เห็นชอบส่งญัตติด่วนช่วย “ตะวัน-แบม” ให้รัฐบาล

รัฐสภา 1 ก.พ.-ฝ่ายค้าน เสนอญัตติด่วนช่วย “ตะวัน-แบม” ด้าน “หมอชลน่าน” ห่วงจะไม่มีการเลือกตั้งหากปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่เห็นด้วยปฏิรูปศาลให้การดำเนินดคีกับผู้ต้องหาเกิดความยุติธรรม

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (1ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงในวันนี้ ( 1 ) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องสิทธิการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการประกันตัว จากกรณีตะวัน และ แบม อดอาหารประชุมท้วงจนเสียงอันตรายต่อชีวิต จึงอยากให้สภาฯร่วมกันพิจารณาเพื่อหาทางออกโดยเร็ว ทำให้ ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนายศุภชัย ใจสมุทร ลุกขึ้นแสดงความเห็น ว่า เห็นด้วยที่จะมีพิจารณาเรื่องนี้ แต่ขอให้เสนอเป็นญัตติในวันพรุ่งนี้ ( 2 ก.พ. ) ได้หรือไม่ เพราะร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ถูกสกัดอยู่ตลอดทำให้เสียเวลาพิจารณาไปมากแล้ว


ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันต้องเสนอญัตติภายในวันนี้(1ก.พ.) เท่านั้น เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเวลาของชีวิตคน ซึ่งอาจจะเสียชีวิตได้ทุกวินาที อีกทั้งหากพิจารณาร่างกฎหมายกัญชา กัญชงในวันนี้(1ก.พ.)ก็ยังไม่จบ เหลืออีกกว่า 70 มาตรา และยืนยันพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมกันพิจารณาญัตติอย่างจำกัด

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า พอทราบว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้ ซึ่งตนเองก็มีความเป็นห่วงเยาวชนทั้ง 2 คนเช่นเดียวกัน จึงได้รวบรวมข้อมูลเพื่อมาชี้แจงในสภา แต่ตนเองมีเวลาเพียงครึ่งวัน เพราะมีภารกิจต่อที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงมีเวลาค่อนข้างจำกัด แต่ยังไม่ทันพูดจบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นชี้แจงว่า เมื่อทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลต้องการหาทางออกเรื่องนี้ พรรคภูมิใจกว้างพอ แต่มีเงื่อนไขว่า ขอให้พรรคฝ่ายค้านร่วมเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่างกฎหมายกัญชาฯด้วย ก่อนจะทิ้งท้ายว่านี่ถือว่าเป็นสัจจะลูกผู้ชาย
จากนั้น นายจุลพันธ์ จึงรับปากจะอยู่เป็นองค์ประชุมจนกระทั่งปิดการประชุม และยืนยันจะรักษาเวลาในการพิจารณาที่ได้ใน 2 ชั่วโมง


เมื่อเข้าสู่การพิจารณาญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ ได้อภิปรายโดยการคาดการณ์ว่าจะมีการยุบสภาฯในวันที่ 15 มีนาคมนี้ แต่เป็นห่วงว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง หากปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีใครต้องการให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยไม่ทำอะไร ซึ่งถือว่าเป็นความอำมหิตในการใช้ชีวิตของเยาวชนในการสืบทอดอำนาจ เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงต้องสืบหากว่าเป็นใคร สมควรอยู่ในประเทศนี้หรือไม่ แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก และแนวทางป้องกัน พร้อมฝากไปถึงนายสมศักดิ์ว่า การที่เยาวชนทั้ง 2 คนเรียกร้องขอออกไปรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มั่นใจ เพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่ทำให้ผู้ต้องขังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาชีวิตได้หรือไม่ และแม้ว่าจะเป็นเจตนารมณ์ของเยาวชนทั้ง 2 ที่จะอดอาหารและน้ำ แต่หากเห็นว่าเสี่ยงต่อชีวิต แพทย์และรัฐมนตรีฯต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวในการช่วยเหลือเพื่อรักษาชีวิต พร้อมหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังข้อเสนอของสภาฯในวันนี้ เพื่อรักษาชีวิตและทำตามข้อเสนอที่พอเป็นไปได้ของเด็กทั้ง 2

ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ แต่การส่งตัวทั้ง 2 คนไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เนื่องเห็นว่าในทางการแพทย์ ถ้าอดอาหารถึง 14 วันจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ย้ำว่า พยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้มาตั้งแต่วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา โดยได้พูดคุยกับหลายฝ่าย ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้หารือกับกรรมการสิทธิมนุษยชนร่วมด้วย เพื่อร่วมกันทำงานในกรอบที่กระทรวงสามารถทำได้โดยเร็ว และมีข้อสรุปออกมา 4 ประเด็น คือ 1. ปฏิรูปในประเด็นการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อให้สอดคล้องกับหลักในมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญ คือให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดในสคดีอาญา และ การจับกุมหรือคุมขัง ให้กระทำได้เพียงเท่าที่จำเป็น 2.พิจารณาทบทวนระเบียบปฏิบัติที่ใช้บังคับผู้ต้องขังในคดีความแตกต่างทางความคิด 3.ให้การสนับสนุนหลักประกันในการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาผ่านกองทุนยุติธรรม 4. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะให้การสนับสนุนในการทำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนไปยังคณะรัฐมนตรีรัฐ สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปัญหาสิทธิในการประกันตัว ของผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ในฐานความผิดจากการแสดงออกทางการเมือง เพื่อส่งให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ และความยุติธรรม อีกทั้งยังเห็นว่าในสังคมปัจจุบันมีความเห็นที่แตกต่างเกิดขึ้นมากมาย แต่ 3เสาหลัก ใช้อำนาจผ่านฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ กลับใช้ความรุนแรงทางกายภาพและความรุนแรงทางกฎหมายปราบคนที่มีความเห็นต่าง จึงเสนอบันได3ขั้นในการหาทางออกว่า 1.ควรคืนสิ่งที่ควรจะมีตั้งแต่แรกคือสิทธิการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ตัดสินอย่างมีบรรทัดฐานและมีสารภาพโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารคนใด 2.ขอให้นิรโทษกรรมผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองและนักโทษคดีทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นมาตรา 112 มาตรา116 ซึ่งจะเป็นการเซ็ต Zero และปล่อยให้ประเทศไทยเดินไปสู่อนาคต และ3เมื่อชำระเรื่องในอดีตไปแล้ว ต้องป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในอนาคต จึงเชื่อว่าหากทำตามข้อเสนอเหล่านี้แบมและตะวันก็มีโอกาสที่จะมีชีวิตต่อไป
ทั้งนี้การอภิปราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน เห็นด้วยเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของศาล ที่เห็นว่าควรมีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถูกดำเนินคดีมากขึ้น


ในที่สุดที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบให้รับญัตติดังกล่าวส่งไปให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป .-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]

โฆษก ทบ. ซัดเขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมร

2 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก ซัด เขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมรจนพิการและมีปัญหาทางจิต ยันมีหลักฐานชัดทำทุกอย่างภายใต้กติกาสากล จากกรณี สื่อกัมพูชาปั่นข่าวหนักโจมตีกล่าวหาไทย อ้างว่าปฏิบัติโหดกับ 2 ทหารกัมพูชาที่ถูกส่งกลับ จนพิการและมีปัญหาทางจิต พร้อมจะยื่นเรื่องถึงยูเอ็นนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 11.08 น. วันที่ 2 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีที่ทหารไทยจับกุม และควบคุมตัว ทหารกัมพูชา ภายหลังจากข้อตกลงหยุดยิง โดยกล่าวหาว่าไทยทำร้ายร่างกายอย่างไม่เป็นธรรมทำก่อนส่งกลับนั้น เป็นเพียงคำกล่าวหา บิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา และการหยุดยิงแบบฉับพลัน แต่สถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธต่อกัน ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างแท้จริงตามกฎหมายสากล กระบวนการฝ่ายทหารในการควบคุมตัวไว้ก่อน จึงยังสามารถทำได้ตามอนุสัญญาเจนีวา พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบก มีแผนและพร้อมที่จะเชิญองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ICRC มาดูความเป็นอยู่ของเชลยศึกที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งอยู่ในกรอบการดำเนินการตามขั้นตอนของอนุสัญญาเจนีวาอย่างสมบูรณ์ และชัดเจน หากกังวลเรื่องความเป็นอยู่ เพราะรู้เท่าทันว่าฝ่ายกัมพูชาจะนำเรื่องนี้ไปบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายทหารไทย ทางผู้แทน UNHCR และ ICRC จึงสามารถขอเข้ามาดูได้ […]