ายค้านหลอกด่าแล้วชิ่ง แนะ รมต. ถามปุ๊บตอบปั๊บ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่า ตอนนี้กกต.กำลังแบ่งเขต แต่ตนได้เสนอแนะไปว่า ตนเป็นห่วงเรื่องของคนต่างด้าวในแต่ละพื้นที่ว่า จะรวมเป็นประชากรในเขตด้วยหรือไม่ ซึ่ง กกต. แจ้งว่าที่ผ่านมาได้รวมประชากรแรงงานต่างด้าวในเขตนั้นๆ ด้วย ทั้งนี้เพราะรัฐธรรมนูญไปเขียนว่า ต้องใช้จำนวนราษฎรตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในประกาศของกระทรวงมหาดไทยนั้นรวมต่างด้าวไว้ด้วย ทั้งที่ความจริงมันแยกได้ เป็นคนไทยล้วน กับคนต่างด้าว ซึ่งขอให้ กกต.ขอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญเอาเองว่าจะต้องรวมหรือไม่รวม


“ในส่วนของแรงงานต่างด้าวจะมีมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละเขต ต้องยอมรับว่าบางจังหวัดมีผล บางจังหวัดไม่มีผล แม้ว่าคนต่างด้าวเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ตนก็สงสัยว่าจะไปนับเขาด้วยทำไม เพราะคนพวกนี้เวลาที่ประเทศเขามีการเลือกตั้งเขาก็เดินทางกลับไปเลือกตั้งได้” นายวิษณุ กล่าว

ส่วน กกต. ได้มาหารือกับนายวิษณุ เกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี เขายังไม่จำเป็นต้องคุย ในเมื่อเราให้เวลาเขาหนึ่งเดือน ซึ่งเขาร่างไว้แล้ว ไม่ได้ยุ่งยากอะไร


เมื่อถามว่า แสดงว่าโดยหลักจะรอให้กกต. จัดการเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงค่อยเดินหน้า ในเรื่องของการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะก่อน สิ้นเดือนกุมภาพันธ์เล็กน้อย ตรงนั้นมาคุยกันอีกที ขณะนี้ยังไม่รู้จะคุยอะไร เค้าเองก็ยังไม่รู้ว่าเขตเลือกตั้งอยู่ที่ไหนอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายทั่วไปในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ ทางพรรคภูมิใจไทยบอกว่าจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมสภาอย่างนี้ทำได้หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปถามพรรคภูมิใจไทยสิ ตน ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทำอย่างนี้ได้หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องไปถามนายวีรกร คำประกอบ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลเขาคุยกันหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะเวลาประชุมตนไม่ได้เขาด้วย แต่ในครม. ซึ่งไม่มีการคุยเรื่องนี้ ซึ่งโดยหลักแล้ว ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายยื่นญัตติ ฝ่ายค้านก็ต้องเป็นผู้มีสิทธิ์อภิปราย ฝ่ายรัฐบาลอาจจะพูดบ้างก็ได้ แต่เขาเอาเวลาของส.ส.มารวมกับเวลาของรัฐมนตรี ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชั่วโมง ดังนั้นหาก ส.ส. เอาเวลาไปพูดเสียเยอะ รัฐมนตรีก็จะเหลือเวลาที่จะชี้แจงน้อย แต่ถ้าประท้วงกันไปมา ก็ถือว่าทำได้ อย่างที่ตนเคยบอกเรื่องนี้ไม่มีการลงมติ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการกดออดเรียกมาให้นั่งเรียกมาให้นั่งครบองค์ประชุมแล้วลงมติ เวลาสภาล่ม มันก็จะล่มทุกครั้งเวลาที่ลงมติ แต่ครั้งนี้ไม่มีการลงมติ ถ้าไม่มีคนขอนับองค์ประชุม มันก็ไปของมันเรื่อย สมาชิกก็เดินเข้าเดินออก มองไปก็อาจจะโหรงเหรง แต่ก็ไม่ถือว่าองค์ประชุมล่ม จนกระทั่งเมื่อไหร่มีคนขอนับองค์ประชุม แล้วองค์ประชุมไม่ครบ


ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยมารยาทแล้วเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ควรไปนั่งในสภาเป็นองค์ประชุมไม่ใช่หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า บางทีก็มีเบื่อ มีเหนื่อยหน่าย เพราะการนั่งฟังโดยไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึง2วัน2คืน ก็เบื่อเหมือนกันนะ ก็เห็นใจแต่กติกาสภาเป็นแบบนั้น

ส่วนจะมีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกันอีกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากจะมีก็เป็นวันอังคารที่ 7กุมภาพันธ์นี้

เมื่อถามว่าหากองค์ประชุมไม่ครบการอภิปรายก็ไม่ต้องมีเลยก็ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถือว่าจบแค่ไหนก็แค่นั้น แต่คงไม่ใช่ว่า เริ่มเปิดประชุมปั๊บแล้วล่มเลย น่าจะอภิปรายไปกันสักพักหนึ่ง แต่ที่ตนกลัวคือ กลัวว่าองค์ประชุมไม่ครบในช่วงรัฐบาลชี้แจงตอบนี่แหละ อาจเห็นว่าเขาด่ากันมาสองวันแล้ว พอเราจะพูด องค์ประชุมก็ไม่ครบ เลยอดพูดเลย แต่ที่จริงฝ่ายค้านอยู่ให้ครบ มัน ก็จะเป็นองค์ประชุมได้ ฝ่ายค้านเองก็ต้องอยู่ให้ครบด้วย ไม่ใช่ฝ่ายค้านไม่อยู่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่อยู่ องค์ประชุมก็ล่ม แล้วมาโทษฝ่ายรัฐบาล อย่างนี้มันก็พูดยาก ดังนั้นต้องช่วยกันอยู่ให้ครบ เพราะรัฐบาลก็ไม่ได้อยาก กระตือรือร้นที่จะตอบ แต่เมื่อฝ่ายค้านถาม รัฐบาลก็ยินดีตอบ

เมื่อถามว่า เท่าที่ประเมินเป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายค้านจะเปิดประชุมเพื่อด่าแล้วก็หายไป โดยไม่เป็นองค์ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นรัฐมนตรี ก็ไม่ควร รอเอาไว้ตอบในช่วงสุดท้าย เมื่อถูกฝ่ายค้านว่าปั๊บรัฐมนตรีก็ต้องตอบเลยทันที ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านอาจจะลุกขึ้นมา อภิปรายต่อว่า แล้วก็กลับบ้านเลย มันก็ต้องทันกันด้วย
เมื่อถามว่า สัดส่วน 8 ชั่วโมงของรัฐบาล น้อยเกินไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เมื่อมีเวลาสองวันก็ต้องแบ่งกันให้ครบ 20 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]