ปชป. เปิดศูนย์เลือกตั้งเขตหลักสี่ ชู “ผู้การแต้ม” ปักธง

ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตหลักสี่ 5 ก.พ.- “จุรินทร์” นำทีม ปชป. โชว์ความพร้อม! เปิดศูนย์เลือกตั้งเขตหลักสี่ ศูนย์แรก กทม. ชู “ผู้การแต้ม” ปักธง


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค และสมาชิกพรรค ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งและศูนย์ประสานงานของพรรคที่เขตหลักสี่ ที่นำโดย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัครเขตหลักสี่ ด้วยบรรยากาศคึกคัก มีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างหนาแน่น

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยลืมพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และให้ความสำคัญกับกรุงเทพมหานครเสมอ เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ คือลมหายใจของพวกเราชาวประชาธิปัตย์ ที่ทำให้พรรคอยู่ยั้งยืนยงมาถึงวันนี้ 76 ปี และวันนี้ถือว่าเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเราชาวประชาธิปัตย์ที่จะรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ โดยการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรค และน่าจะเป็นแห่งแรกของกรุงเทพฯ ที่เขตหลักสี่ พร้อมกับมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะไม่ทิ้งพวกเรา และในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้จะช่วยกันสนับสนุน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ “คัมแบ็ก” กลับมารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ อีกวาระหนึ่ง


“วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถ้าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องมีการเลือกตั้งในปีนี้แน่นอน ไม่ว่าจะอยู่ครบเทอม หรือจะมีการยุบสภาก่อนก็ตาม การเลือกตั้งก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีขึ้นภายในปีนี้ และวันนี้ถือเป็นการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ที่น่าจะพูดได้เลยว่าเป็นแห่งแรกของทุกพรรคการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์เขตหลักสี่ ที่มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม เป็นตัวแทนของพรรค และลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า การตั้งศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เป็นการสะท้อนความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นพรรคการเมืองที่พร้อมเสนอตัวรับใช้ประชาชน และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอีกทางให้กับชาวกรุงเทพมหานคร ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมตั้งแต่ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง นโยบาย ผลงานของพรรค และพร้อมเรื่องบริหารจัดการ เพื่อเดินหน้านำทัพไปรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

“เรื่องตัวบุคคล วันนี้ประชาธิปัตย์กรุงเทพฯ มีผู้สมัครครบแล้วทั้ง 30 เขต แต่เที่ยวหน้า กรุงเทพฯ เพิ่มอีก 3 เขต เป็น 33 เขต ขณะนี้นอกจากมีผู้สมัคร 30 คนแล้ว ยังบวกอีก 10 คน จึงเป็นเรื่องที่รองหัวหน้าพรรค กรุงเทพมหานคร และทีมงานกรุงเทพฯ จะต้องพิจารณาต่อไปว่าบุคคลที่เหมาะสม และทางเลือกที่ดีที่สุดที่ประชาธิปัตย์จะเสนอให้พี่น้องชาว กทม. ควรจะเป็น 3 คนไหนที่พรรคจะนำเสนอ แต่ผมยืนยันได้ว่าประชาธิปัตย์จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดที่จะนำเสนอให้ชาว กทม.” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว


นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องนโยบายในการเลือกตั้งที่จะมาถึงของพรรคประชาธิปัตย์คือ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” และถือว่าเป็นภาพรวมยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์หากได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีกว่าให้กับคนไทยทั้งประเทศต่อไป

“กรุงเทพมหานคร มีชุมชนทั้งหมด 2,000 กว่าชุมชน ประชาธิปัตย์ถ้าได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะจัดตั้งธนาคารชุมชน กรุงเทพมหานคร ขึ้นมาทุกชุมชน ๆ ละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งทุนให้แต่ละชุมชน ได้เข้าถึงและนำไปพัฒนาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ให้กับครอบครัวต่อไป สำหรับนมโรงเรียน ประชาธิปัตย์ซึ่งได้เริ่มต้นนโยบายตั้งแต่สมัยท่านชวน เราให้กินนมโรงเรียนฟรี แต่มาถึงวันนี้ทำได้จำกัดแค่ 280 วัน ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาล เราจะฟรีนมโรงเรียนทั้ง 365 วัน และอีกไม่นานเราจะประกาศนโยบาย สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เวอร์ชั่น กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะขึ้นมาอีกด้วย” นายจุรินทร์กล่าว

พร้อมกับทิ้งท้ายแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์โควิดว่า อย่าเพิ่งลืม ทุกวันนี้มันยังอยู่กับเรา และใน 2-3 ปีที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่อยู่กับพี่น้องชาว กทม. ที่ร่วมเผชิญภัยโควิดและเข้ามาดูแลพี่น้องชาว กทม. อย่างต่อเนื่องก็คือพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะการมีศูนย์ ศปฉ.ปชป. สำหรับทำหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือชาว กทม. ด้านโควิด ตั้งแต่เรื่องการประสานส่งต่อผู้ป่วยและหาเตียง กว่า 5,000 เตียง การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปแล้วกว่า 10 ล้านชิ้น การทำเดลิเวอรี่ ข้าวกล่องส่งตรงถึงบ้าน ไปจนถึงว่าที่ผู้สมัครของพรรคเดินพบปะดูแล ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ มอบถุงน้ำใจ ปชป. อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภาพเหล่านี้ยังคงติดตาตรึงใจพี่น้องชาวกรุงเทพฯ

“อย่างน้อยที่สุดยามยาก ยามพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกข์ ประชาธิปัตย์ไม่เคยหายไปไหน ยังอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวกรุงเทพฯ เสมอ แม้ผลการเลือกตั้งจะได้มากบ้างน้อยบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครได้มากตลอดกาล หรือได้น้อยตลอดกาล ประชาธิปัตย์ก็เหมือนกัน”

ในวันพรุ่งนี้ รองนายกรัฐมนตรี จะได้นำคณะเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตต์ (UAE) เพื่อพบรัฐมนตรีการค้าและภาคเอกชน ซึ่งประเทศดังกล่าวเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในทวีปตะวันออกกลาง และเป็นตลาดสำคัญในอนาคต

“ไป 2 วัน ไปเร็ว เคลมเร็ว ทำได้ไวทำได้จริง เพื่อทำนโยบายรัฐบาล และนโยบายประชาธิปัตย์ให้เป็นจริง อย่างน้อยเป็นการสร้างเงิน และสร้างอนาคตไว้ให้ประเทศไทย เพราะจะทำรายได้เข้าประเทศเฉพาะเที่ยวนี้อย่างน้อย 3 หมื่นล้านบาท พวกเราทั้งหมดกำลังทำสิ่งนี้ให้เห็น ไม่ใช่คิดจะทำในวันข้างหน้า ล่องลอยอยู่ในความฝัน ล่องลอยอยู่ในอวกาศ แต่เป็นสิ่งที่เราทำมาแล้ว กำลังทำ และจะทำต่อไปในอนาคต หากพี่น้องให้โอกาส” นายจุรินทร์กล่าวในที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]