สำนักงาน กกต. 1 ก.พ. – กกต. แจงคำนวณจำนวนราษฎรยึดตามทะเบียนราษฎร รวมผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นไปตามที่กฤษฎีกาให้ความเห็นและใช้การคำนวณเหมือนการเลือกตั้งปี 62 เผยไทม์ไลน์แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. เร่งให้เสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ ขอบคุณนายกฯ ไม่ก้าวล่วงทำงาน ยืนยันพร้อมจัดการเลือกตั้งไม่ว่าจะยุบสภาฯ หรืออยู่ครบวาระ
นายปกรณ์ มหรรณพ พร้อมด้วยนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และนายกิติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต. ร่วมแถลงข่าวชี้แจงกรณีมีการระบุว่า กกต. ขอเวลารัฐบาลในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งรวม 45 วัน ว่า กกต. มีการประสานและชี้แจงทำความเข้าใจว่าเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว เรามีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในเรื่องต่างๆ เช่น การที่ กกต.จังหวัด จะต้องแบ่งเขตภายในเวลา 3 วัน การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และพรรคการเมือง อีก 10 วัน โดยเมื่อครบระยะเวลา กกต.จังหวัด จะต้องพิจารณาเพื่อทำความเห็นว่ารูปแบบใดเหมาะสม อีก 3 วัน รวมเป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะส่งให้ กกต. พิจารณา ซึ่ง กกต.กลาง จะรีบพิจารณา โดยตั้งเป้าว่าดำเนินการให้เสร็จภายในไม่เกิน 5 วัน 400 เขต เราจะใช้ระยะเวลาวันละ 100 เขต สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดปัญหากับเรา แต่ไม่ใช่เรื่องสะดวกสบาย เรามีการเตรียมและตั้งเป้าหมายการทำงานไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันเราต้องคำนึงถึงพรรคการเมืองที่ต้องมีเวลาในการดำเนินการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงจำเป็นต้องเผื่อเวลาให้กับพรรคการเมือง
“ในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ จะมีการประชุมร่วมกับพรรคการเมืองเข้ามาหารือเรื่องค่าใช้จ่ายว่าจำนวนที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไร และวิธีการทำไพรมารีโหวต เพื่อให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้อย่างถูกต้อง เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำงานทุกวัน และกล้าที่จะพูดว่าเราพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งให้ชอบด้วยกฎหมาย” นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ ยังกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ออกมาระบุว่าจะไม่ก้าวล่วง กกต. ทำให้การประสานงานออกมาในรูปแบบที่ดี ท่านเข้าใจในระยะเวลาเหล่านี้ การที่เรามีน้ำใจคิดหวังดีกับส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง อาจจะส่งผลร้ายกลับมาที่ กกต. หากมีความไม่เข้าใจข้อกฎหมายและระเบียบกำหนดว่าอย่างไร ข้อวิจารณ์ต่างๆ เรารับฟังตลอด ถ้าถูกต้องเราพร้อมรับมาปฏิบัติ
ส่วนอีกเรื่องกรณีการประกาศจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดที่พึงมี ซึ่งคิดจากข้อมูลการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 3 วันนี้เป็นข่าวดัง อยากทำความเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 86 กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่มีการประกาศปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งการประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จนถึงปี 2557 จะประกาศจำนวนราษฎรรวม ต่อมาปี 2558 เป็นปีแรกที่สำนักทะเบียนกลางประกาศโดยแยกชาย-หญิงของคนที่มีสัญชาติไทย และคนที่ไม่มีสัญชาติไทย และปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งการคิดจำนวนราษฎรต้องคิดยอดรวมอย่างเดียว
“การคิดอย่างนี้เคยมีปัญหาเมื่อปี 2557 ที่อำเภอแม่สอด จะยกฐานะเป็นเทศบาล มีการโต้แย้งว่าควรจะรวมผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยเป็นราษฎรรวมหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นสอดคล้องกับ กกต. ว่าการคิดจำนวนราษฎรนั้นต้องคิดรวมทั้งหมดของบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยชอบด้วยกฎหมาย ที่ต้องแยกคนที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย เพราะต้องคำนึงถึงบุคคลที่มีสิทธิใช้บริการ และผู้เสียภาษีอากรในการคิดค่าธรรมเนียม คือผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยอาจจะได้รับแตกต่างจากผู้ที่มีสัญชาติไทย แต่การคิดจำนวนราษฎรต้องคิดรวมทั้งหมด ไม่ว่าผู้นั้นจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ หรือมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ เพราะคนที่มีสัญชาติไทยก็ไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่สอดคล้องต้องกันและทำมาโดยตลอด ข้อมูลที่นำเสนอคิดว่าทั้งสองปัญหานี้มีความกระจ่างพอสมควร” นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวถึงกรอบระยะเวลาการทำงานของ กกต. ที่จะพิจารณาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า ในช่วงวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ กกต.จังหวัด จะเร่งดำเนินการแบ่งเขตให้แล้วเสร็จใน 3 รูปแบบ จากนั้นวันที่ 4-13 กุมภาพันธ์ จะปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมือง และประชาชน วันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ กกต. จังหวัด จะสรุปและทำความเห็น เลือกรูปแบบเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอ กกต.กลาง โดยในวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ กกต.กลาง จะพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง คาดว่าใน 1 วันจะพิจารณาไม่ต่ำกว่าร้อยเขต
นายปกรณ์ ยังย้ำว่า จากการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ใน 30 จังหวัด พบว่าไม่มีจังหวัดไหนไม่สามารถแบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ซึ่งจะเห็นว่าจังหวัดใหญ่ๆ พร้อมแล้ว และตนได้กำชับว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด
ส่วนการแบ่งเขตที่เคยถูกข้อครหาเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 นายปกรณ์ ยืนยันว่า การแบ่งเขตในการเลือกตั้งดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย และการที่ระบุว่าแบ่งเขตแบบเส้นก๋วยเตี๋ยว ในเรื่องนี้ตนได้ลงพื้นที่ไปดูในจังหวัดสุโขทัย พบว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ภูเขา แต่มีความกว้างที่ห่างกันกิโลเมตร ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
นายปกรณ์ ยืนยันว่า กกต. มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะยุบสภาฯ ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน หรืออยู่ครบวาระ ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ไม่ว่าจะเกิดกรณีใดเราสามารถดำเนินการได้ ส่วนกรณีพรรคการเมืองร้องว่าป้ายหาเสียงถูกทำลาย เรื่องนี้ กกต.จังหวัด และ กกต.กทม. ดูแลอย่างเต็มที่ แม้ว่าขณะนี้จะถือว่ายังไม่มีผู้สมัคร หรือว่ายังไม่มีเขตเลือกตั้งที่ชัดเจนที่จะเป็นองค์ประกอบให้สามารถดำเนินการเอาผิดได้ แต่ได้มีการรวบรวมข้อมูล ซึ่ง กกต. จะพิจารณาทุกคำร้องและทุกความเห็น.-สำนักข่าวไทย.